‘ฮุนเซน’สวมบทหมอดูทำนายไทย
3เดือนมีนายกฯใหม่
เพื่อไทยเหน็บแค่ดิสเครดิต
กลัวรบ.พังยอมถอย‘กาสิโน’
ห้าวดัน‘นิรโทษฯ’เสียบแทน
พปชร.หนุนภท.เปิดซักฟอก
“ฮุนเซน”ฟาดเปรี้ยงอีก 3 เดือนไทยเปลี่ยนตัวนายกฯใหม่ ด้านรบ.ไม่หวั่นไหว-ซัดทำนายไปเรื่อยหวังดิสเครดิต ยืนยันรัฐบาลมั่นคง“มนพร”เผยเปิดสมัยประชุมสภาฯเลื่อน“ร่างก.ม.เอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์”ออกไปก่อน ต้องทำความเข้าใจมากกว่านี้ แนะ“สว.”ยึดประโยชน์ประชาชนเป็นที่ตั้ง แก้ครหาเป็นคนพรรคการเมือง ไม่หวั่น‘เสียงปริ่มน้ำ’หากสส.รู้หน้าที่ตัวเอง ‘ประเสริฐ’ชี้ซักฟอกเร็วไป เพิ่งจะปรับครม.จ้องเล่นงานแล้ว แต่ไม่หวั่นรมต.เพื่อไทยยึดกฎหมายทำถูกต้อง เมิน”อนุทิน”เย้ยคุม”มหาดไทย-ศึกษาฯ”สมัยนั้นดีกว่า เผยมีคนร้องแล้วสอบทุจริตงบฯ’ศธ.-อว.’กว่าหมื่นล้าน แย้มมท.’ภูมิธรรม’จ่อคิวสอบแล้ว
เมื่อวันที่ 25มิถุนายน2568 สื่อกัมพูชา”ขแมร์ ไทมส์”ตีพิมพ์บทความรายงานความเคลื่อนไหวของสมเด็จฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เกี่ยวกับการทดสอบดูการแทรกแซงจากภายนอก ในสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งหมายถึงการโพสต์เมื่อวันที่ 24มิ.ย.ที่ผ่านมาของสมเด็จฮุน เซน ผ่านทางเฟซบุ๊ก เป็นการทดสอบว่า บุคคลภายนอกก่อกวนเฟซบุ๊กของตนอย่างไรบ้าง โดย สมเด็จฮุน เซน ระบุว่า พฤติกรรมที่พบสะท้อนถึงความพยายามอย่างเป็นระบบในการก่อกวนที่มีต้นตอมาจากกรุงเทพฯ โดยตั้งข้อสังเกตว่าในสถานการณ์ปัจจุบัน ไม่ใช่จะมีการรุกรานแค่ดินแดนเท่านั้น แต่เฟซบุ๊กเองก็ตกเป็นเป้าด้วยเช่นกัน
นอกจากนี้ยังเสริมว่า ตนประเมินได้ว่าการสร้างความขัดแย้งกับกัมพูชา เป็นไปเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจจากปัญหาขัดแย้งภายใน แต่ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนก็ไม่สามารถปกปิดการแย่งชิงอำนาจภายในได้ พร้อมระบุว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงผู้นำในประเทศไทยภายในระยะเวลา 3เดือนข้างหน้าและรู้แล้วว่านายกรัฐมนตรีคนต่อไปจะเป็นใคร แต่ไม่ขอเปิดเผย ปล่อยให้คาดเดากันต่อไป
รบ.ไม่หวั่น-ทำนายไปเรื่อย-ดิสเครดิต
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่สมเด็จฮุน เซน โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า “อีก3เดือนประเทศไทยจะได้นายกรัฐมนตรีใหม่”ว่า ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวกับการโพสของสมเด็จฮุน เซนและเป็นการทำนายไปเรื่อย ปราศจากข้อเท็จจริง คงจะพยายามดิสเครดิตประเทศไทย แต่ยืนยันว่า รัฐบาลไทยอยู่ได้มีความมั่นคง เพราะเสียงสนับสนุนรัฐบาลมีเพียงพอ ส่วนที่ช่วงนี้ สมเด็จฮุน เซน ใช้โซเชียลมีเดียดิสเครดิตและแทรกแซงการเมืองไทย ซึ่งมีคนไปดำเนินการเอาผิดแล้ว ส่วนจะร้องต่อนานาชาติด้วยหรือไม่ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องคงต้องไปดำเนินการและที่เฟซบุ๊กสมเด็จฮุน เซน หายไป เพราะเจ้าตัวปิดเอง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ไม่ได้ปิด แต่ถือเป็นเรื่องดี เพราะไม่อยากดูอยู่แล้ว
ซัดคิดไปเองไทยพาทัวร์ลงเฟซบุ๊ก
เมื่อถามถึงกรณีที่สมเด็จฮุน เซน กล่าวหาว่าหน่วยงานรัฐของไทยพาทัวร์ไปลงเฟซบุ๊กนั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่จริง คงเป็นความรู้สึกและข้อกังวลของตัว สมเด็จฮุน เซนเอง เพราะเห็นว่าเจ้าตัวติดโซเชียลมีเดียมาก ดูหัวเตียงนอนมีโทรศัพท์วางไว้และชาร์จแบตตลอด แสดงว่าสมเด็จฮุน เซน ตื่นมาก็คงจะดูโซเชียลมีเดียแล้ว ยืนยันว่าการใช้โซเชียลมีเดียของกัมพูชาโจมตีหรือกล่าวหาประเทศไทยหลายเรื่อง เราก็พยายามทำของเราเพราะหลายประเทศได้รับผลกระทบ ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน การได้รับผลกระทบก็ต้องป้องกันคนไทยจากการถูกหลอกลวง เพราะคนไทยต้องมาก่อน
‘อิ๊งค์’แค่ยิ้ม-ไม่ตอบเปลี่ยนนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีและกล่าวเปิดการประชุมนานาชาติหน่วยยามฝั่งอาเชียน ที่โรงแรมฮิลตัน พัทยา ก่อนเดินทางกลับ ผู้สื่อข่าวได้สอบถามกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมยื่นอภิปรายไว้วางใจนายกฯ รวมถึงกรณีสมเด็จฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา แสดงความคิดเห็นในเฟซบุ๊ก ว่า ประเทศไทยจะเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี ในอีก 3 เดือนข้างหน้า โดย น.ส.แพทองธาร ยิ้มให้ผู้สื่อข่าว โดยไม่ตอบคำถาม ก่อนขึ้นรถเดินทางกลับกรุงเทพฯทันที
‘มนพร’แจงเลื่อนพรบ.กาสิโนแล้ว
นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม ให้สัมภาษณ์กรณีจะเปิดประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภา ในวันที่ 3ก.ค.รัฐบาลจัดลำดับกฎหมายในการพิจารณาอย่างไรบ้างว่า ต้องดูวาระการประชุมเดิมในวันที่ 3ก.ค. ซึ่งตรงกับวันพฤหัสบดี เป็นการพิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา กระทู้ถามทั่วไป และกระทู้แยกเฉพาะ และในช่วงบ่ายจะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ต่างๆ ที่กรรมาธิการพิจารณาเสร็จแล้ว และในวันที่ 9 กรกฎาคม จะเป็นการพิจารณากฎหมาย ซึ่งเดิมวาระของสภาฯ พิจารณาเรื่องแรก คือ ร่างพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ต่อด้วยร่าง พรบ.สังคมสันติสุขและร่าง พรบ.นิรโทษกรรม รวมประมาณ 4ร่าง ขณะนี้ฝ่ายรัฐบาลก็รับฟังเสียงจากพี่น้องประชาชนในเรื่องของความไม่เข้าใจของเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ ซึ่งได้มีการสื่อสารตลอดช่วงปิดสมัยประชุมเพื่อให้ประชาชนเข้าใจว่ามีเรื่องกาสิโนเพียงแค่ 10เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นเรื่องการจัดศูนย์แสดงสินค้า หรือกิจกรรมต่างๆ เพื่อความแข็งแรงของเศรษฐกิจในประเทศในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้
อ้างฟังเสียงปชช.แล้วจึงเลื่อนไปก่อน
เมื่อถามถึง กรณีที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เรียกร้องให้รัฐบาลถอดถอนร่าง พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อนนั้น นางมนพร กล่าวว่า จริงๆ ไม่ต้องให้ทางฝ่ายค้านแจ้งก็ได้ รัฐบาลมีการทบทวนและฟังเสียงประชาชนอยู่แล้ว อะไรที่ที่ประชาชนมีความคราแคลงใจ รัฐบาลต้องรับฟังเสียงทุกเสียงเพราะถือว่าเป็นเสียงสะท้อนและยอมรับว่าขณะที่เราเสนอนั้น เราอาจไม่ได้สื่อสารให้ประชาชนเข้าใจ เราไม่ได้สร้างบ่อนหรือกาสิโนใดๆ เรามีกาสิโนแค่ 10เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ฉะนั้นเมื่อเราได้ฟังเสียงของประชาชนเป็นวงกว้าง เราจึงให้วิปรัฐบาลทบทวน เมื่อถามว่า การทบทวนหมายถึงการทบทวนเรื่องลำดับแต่ไม่ได้มีการถอนออกใช่หรือไม่ นางมนพร กล่าวว่า ในเมื่อกฎหมายฉบับนี้ถูกบรรจุในระเบียบวาระ เราต้องรับฟังเสียงรอบด้าน เรื่องนี้เป็นเรื่องของสมาชิกสภาฯ จึงต้องฟังเสียสมาชิกด้วยว่า จะถอนหรือไม่ หรือจะเลื่อนออกไป
‘ภท.’เร่งซักฟอกกลัวนายกฯไปก่อน
นายธนยศ ทิมสุวรรณ สส.เลย พรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ออกมาตั้งข้อสงสัยถึงความเคลื่อนไหวของพรรคภูมิใจไทยในการเตรียมยื่นญัตติขออภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล เมื่อเปิดสมัยประชุมสภาฯช่วงต้นเดือนก.ค.นี้ อาจเป็นการกระทำของฝ่ายแค้นมากกว่าฝ่ายค้านว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นหน้าที่ของ สส. ซึ่งเป็นสิทธิ ตามรัฐธรรมนูญ เพื่อตรวจสอบการทำงานของคณะรัฐมนตรีโดยไม่จำเป็นต้องมีความแค้นเคือง เพียงแต่หากพบความไม่ชอบมาพากล ก็ทำได้แล้ว อย่าเอาคำว่า“ฝ่ายแค้น”มาด้อยค่าบทบาทหน้าที่ในการตรวจสอบ แล้วที่พวกผมรีบยื่น เพราะกลัวจะไม่มีโอกาสได้อภิปรายท่านนายกรัฐมนตรีเกรงว่าท่านจะไปก่อนที่พวกผมจะได้ชักกระบี่ เนื่องจากท่านนายกรัฐมนตรีก็มีคดีรออยู่ไม่น้อย
ปมคลิปเสียงคนสนใจทั้งประเทศ
นายธนยศ ยังกล่าวถึงนายจิรายุว่า ท่านไม่ต้องออกมาตอบโต้หรอกว่าเราจะเป็นฝ่ายค้านหรือจะฝ่ายแค้น เพราะเราก็ใช้กลไกของสภา แต่เข้าใจว่าที่ท่านออกมาตีโพยตีพาย เพราะท่านไม่มีโอกาสพูดในสภาผู้แทนราษฎร ก็ถือว่าให้ท่านได้ทำหน้าที่ของท่านไป ส่วนตนก็จะทำหน้าที่ สส. ที่มีประชาชน จำนวนมาก ต้องดูแลแก้ไขปัญหา บทบาทของพรรคภูมิใจไทยในวันนี้คือการทำหน้าที่ฝ่ายค้านที่พร้อมตรวจสอบอย่างสร้างสรรค์ จะไม่ปล่อยให้ประเด็นที่กระทบต่ออธิปไตยของประเทศ โดยเฉพาะคลิปเสียงที่กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม ถูกปัดตกด้วยคำว่า สร้างความสามัคคี โดยปราศจากการตรวจสอบข้อเท็จจริง
ปชน.รอถกฝ่ายค้านร่วมยื่นซักฟอก
นายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคประชาชน(ปชน.)ให้สัมภาษณ์ถึงการเตรียมความพร้อมในการอภิปรายไม่ไว้วางใจของพรรคประชาชน ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ประกาศจะยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจตามรัฐธรรมนูญ มาตรา151 เมื่อมีการเปิดสมัยประชุมสภาว่า ต้องขอบคุณพรรคร่วมฝ่ายค้านน้องใหม่ อย่างพรรคภูมิใจไทย ที่ใช้วิธีการเชิญชวนพรรคร่วมฝ่ายค้านอื่นผ่านสื่อมวลชน ตามที่พรรคภูมิใจไทยมีข้อเสนอขึ้นมา เมื่อได้ข้อสรุปภายในพรรคจะหารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน ตอนนี้ต้องยอมรับว่า เมื่อมีการเปลี่ยนองค์ประกอบของรัฐบาล ก็มีหลายอย่างที่ต้องตัดสินใจร่วมกัน ทั้งเรื่อง มาตรา151และการตั้งวิปฝ่ายค้านชุดใหม่ที่ต้องให้เป็นไปตามสัดส่วนของพรรคร่วมฝ่ายค้านด้วยเช่นเดียวกัน
‘ลุงป้อม’สั่งสส.พปชร.ลงชื่อถล่มด้วย
นายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคได้สั่งการให้ สส.ร่วมลงชื่อกับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพื่อยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯเนื่องจาก ไม่สามารถที่จะไว้วางใจ น.ส. แพทองธาร ในการทำหน้าที่ผู้นำรัฐบาลอีกต่อไป เพราะมีพฤติการณ์ที่จะนำพาให้ประเทศเข้าสู่ความเสี่ยง ส่งผลให้ประเทศไทยอาจเสียเปรียบในการรักษาอธิปไตยในประเด็นคลิปเสียงสนทนากับฮุน เซน เพราะสะท้อนให้เห็นว่า เป็นผู้นำที่มีความอ่อนแอ ขาดประสบการณ์การเจรจาระหว่างประเทศ พล.อ.ประวิตร เห็นว่าการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ สส.ทุกคนพร้อมร่วมลงชื่อยื่นขอเปิดการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯในฐานะผู้นำรัฐบาล แม้การจัดตั้งครม.ชุดใหม่ยังไม่เรียบร้อย
‘พท.’ขู่’ภท.’ระวังย้อนผลงานเก่าตัวเอง
ด้าน นายสุทิน คลังแสง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีที่พรรคภูมิใจไทย เตรียมจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกฯและครม.ตามมาตรา151 ในช่วงเปิดสมัยประชุมสภา วันที่ 3ก.ค.ว่า ขอตั้งข้อสังเกตว่าตามรัฐธรรมนูญให้อภิปรายไม่ไว้วางใจได้ปีละหนึ่งครั้ง หากนับตามปีปฏิทินฝ่ายค้านก็เพิ่งอภิปรายไปเมื่อสองเดือนที่แล้ว แต่หากนับตามสมัยประชุมก็สามารถทำได้ หากพรรคภูมิใจไทยยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล ส่วนตัวมองว่าอาจจะเข้าตัวพรรคภูมิใจไทยด้วยหรือไม่ เพราะหากมีการอภิปรายพาดพิงไปถึงกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ หรือกระทรวงที่พรรคภูมิใจไทยดูแลอยู่ รัฐมนตรีคนเก่าย่อมหนีไม่ออกอยู่แล้ว ย่อมจะต้องถูกพาดพิงถึงผลงานที่พวกท่านได้ทำมาด้วย ที่สำคัญพวกท่านได้หารือกับพรรคประชาชนซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านอันดับหนึ่งแล้วหรือไม่ พรรคภูมิใจไทยเพิ่งเป็นฝ่ายค้านได้สามวันเอง หากพรรคประชาชนไม่เอาด้วย ผมมองว่า อาจจะเกิดปัญหา เป็นห่วง เพราะอยากให้ฝ่ายค้านมีความเข้มแข็ง เพราะที่ผ่านมาพรรคภูมิใจไทยเป็นรัฐบาล ก็มักชิงการนำในฝ่ายรัฐบาลอยู่เสมอ เมื่อไปอยู่ฝ่ายค้านก็กลัวว่าท่านจะไปชิงการนำกับทางพรรคปชน.อีก พรรคภูมิใจไทยเป็นพรรคฝ่ายค้านอันดับสอง ก้าวแรกก็ชิงจะเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจเองแล้ว ทั้งที่เสียงก็ไม่ถึง ได้ปรึกษาหัวหน้าพรรคปชน.ซึ่งเป็นผู้นำฝ่ายค้านแล้วหรือยัง อยากให้ท่านให้เกียรติผู้นำฝ่ายค้านด้วย
‘ประเสริฐ’ชี้ซักฟอกเร็วไป-เพิ่งปรับครม.
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ในฐานะแกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้ความเห็นกรณีพรรค ภท.เตรียมยื่นญัตติเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 3ก.ค.ว่า สภาเปิดแล้วก็เป็นเรื่องที่สามารถทำได้ ซึ่งก็อยู่ในข้อบังคับและระเบียบตามรัฐธรรมนูญที่ตรวจสอบรัฐบาล แต่รัฐบาลเพิ่งปรับ ครม.ถือเป็นการปรับใหญ่พอสมควร เพราะฉะนั้นต้องปล่อยให้รัฐบาลทำงานไปก่อน ถ้ายื่นญัตติอภิปรายเลย โดยที่รัฐบาลยังไม่ได้ทำงานในฐานะรัฐบาลที่มีการปรับ ครม.แล้ว ต้องมองประเด็นเดียวเลยคือ ประเด็นการเมือง การตรวจสอบขอให้ใช้เหตุใช้ผล อย่าใช้อารมณ์หรือใช้การเมืองเข้ามา เพราะประเทศต้องเดินต่อ ในเรื่องนี้ตนมองว่าพรรคภูมิใจไทย จริงๆ ไม่เคยเป็นฝ่ายค้านมาก่อน เพิ่งจะมาเป็นครั้งนี้ครั้งแรกในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน
ปูด’ศธ.’มีข่าวทุจริตหมื่นล้านซื้อคอมฯ
เมื่อถามว่า พรรค ภท.บอกว่า พรรคเพื่อไทยดูแลกระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุข ไม่ได้ดีเท่ากับตอนที่พรรคภูมิใจไทยบริหาร นายประเสริฐ กล่าวว่า ไม่จริง เรื่องนี้ตนขอปฏิเสธ เพราะขณะนี้นายกฯ ได้มอบหมายภารกิจในเรื่องของการให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีไปกำกับดูแลกระทรวง ตอนนี้เริ่มมีผู้ร้องว่าในสมัยนั้น (สมัยพรรคภูมิใจไทย) มีการกระทำที่ไม่ชอบมาพากลหลายเรื่อง จึงอยากให้รัฐบาลเข้าไปตรวจสอบ โดยเรื่องที่ได้เข้าไปตรวจสอบเป็นเรื่องการใช้งบประมาณ โดยตามที่ตนได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ได้มีการทำหนังสือแจ้งมาถึงตนแล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญและเป็นเรื่องเร่งด่วนที่ต้องทำ ซึ่งก็มีเรื่องที่มีคนมายื่นหนังสือกับตนทันทีที่ได้รับมอบหมายให้ดูแลกระทรวงศึกษาธิการ ก็มีเรื่องไม่ชอบมาพากลในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้างเรื่องของระบบคอมพิวเตอร์ โดยเป็นวงเงินที่สูงกว่าปกติ โดยระบุว่ามูลค่าความเสียหายเป็นหมื่นล้าน ส่วนกระทรวงมหาดไทย มีคนมาร้องหรือไม่ ตนได้ยินข่าว แต่เป็นเรื่องของ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม เป็นผู้กำกับดูแล ส่วนตนรับเรื่องในส่วนกระทรวงศึกษา และกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี