ชุมนุมใหญ่เริ่ม10โมงถึง3ทุ่ม
ถล่ม‘แพทองธาร’
รวมพลังแผ่นดินพร้อมลงถนน
แกนนำพรึ่บร่วมขึ้นเวที
คาดล้นอนุสาวรีย์ชัยฯ
ตร.จัด13กองร้อยดูแล
ตำรวจจัดกำลัง 13 กองร้อยดูแลความเรียบร้อย กลุ่ม “รวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย” ชุมนุมใหญ่ 28 มิถุนายน 10 โมง ถึง 3 ทุ่ม ถล่ม “อิ๊งค์”เผยเตรียมเวทีใหญ่ แกนนำพร้อมยอดเงินบริจาคเพียบ เตือน “ผู้ว่าฯ” ทุกจังหวัด อย่าสกัดคนมาร่วมงาน
เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2568 ที่ห้องราชา โรงแรมรัตนโกสินทร์ คณะรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทย นำโดย นายจตุพร พรหมพันธุ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ นายพิชิต ไชยมงคล พล.ต.อ.เสรีพิศุทธิ์ เตมียเวส และแกนนำคนอื่นๆ กว่า 40 คน ร่วมกันแถลงข่าว การเตรียมความพร้อมจัดกิจกรรมชุมนุมใหญ่ปกป้องอธิปไตยและขับไล่รัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ในวันที่ 28 มิถุนายน ที่อนุสาวรีชัยสมรภูมิที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ วันที่ 28 มิ.ย.นี้
เริ่มชุมนุม10โมงถึง3ทุ่ม
โดย นายพิชิต ไชยมงคล เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) กล่าวว่า ขณะนี้การชุมนุมเตรียมพร้อมแล้วทุกอย่าง เวทีเครื่องเสียงเริ่มเข้าติดตั้งประชาชนต่างจังหวัดเริ่มเดินทางเข้ามากันแล้ว เพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความเป็นคนไทยร่วมกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ โดนกิจกรรมจะเริ่มตั้งแต่ช่วงเช้า เดิมทีนัดเวลา 16:00 น เนื่องจากประชาชนจะเดินทางมาร่วมเป็นจำนวนมากหลายจังหวัด จึงได้หารือกับคณะทำงานเวทีจะเปิดเร็วขึ้นเริ่มตั้งแต่เวลา 10:00 น เป็นต้นไป ช่วงเช้าประกอบพิธีทางศาสนา เวลา 12.00. น.เริ่มปราศัยบนเวที แต่เลิกตรงเวลาคือเวลา 21:00 น ทุกอย่างมีความพร้อมในการประสานงานเจ้าหน้าที่ตำรวจ กทม.และกรุงเทพฯ มาถึงวินาทีนี้การเตรียมการของคณะทำงานมีความพร้อมเป็นอย่างมาก
มอบให้ทัพภาค2มากว่า20ล้าน
ด้านนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ ประธานมูลนิธิยามเฝ้าแผ่นดิน เปิดเผยว่า ขณะนี้เงินบริจาคให้กับการชุมนุมมีเพียงพอแน่นอนแล้ว และตามที่เราตกลงกันตั้งแต่ต้นว่า รายจ่ายที่มีทั้งหมดเมื่อหักรายจ่ายแล้ว เราประเมินแล้วน่าจะมีเงินเหลือให้กับกองทัพภาคที่ 2 มากกว่า 20 ล้านบาทแน่นอน ทางเราได้มีการประสานเบื้องต้นกับกองทัพภาคที่ 2 ว่าต้องการสิ่งใดมากที่สุด เนื่องจากมีประชาชนสนับสนุนมาก่อนแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเครื่องนุ่งห่ม อาหารการกินทุกอย่างมีพร้อม ต่อไปเราเน้นในเรื่องการไปใช้เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในทางการทหารเป็นหลัก ให้มีศักยภาพในการปกป้องดินแดนดียิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยผู้ที่จะบริจาคเพิ่มเติมหลังจากนี้แล้วจะไม่ใช่เป็นการชุมนุมแต่จะเป็นการสนับสนุนกองทัพภาคที่ 2 ใช้ในการป้องกันเหตุรุกรานแผ่นดินไทย
“การชุมนุมหนนี้ เราจะพยายามทำมาให้ดีที่สุดโดยเฉพาะช่วงการเคารพธงชาติไทย เวลา 18.00. น.จะเป็นการสำแดงให้คนไทยทุกกลุ่มร้องเพลงชาติไทยร่วมกัน ให้ดังในประเทศและต่างประเทศแน่นอน”
นายปานเทพ กล่าวว่า การชุมนุมครั้งนี้แม้จะมีความหลากหลายของผู้เข้ามาร่วม อาจจะมีความหลากหลายในเรื่องความอดีต ความแตกต่างความเชื่อไม่ใช่เรื่องสำคัญอีกต่อไป เพราะปัจจุบันเรามีเรื่องเดียวคือปกป้องอธิปไตยเท่านั้น เราจึงมุ่งเน้นความการแสวงหาความสามัคคีของคนในชาติเป็นหลักประชาชนสามารถเข้ามาร่วมได้ตั้งแต่ช่วงเที่ยงเป็นต้นไป
‘จตุพร’เตือนอย่าขวางปชช.
นายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน กล่าวว่า ยิ่งสถานการณ์ที่ใกล้เข้ามา การสั่งการไปยังผู้ว่าราชการไม่ให้ประชาชนเข้าร่วมชุมนุม วันนี้ตนแจ้งไปยังผู้ว่าราชการทุกจังหวัด ถ้าพบว่าผู้ใดไปขัดขวางประชาชนโดยยอมทำตามคำสั่งมิชอบตามกฎหมาย คนที่รับผิดชอบคือผู้ว่าราชการ จังหวัดใดที่ข่มขู่สกัดประชาชนมาที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิหลังจากรัฐบาลนี้ไปก็จะถูกดำเนินการเหมือนกัน
“ถ้าประชาชนมาอย่างมืดฟ้ามัวดิน การที่รัฐบาลจะกระทำการใดๆถัดจากนี้ไปจะเป็นเรื่องที่ยากมากที่สุด เพราะฉะนั้นจุดเริ่มต้นเขาจะยอมให้เรามืดฟ้ามัวดินไม่ได้จะต้องดำเนินการขัดขวางทุกวิธี ผมรู้จักว่าใครทำอะไร เพราะฉะนั้นยิ่งมีการขัดขวางยิ่งต้องขอเชิญพี่น้องร่วมสำแดงพลังมาถึงอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิให้ได้”นายจตุพร กล่าว ทั้งยังเรียกร้องไปยังสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เผยข้อมูลของนายทักษิณ ชินวัตร ออกมาให้หมด
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ที่ผ่านมาเราเรียกร้อง 3 ข้อ ให้นายกฯลาออกก็ไม่ออก ให้พรรคร่วมรัฐบาลลาออกก็ไม่ลาออก เหลือเพียงข้อเดียวที่จะข้ามทุกปัญหาคือเรื่องการปกป้องอธิปไตยของชาติ ฉะนั้นวันที่ 28 มิ.ย. นี้เป็นประตูบานใหญ่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ การแสดงพลังเราต้องไม่อับอายประชาชนกัมพูชา ต้องออกมาสำแดงพลังกันอย่างมืดฟ้ามัวดิน ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
พร้อมมากที่สุดในประวัติศาสตร์
นายประพันธ์ คูณมี อดีตสมาชิกวุฒิสภา (สว.) กล่าวว่า การชุมนุมที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 28 มิถุนายนนี้ ถือเป็นการชุมนุมที่มีความพร้อมมากที่สุดในประวัติศาสตร์ไทย ในขณะที่พี่น้องประชาชนหรือตื่นตัวรักชาติ ให้กำลังใจทหารตำรวจที่ปฎิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนเพื่อปกป้องแผ่นดินและประชาธิปไตย
“สมเด็จฮุนเซน ออกมาข่มขู่เป็นการแบล็คเมลจับ 2 พ่อลูกเพื่อเรียกค่าไถ่ เท่ากับประเทศนี้นายกฯ กับพ่อของนายกฯ ถูกสมเด็จฮุนเซน จับเป็นตัวประกันเรียกค่าไถ่ 2 คนนี้เป็นอุปสรรคสำคัญที่เราจะปกป้องแผ่นดิน จึงต้องออกไปจากแผ่นดิน หากอยู่กลายเป็นว่าไทยจะกลายเป็นหลักประกัน เป็นโฉนดไปจำนอง”นายประพันธ์
นายสมชาย แสวงการ อดีต สว. กล่าวว่า วันที่ 1 ก.ค. นี้ ศาลรัฐธรรมนูญ จะพิจารณาคำร้องของ สว.ชุดใหม่ ขอให้นางสาวแพทองธาร หยุดปฏิบัติหน้าที่จากกรณีคลิปเสียงหลุด ซึ่งเป็นคำร้องเดียวกันกับที่ตนเองยื่นร้องนายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี ศาลจึงไม่มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธไม่รับคำร้อง หากรับคำร้อง นายกฯ ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่
คลิปฉาวหมิ่นศักดิ์ศรีทหาร
ด้าน พล.อ.อกนิษฐ์ หมื่นสวัสดิ์ ประธานนักเรียนนายร้อย จปร. รุ่น 12 ระบุว่า ที่มาวันนี้มาด้วยรัฐธรรมนูญมาตรา 50 หน้าที่ของปวงชนชาวไทย ผมจะกล่าวในนามทหารเก่า จากคลิปที่หลุดออกมาทหารมีหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญในการปกป้องเอกราชอธิปไตย ถึงแม้นายกฯจะบอกว่าเป็นเรื่องส่วนตัวไม่ได้ทำอะไรผิด นายกฯแก้ตัวเพื่อเอาตัวรอด สิ่งที่พูดออกมานั้นมันส่งผลต่อความมั่นคงของรัฐ ส่งผลต่อเรื่องการเมืองระหว่างประเทศและสิ่งสำคัญที่สุดส่งผลกระทบต่อจิตใจทหารที่ปฏิบัติหน้าที่เพราะไม่อาจตอบโต้ได้ ส่วนตัวผมเกษียณแล้วการพูดในวันนั้นถือว่าเป็นการหมิ่นศักดิ์ศรีทหารทั้งในกองทัพและทหารนอกกองทัพ ทำลายเกียรติภูมิของชาติไทยเป็นสิ่งที่ผมรับไม่ได้
“ฝากไว้ใครขัดขวางโดยใช้อำนาจรัฐที่ไม่ชอบ ไม่ให้ประชาชนมาทำหน้าที่ของประชาชนชาวไทยในการรักษาเอกราชอธิปไตยผมถือว่าทำผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ” พล.อ.เอกนิษฐ์ กล่าว
นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง และ อดีตแนวร่วม กปปส. กล่าวว่า อยากฝากไปยังพี่น้องคนปักษ์ใต้ อยากดูใจพี่น้องภาคใต้ว่าใจใหญ่ขนาดไหน อย่าเป็นคนปักษ์ใต้10,000 คนที่เงียบเสียง แต่เป็นคน 100คน ที่ส่งเสียง ปี 2505 เราเสียเขาพระวิหาร บรรพบุรุษร้องไห้ ดังนั้น พรุ่งนี้อย่าให้บรรพบุรุษร้องไห้อีก และอยากให้มีการสลายสีทั้งหมด เพราะเป็นโอกาสเดียวที่ปกป้องอธิปไตย
ตร.จัดกำลัง 13 กองร้อย
มีรายงานว่า ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล .ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ อคฝ. ดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อย กลุ่มผู้ชุมนุมนัดชุมนุมที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันเสาร์ที่ 28 มิ.ย. โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ 13 กองร้อย พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนบก.สส.บช.น. กก.สส.บก.1-9 ลงพื้นที่และจุดสูงข่ม เพื่อป้องกันมือที่ 3 มาก่อเหตุ สังเกตจับตาบุคคลต้องสงสัย และการลักลอบนำอาวุธเข้ามาในพื้นที่ รวมทั้งจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและชุดจู่โจมไว้ระงับเหตุเร่งด่วน นอกจากนี้ระดมกำลังตำรวจจราจรทั้งของ สน. และบก.จร อำนวยความสะดวกการจราจรในพื้นที่โดยรอบ
นอกจากนี้ทางกองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังได้ประสานแนวทางการปฏิบัติงานของสื่อมวลชนในสถานการณ์การชุมนุม เพื่อให้เกิดความปลอดภัย
คือ 1. ให้ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติหน้าที่ 2. สวมใส่ปลอกแขนฝ่ายสื่อมวลชน ซึ่งออกโดย 6 องค์กรวิชาชีพสื่อ หรือแสดงบัตรประจำตัวที่ต้นสังกัดของสำนักข่าวนั้นๆ ออกให้ ตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ 3. เพื่อความปลอดภัย ขอความร่วมมือสื่อมวลชน กรุณาอยู่ในเขตพื้นที่ปลอดภัย และปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้บัญชาการเหตุการณ์ หรือเจ้าหน้าที่ ณ จุดนั้น ๆ อย่างเคร่งครัด 4. ขอความร่วมมือสื่อมวลชน งดใช้อากาศยานไร้คนขับ(โดรน) หากประสงค์ใช้จะต้องดำเนินการและได้รับอนุญาตถูกต้องตามกฎหมาย เท่านั้น
ม็อบจัดชุมนุมถูกต้อง
พล.ต.ท.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าการชุมนุมหนนี้ว่า ผู้จัดการชุมนุมได้เข้ามาแจ้งการจัดกิจกรรมอย่างถูกต้องตามขั้นตอน พร้อมมีการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนหลีกเลี่ยงเส้นทางโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เนื่องจากอาจมีการปิดการจราจรบางส่วน เพื่ออำนวยความสะดวกและลดปัญหาการจราจรติดขัด
พล.ต.ท.อาชยน กล่าวอีกว่า ได้มีการพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มผู้ชุมนุมเกี่ยวกับการใช้สิทธิเสรีภาพภายใต้กรอบของกฎหมาย พร้อมขอความร่วมมือผู้เข้าร่วมชุมนุมงดนำสิ่งของผิดกฎหมาย วัตถุต้องห้าม หรือของมึนเมาเข้าพื้นที่การชุมนุม อีกทั้งขอให้ประชาชนทั่วไป รวมถึงผู้ชุมนุมและเจ้าหน้าที่ร่วมกันสอดส่องดูแล หากพบพฤติกรรมที่อาจก่อให้เกิดความไม่สงบ ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจทันที
“ในส่วนของต่างจังหวัด ขณะนี้มีการแจ้งการชุมนุมคู่ขนานในพื้นที่ต่างจังหวัดประมาณ 10 แห่ง ซึ่งบางจังหวัดมีการแจ้งจัดกิจกรรมอย่างเป็นทางการแล้ว และแม้บางพื้นที่จะไม่มีการแจ้งจัดกิจกรรมล่วงหน้า ตำรวจท้องที่ก็จะเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อยเช่นกัน นอกจากนี้ยังได้รับข้อมูลว่ามีแนวโน้มที่ประชาชนจากต่างจังหวัดจะเดินทางเข้าร่วมการชุมนุมในกรุงเทพฯ แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่ชัดเจนได้ อย่างไรก็ตาม ทางตำรวจได้เตรียมแผนรองรับเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในทุกพื้นที่”โฆษก ตร. กล่าว
วันเดียวจบไม่มีการค้างคืน
โฆษก ตร. กล่าวว่า การชุมนุมเป็นสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานที่ประชาชนสามารถทำได้ภายใต้กรอบของกฎหมาย ขณะนี้ยังไม่มีการปิดถนนหรือประกาศห้ามจราจรแต่อย่างใด โดยผู้จัดการชุมนุมได้แจ้งขอใช้เวลาในการทำกิจกรรมเพียง 1 วัน และไม่มีการพักค้างคืนในพื้นที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ อย่างไรก็ตาม ขอประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนวางแผนการเดินทางล่วงหน้า และหลีกเลี่ยงเส้นทางบริเวณโดยรอบอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิในวันดังกล่าว เพื่อลดผลกระทบด้านการจราจร พร้อมยืนยันตำรวจพร้อมดูแลความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยอย่างเต็มที่ตลอดระยะเวลาการชุมนุม จนกว่ากิจกรรมจะสิ้นสุดลง
นางอุษา มีชารี อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่าได้รับมอบหมายให้นำแนวปฏิบัติของ 6 องค์กรสื่อประกอบด้วย สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ สภาวิชาชีพข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ และสหภาพแรงงานกลางสื่อมวลชนไทย ที่ได้เคยออกแนวปฏิบัติไว้โดยเน้นในเรื่องสัญลักษณ์ปลอกแขน ที่ออกให้โดยศูนย์ประสานงานสื่อมวลชนในสถานการณ์การชุมนุม (ศปสช.) จัดตั้งขึ้นโดยองค์กรวิชาชีพสื่อมวลชนองค์กรวิชาชีพสื่อ 6 องค์กร ในการปฏิบัติหน้าที่พื้นที่ที่มีการชุมนุม ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับทราบ ว่า มีลักษณะ “สีฟ้า” ทาบด้วยตัวอักษรภาษาอังกฤษสีขาวว่า “PRESS” มีแถบสะท้อนแสงสีเทา ปลอกแขนจะมีตัวเลข (Serial Number) ที่บ่งบอกว่า เป็นนักข่าวสังกัดสำนักข่าวใด สามารถตรวจสอบความได้
ทั้งนี้ ปลอกแขนสำหรับสื่อมวลชนดังกล่าว ใช้ในการลงพื้นที่ทำข่าวการชุมนุมเป็นไปตามหลักสากลที่สื่อมวลชนหลายประเทศพึงใช้ที่ต้องการเสรีภาพในการทำข่าวการชุมนุม ผู้ปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับปลอกแขนไม่ได้มีสิทธิพิเศษมากกว่าบุคคลทั่วไป กรณีมีการใช้ปลอกแขนผิดจุดประสงค์ หรือกระทำผิดซึ่งหน้า ถือเป็นความผิดตามกฎหมายที่ต้องรับผิดชอบด้วยตัวเอง
หลายจว.ทยอยเข้ากรุงร่วมชุมนุม
มีรายงานว่าประชาชนหลายจังหวัดได้ทะยอยเข้ากรุงเพื่อร่วมชุมนุมในครั้งนี้ โดยเฉพาะมวลชนสายใต้ อย่างจังหวัดตรังกลุ่มประชาชนรักชาติ จ.ตรัง นำโดย นายปรีดิ์ปราโมทย์ เลิศวรภัทร แกนนำ นางลักขณา วรพงศ์พัฒน์ แกนนำกลุ่มประชาชนผู้รักชาติ เครือข่ายแพทย์วีถีธรรม กลุ่มทะเลธรรม จ.ตรัง และเครือข่ายทหารผ่านศึก จ.ตรัง มีนายประทีป ทองงอม เป็นแกนนำ ได้รวมตัวกันโดยมีมวลชนประมาณ 75 ชีวิต เพื่อเดินทางโดยรถไฟเพื่อร่วมชุมนุมกับกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ณ อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ กทม. เพื่อเรียกร้องให้ น.ส.แพรทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง จากกรณีประเด็นคลิปเสียงสนทนาการแก้ไขปัญหาข้อพิพาทฯ ระหว่างผู้นำประเทศประเทศไทย และกัมพูชา ในที่ 28 มิ.ย.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี