‘จตุพร’ซัด‘รมต.เงาตัวใหญ่’สั่งสกัดพลังปกป้องอธิปไตย ฟาดโง่บัดซบที่สุด ท้ากล้าสั่งขวางต้องรับผิดชอบในวันข้างหน้าด้วย เชื่อกองเชียร์รัฐยิ่งปั่นหัว คนยิ่งมามากโดยอัตโนมัติ ลั่นตามหา‘ทักษิณ’คุณอยู่ไหน ถามทำไมกบดานเงียบ หรือกลัว‘ฮุน เซน’จึงไม่กล้าออกมาปกป้อง‘ลูกอิ๊งค์’ คาดเวลา‘นายกฯ’เหลือน้อย พรรคร่วมจะกดดันต่อรองสูง อ่านทางดัน‘นิรโทษกรรม’แทน‘กาสิโน’ หวังแยกทำลายสามัคคีฝ่ายค้าน
26 มิถุนายน 2568 นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยเตือนสติรัฐมนตรีเงาคนตัวใหญ่สั่ง ผวจ.และเจ้าหน้าที่รัฐสกัด ขัดขวางประชาชนมาร่วมสำแดงพลังปกป้องอธิปไตยว่า เป็นคำสั่งที่โง่บัดซบที่สุด
“ในสถานการณ์ต้องสู้กับความไม่ตรงไปตรงมา เราต้องตรงไปตรงมา สู้กับคนฉ้อฉลเราต้องทำตัวให้ตรง เมื่อเราไม่ชอบอะไร ต้องไม่ทำสิ่งนั้น ดังนั้น การที่คุณจะทำอะไรกับคนมาปกป้องอธิปไตย จึงไม่ใช่คนโง่ธรรมดา แต่โง่บัดซบที่สุด เพราะยิ่งมาขัดขวาง คนยิ่งจะฝ่าข้ามไป”
นายจตุพร กล่าวว่า คนที่มาสำแดงพลังแผ่นดินวันที่ 28 มิ.ย.นี้ ส่วนใหญ่เป็นมิตรร่วมรบในเหตุการณ์พฤษภา 35 พวกเขามาด้วยการยึดชาติบ้านเมืองเป็นหลัก และยืนยันไม่เรียกร้องรัฐประหาร ไม่เอาทหารยึดอำนาจ ดังนั้น ถ้าเอาชาติเป็นที่ตั้ง ใครมาปั่นหัวเราไม่ได้
ขณะเดียวกันการสำแดงพลังปกป้องอธิปไตยในวันที่ 28 มิ.ย. จะมีคนขึ้นเวทีปราศรัยตั้งแต่เที่ยง เพราะมีคนมาร่วมมาก ทั้งทหารเก่า และอดีตข้าราชการระดับสูง จึงชวนเชิญประชาชนมาร่วมโบกธงชาติไทยให้สะบัดกระพือไหวถึงความรักชาติของคนในบ้านเมืองนี้ว่า มันยิ่งใหญ่เพียงใด ซึ่งอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิเป็นสถานที่เหมาะสมที่สุดต่อการสำแดงพลังรักชาติบ้านเมือง
“ต้องเตือนบรรดารัฐๆ ทั้งหลาย เมื่อประชาชนมาสำแดงพลังแล้ว อย่าได้พลิกแพลงคำสั่งจะทำให้เจ้าหน้าที่เดือดร้อน ถ้าต้องการมีเรื่องก็ไม่ยากอยู่แล้ว เพราะแกนนำแต่ละคนที่มาร่วมกันปกป้องอธิปไตยล้วนผ่านเรื่องราวต่างๆ กันมากมาย”
นายจตุพร ระบุว่า สิ่งสำคัญที่สุดเวลานี้ เราไม่ได้จัดตั้งคนมาร่วมชุมนุม แต่เราวัดหัวใจประชาชน เพราะมันไม่ใช่เรื่องของเราเพียงคนเดียว แต่เป็นเรื่องของคนไทยทั้งชาติ ไม่ใช่เรื่องหิวแสงอะไร ซึ่งเลยเวลากันมาหมดแล้ว มันจึงเลยความอยากหรือต้องการเป็นอะไร แต่เราต้องการบอกประชาชนว่า เราจะรักษาประเทศนี้เอาไว้ได้อย่างไรต่างหาก สิ่งสำคัญ ความรู้สึกนี้ความเป็นจริงเป็นสิ่งสวยงาม เมื่อรัฐบาลง่อนแง่นอยู่แล้ว แค่รัฐบาลไม่ทำตัวเป็นอุปสรรคขัดขวางถือว่าทำดีที่สุดแล้ว และไม่ต้องมาสนับสนุนเรา เพราะเราไม่อยากได้การสนับสนุนจากรัฐบาล
“ถ้าเราพิสูจน์ชัดว่า มีขบวนการขัดขวางกันจริง ใครขัดขวางคุณต้องพร้อมรับผิดชอบในวันข้างหน้า เพราะเรามองกระดานทางการเมืองออก เรื่องนายกฯ และ ครม.นั้นมีเวลาของกฎหมายจัดการอยู่แล้ว วันที่ 1 ก.ค. ศาล รธน.นัดประชุมพิจารณาจะรับหรือไม่รับคำร้องของ สว. และถ้ารับแล้วจะสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หรือว่ารับแล้วไปสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นายกฯ ในประชุมครั้งถัดไป (8 ก.ค.) ซึ่งอย่างไรก็หนีไม่พ้น”
นายจตุพร กล่าวอีกว่า ส่วนคำร้องฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญ ม.144 ที่ยื่นต่อ ป.ป.ช.นั้น ก็รอส่งให้ศาล รธน.พิจารณาอยู่แล้ว นอกจากนี้ คดีของนายภูมิธรรม เวชยชัย แม้ได้รักษาการนายกฯ แต่มีเรื่องรอการวินิจฉัยของศาล รธน.เช่นกัน ดังนั้น เราไม่ได้วิตกว่า คนพวกนี้จะมั่นคงอยู่สถาพรกันเสียเมื่อไร
สำหรับกรณีสมเด็จ ฮุน เซน โพสต์ไทยจะมีนายกฯ ใหม่ไม่เกิน 3 เดือนและรู้ว่าเป็นใครนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เขามีสิทธิจะมองและคาดการณ์เรื่องราวซึ่งอยู่ในชั้นศาลพิจารณา ส่วนสถานการณ์จริงที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าในไทยนั้น อาจจะเร็วกว่าก็ได้
“รัฐบาลนี้อย่างไรก็ไปอยู่แล้ว นายกฯ เราเห็นเงื่อนไขเวลาอยู่แล้วในศาล รธน. ยิ่งมาพูดว่า คลิปเสียงหลุดมานั้น ตัวเองไม่ได้อะไรและประเทศไม่เสียอะไร ยิ่งซ้ำเติมวิกฤตหนักเข้าไปใหญ่ ถ้ามั่นหน้ากันขนาดนั้น แล้วแถลงขออภัยประชาชนทำไม”
นายจตุพร กล่าวว่า การสำแดงพลังในวันที่ 28 มิ.ย.นี้ จะได้ภาพสวยงามนำไปอวดกับชาวโลก หรืออวดกับคนกัมพูชาก็ได้ ว่าไทยประชากร 70 ล้าน เจ้าหน้าที่ประเมินจะมาสำแดงพลังแค่ 3 พัน ส่วนกัมพูชามีคน 17 ล้าน มาแสดงพลัง 1.5 แสนคน ดังนั้นขบวนการปั่นให้ปั่นเยอะๆ ถี่ๆ เพราะยิ่งปั่นเท่ากับเรียกคนมาร่วมสำแดงพลังโดยอัตโนมัติ
นายจตุพร กล่าวถึงพรรคร่วมรัฐบาลไม่ถอนตัวจากนายกฯ อุ๊งอิ๊งค์ ว่า เป็นตัวอย่างการจัดตั้งรัฐบาลตระบัดสัตย์ข้ามขั้ว ท้ายที่สุดพรรคการเมืองก็ถูกทำลาย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคพลังประชารัฐ ถูกทำลายเป็นพรรคแรก ส่วนพรรคภูมิใจไทย (ภท.) รู้เวลาดียิ่งมีเรื่องคลิปเสียงหลุดจึงหนีจากรัฐบาลไปเร็ว แต่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) รวมกันเป็นเอกภาพตามชื่อไม่ได้ เพราะมีหลายกลุ่มภายในที่จ้องฉุดดึงขัดขวางกันไว้
“การตั้งรัฐบาลตระบัดสัตย์แบบนี้ พรรคที่ตระบัดสัตย์กับประชาชนและพรรคร่วมกันมา แล้วทำลายกันระหว่างทาง จะแก้ไขปัญหาอะไรของบ้านเมืองได้ ยิ่งเลื่อนวาระประชุมสภากรณีบ่อนกาสิโนจากวาระที่ 1 ออกไป แล้วนำ ร่าง พรบ.นิรโทษกรรมขึ้นมาแทน ถือเป็นกลยุทธ์ทางการเมืองอย่างหนึ่ง เพราะต้องการแยกฝ่ายค้านส่วนหนึ่งไปมีมติร่วมกับพรรคเพื่อไทย ส่วน ภท. ไม่เอา 112 ขณะเดียวกัน รทสช.พรรคร่วมรัฐบาลยังมีลำบากใจเช่นกัน ถ้าเรื่องนี้เข้าสภา ยังไม่รู้จะใช้ร่าง พรบ. ฉบับไหน เพราะมีหลายร่าง พรบ.หรือจะรับทุกร่าง แต่ปัญหาจะเป็นเรื่องที่มีความขัดแย้งกัน มันจะชุลมุน แน่นอนการอภิปรายในวาระที่หนึ่งก็เริ่มสร้างปัญหาให้ขัดแย้งกันแล้ว”
นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อผ่านวาระที่หนึ่งแล้ว ร่าง พรบ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือบ่อนกาสิโน รอต่อท้ายให้สภาพิจารณาในการประชุมสภาครั้งหน้า ถ้าไม่พิจารณาต้องหาร่าง พรบ.อื่นมาเลื่อนอีกไปเรื่อยๆ จนอาจกลายเป็นร่างพรบงโรคเลื่อนหลบหลีกแรงต่อต้านของประชาชน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเพื่อไทยต้องการจะเอาบ่อนกาสิโนให้ได้ โดยสังเกตจากเมื่อชายแดนทหารปะทะกันที่ช่องบก รัฐบาลยังจัดงานอีเวนต์บ่อนกาสิโนอยู่ใน กทม. แล้วยังพูดสารภาพชัดว่า ถ้าไม่มีกาสิโน ต่างชาติก็ไม่มาลงทุนเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ถึงที่สุดแล้วเรื่องนี้ยังจะเป็นชนวนขัดแย้งกันได้ตลอดเวลา
นายจตุพร กล่าวว่า การเมืองแบบตระบัดสัตย์ข้ามขั้วนั้น มักจะหักหลังและแอบแทงหลังกันตลอดทางอยู่แล้ว จึงไว้ใจใครไม่ได้ ดังนั้น ประชาชนไม่ควรประมาทการเมืองที่ไร้ความจริงใจกันเช่นนี้อีก
พร้อมกล่าวว่า เมื่อพรรคเพื่อไทยต้องการยึด มท. แต่การพนันออนไลน์ กระทรวงดีอี ไม่ทำอะไรเลย ปราบไม่ได้ ที่สำคัญถ้าเปิดกาสิโนแล้ว พนันออนไลน์ที่เปิดขณะนี้ก็ถูกโยกมาสังกัดกาสิโนเป็นการจัดระบบกันเท่านั้นเอง วันนี้อยู่นอกระบบก็อิ่มหมีพีมันกันไปก่อน
ส่วนต่างชาติเช่าซื้อที่ดินและคอนโด 99 ปีที่ มท.เกี่ยวข้องด้วย เขาต้องเอาให้ได้ด้วย แม้กระทั่งโครงการแลนด์บริดจ์ภาคใต้ แถมที่ดิน 3 แสนไร่ ถ้าไม่มีเรื่องนี้ไม่มีใครโง่มาลงทุนหรอก แล้วยังมีระบบเงินตรา เรื่องนี้ก็ใช่ย่อยที่คิดอ่านฟอกเงินกับกัมพูชา ถ้าไม่แตกคอกับกัมพูชา เราก็ไม่รู้เรื่องเลย ดังนั้น หนทางข้างหน้ารัฐบาลไม่ได้ดีงามอะไร จึงหวังว่า เรื่องทองคำและเงินฝากที่กัมพูชานั้น เป็นจริงหรือเปล่า
“สังเกตว่า ทักษิณ ชินวัตร ไม่เคยออกมาตอบโต้สมเด็จฮุน เซนโดยตรงแม้แต่เรื่องเดียวเลย อาจกลัวทางนั้นจะตอบกลับมา ดังนั้น ทักษิณ อย่าเอาแต่ปากเร็วกว่าเสียง เมื่อลูกอิ๊งค์ถูกเล่นงานแบบนี้ คนเป็นพ่อยังทนได้เหรอ มันต้องออกมาตอบโต้กันไปเลย แต่นี้กลับสู้เต็มที่ด้วยการเงียบ ขณะที่ลูกสาวกลับมึนงง จะไปชายแดนที่จังหวัดสระแก้วอีก ถ้าคลิปเสียงไม่หลุดไม่มีเรื่องแบบนี้หรอก แอคทีฟที่สุดหลังจากคลิปหลุด”
นายจตุพร กล่าวว่า นักการเมืองย่อมมีโอกาสที่จะสร้างความศรัทธา สร้างสิ่งที่ถูกต้อง แต่เวลาที่ผ่านมานั้น ก่อนมีเรื่องขึ้น มันไม่มีการสร้างสิ่งเหล่านี้เลย อย่างไรก็ตาม ถ้าเขาอยู่กระทั่งประชาชนรักใคร่ เห็นความพยายามแก้ไขปัญหาชาติ แล้วทำผิดพลาดไปติดกับเขาขึ้นมา กระแสเห็นใจก็จะมี ถ้าคนๆ นั้นรับผิดชอบด้วย ยอมรับความผิดพลาดประกาศลาออก คนก็เรียกร้องให้กลับมาอีกนะ เพราะคนไทยเป็นคนให้โอกาสคน
“ดังนั้นเวลาของอุ๊งอิ๊งค์เหลือน้อยมาก ถ้าถูกศาล รธน.สั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ในวันที่ 1 หรือ 8 ก.ค. แล้วต้องนั่งรอคำวินิจฉัย เมื่อนายภูมิธรรม รักษาการนายกฯ ถ้าโดนอีก แล้วยังมีเรื่องจะถูกกวาดทั้งกระดานในกรณีคำร้อง ม.144 ล้วนเป็นปัญหาใหญ่ขวางอยู่ข้างหน้าทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม เราหวังกันว่า ถ้าอ้างถึงประชาธิปไตยอย่างสูงนั้น ถ้าคิดจะรักษาระบอบคุณก็มีโอกาสที่จะทำ แต่ส่วนใหญ่จะรักษาตัวเอง จะคิดเพื่อตัวเอง ไม่ได้คิดถึงระบอบ ไม่ได้คิดเรื่องชาติบ้านเมือง ซึ่งมักจะเป็นอย่างนั้นเสมอ”
นายจตุพร กล่าวว่า สิ่งสำคัญ เราไม่รู้ว่า ผู้นำกัมพูชามีเรื่องอะไรของผู้นำไทยและพ่อผู้นำไทย ดังนั้น เราตกเป็นเมืองขึ้นของฝ่ายกัมพูชาทันที เพราะเขาสามารถสั่งให้กระทำหรือไม่กระทำในบางเรื่องได้ อย่างไรก็ตาม สิ่งที่พูดว่าตัวเองไม่ได้อะไรและประเทศไม่เสียอะไรนั้น ความจริงประเทศเสียเกียรติภูมิ เพราะคุณเป็นนายกฯ ประเทศไทย ถ้าเป็นคนธรรมดาก็พูดไปเถอะ หลาน-ลุงไม่ใครถือสาอะไร แต่คนอาจมีความรู้สึกบ้างเท่านั้น แต่เมื่อเป็นนายกฯ มันทำไม่ได้
นอกจากนี้ การปรับ ครม.ใหม่ในช่วงที่นายกฯ อยู่ในช่วงความนิยมกระแสต่ำ อำนาจการต่อรองของพรรคร่วมที่เหลืออยู่ก็มีมากเท่านั้น ถ้านายกฯ มีความนิยมกระแสสูง ประชาชนยอมรับนับถือ ใครก็ต่อรองยาก เพราะภาพของนายกฯ จะสร้างความแข็งแรงให้กับรัฐบาล
นายจตุพร กล่าวว่า แม้ในสถานการณ์กระแสนิยมนายกฯ ตกต่ำ กลับมีเสียงหนุนให้อยู่ต่อ อย่ายุบสภา อ้างตัวเลขเสียงสนับสนุนมีพอ แต่สมัยรัฐบาลไทยรักไทย หรือเพื่อไทยที่ผ่านมาพังยับเยินไปนั้น ล้วนเป็นรัฐบาลเสียงข้างมาก ดังนั้น จึงไม่ได้อยู่ที่เสียง เพราะเสียงปกป้องอะไรไม่ได้ ถ้าปราศจากความถูกต้อง ความชอบธรรม และความยุติธรรมแล้ว เสียงมากก็อยู่ไม่ได้ แล้วทำไมมีความเชื่อและยึดมั่นในจำนวนเสียงอีก
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี