เตรียมยกระดับประชิดทำเนียบ
ไล่‘แพทองธาร’
‘รวมพลังแผ่นดิน’รุกกดดันซ้ำ
15องค์กรปชต.จี้ไขก๊อก
‘บิ๊กอ้วน’อ้างรัฐประหาร
ไม่มีในหัว‘ผู้นำเหล่าทัพ’
แกนนำกลุ่ม “รวมพลังแผ่นดินฯ” นัดถก 1 กรกฎาคมนี้ ยกระดับชุมนุมประชิดทำเนียบไล่รัฐบาล‘อุ๊งอิ๊งค์’ด้าน15 องค์กรประชาธิปไตยฯแถลงการณ์จี้‘แพทองธาร’ลาออก รับผิดชอบทางการเมือง ขณะที่‘บิ๊กอ้วน’ชี้รัฐประหารต่อให้ตายไปก็เกิดอยากบอกไม่มีอยู่ในหัวผู้นำเหล่าทัพ “เท้ง”ผสมโรงอัดแกนำหน้าเดิม ๆ
เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ยืนยันแนวทางการดำเนินงานของแกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินที่อนุสาวรีย์ชัยสมภูมิเมื่อ วันที่28 มิถุนายนไม่ได้ต้องการปลุกกระแสปฏิวัติรัฐประหาร จากกองทัพ แต่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีแสดงสปิริตด้วยการลาออกจากตำแหน่ง เรียกร้องให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัว และสนับสนุนกองทัพในการทำหน้าที่ปกป้องแผ่นดิน
“โดยวันที่ 1 ก.ค.68แกนนำกลุ่มรวมพลังแผ่นดินชุดใหญ่จะนัดประชุมประเมินสถานการณ์ทางการเมืองเพื่อยกระดับการต่อสู้และกำหนดทิศทางให้มีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้น หลังจากนี้จะไม่ใช่แค่เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่งเท่านั้น แต่จะยกระดับเป็นการไล่รัฐบาลทั้งคณะซึ่งจะขยับเวทีให้เข้ามาประชิดใกล้ทำเนียบรัฐบาลมากขึ้น ยังไม่มีการปิดล้อมทำเนียบ แต่จะมีการแสดงพลังกันอีกครั้ง โดยขยับเข้าใกล้ทำเนียบมากขึ้น...กลุ่มผู้ชุมนุมก็มีความชัดเจนอยู่แล้ว หลังการชุมนุมก็ได้ประเมินสถานการณ์แล้วถึงว่าจุดติดแล้ว” นายพิชิต กล่าว
ส่วนท่าทีในการเคลื่อนไหวต่อสู้ของกลุ่มผู้ชุมนุมในอนาคตนั้น ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขของรัฐบาล เช่น เดินหน้านโยบายเรื่องบ่อนกาสิโนหรือไม่ สัปดาห์นี้กลุ่มผู้ชุมนุมจะเดินทางไปยื่นหนังสือถึงพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) และพรรคชาติไทยพัฒนา(ชพน.)เพื่อเรียกร้องให้ถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล ส่วนพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.)ที่ได้ยื่นหนังสือเรียกร้องไปแล้ว ยังไม่มีการตอบกลับมา
“จตุพร”สับรัฐบาลยับ
ด้านนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เฟซบุ๊คไลฟ์รายการประเทศไทยต้องมาก่อน โดยโจมตีกลับพวกอวดตัวอ้างเป็นนักประชาธิไตย แต่จอมปลอม แล้วยังฉวยโอกาสหยิบคำพูดปราศรัยเพียงถ้อยคำเดียวมาปลุกปั่นใส่ร้ายกลุ่มรวมพลังปกป้องอธิปไตยและไล่นายกฯ เป็นพวกชุมนุมเรียกร้องให้เกิดรัฐประหาร
อีกทั้งย้ำว่า ตนออกรายการทีวีช่องต่างๆ ทุกครั้งจะบอกจุดยืนการชุมนุมไม่เอารัฐประหาร และการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังปกป้องอธิปไตยไม่มีแกนนำ เพราะทุกคนมาร่วมกันด้วยใจปกป้องอธิปไตยของชาติ สิ่งสำคัญยืนยันในแถลงการณ์ชัดเจนก่อนเปิดเวทีปราศรัยว่า ไม่เอารัฐประหาร
ดังนั้น ผู้ปราศรัยกว่า 20 คนเมื่อ 28 มิ.ย. ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไม่มีใครพูดหรือเรียกร้องรัฐประหารเลย ส่วนนายสนธิ ลิ้มทองกุล ปราศรัยบนเวทีนั้น นายแก้วสรร อติโพธิ แถลงว่า เขาเชิญมาในฐานะวิทยากรเท่านั้น
งงเพื่อไทยเกลียดรัฐประหาร
นายจตุพร ย้ำว่า พรรคเพื่อไทยบอกเกลียดพวกรัฐประหาร แต่ตั้งรัฐบาลข้ามขั้วกันมาจนถึงวันนี้ ทั้งๆที่เคยหาเสียงโจมตีพวกเป่านกหวีดเรียกรัฐประหาร แต่นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์โฆษก กปปส. ยังนั่งเป็น รมว.อุตาหกรรม และไปเป็นพยานให้ทักษิณ ในคดี 112 ด้วย
“ทำไมพวกคุณ (ที่ปรึกษาของนายกฯ-พรรคเพื่อไทย) ไม่รู้สึกเกลียดรัฐประหารมาตั้งแต่ต้นคือวันที่ 22 ส.ค. 66 วันที่เพื่อไทยตั้งรัฐบาล มีนายเศรษฐา ได้รับเสียงจาก สว.ของ พล.อ.ประยุทธ์ แต่งตั้งจนได้เป็นนายกฯ และพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลตระบัดสัตย์ข้ามขั้วมากระทั้งบัดนี้”
พร้อมทั้งตำหนิว่า พวกคุณมีอะไรไปอุดปากจึงไม่พูดถึงพวกรัฐประหารที่เคยรังเกลียดกันเลย สิ่งสำคัญเมื่อนักการเมืองพวกนี้หักหลังประชาชนทุกฝ่ายแล้วมาตั้งรัฐบาลแบบอุ้มสมกัน ดังนั้น ประชาชนจะบ้าทะเลาะกันทำไม ทำไปเพื่ออะไร?
พร้อมยกระดับการชุมนุม
ส่วนสถานการณ์การเมืองในอนาคตนั้น นายจตุพร กล่าวว่า เมื่อเรียกร้องให้นายกฯ ลาออกแต่ไม่ออก ดังนั้น กลุ่มรวมพลังฯ ต้องยกระดับการชุมนุมขับไล่นายกฯ ให้ออกจากตำแหน่ง อย่างไรก็ตาม แนวทางชัดเจนจะเป็นอย่างไรคงได้หารือกันในที่ประชุมกลุ่มรวมพลังฯ วันอังคารเวลาบ่ายสองโมงนี้ โดยรอให้ ศาล รธน. พิจารณาคำร้องของ สว. ปมจริยธรรมนายกฯ ให้เสร็จสิ้นเสียก่อน
15องค์กรร่วมไล่‘อุ๊งอิ๊งค์’
วันเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก “คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย | ครป.” ได้โพสต์ข้อความระบุว่า 15 องค์กรประชาธิปไตยประชาชน ออกแถลงการณ์เรียกร้องนายกรัฐมนตรีลาออกรับผิดชอบทางการเมือง
จากประเด็นคลิปฉาวนายกฯอุ๊งอิ๊งค์-สมเด็จฮุนเซน โดยเรียกร้องบให้นายกฯลาออก,คัดค้านการรัฐประหาร,แก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นอุปสรรค์ต่อการบริหารประเทศ,
สำหรับรายชื่อ 15 องค์กรประชาธิปไตยและเครือข่ายภาคประชาชน ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการรณรงค์เพื่อประชาธิปไตย (ครป.) 2.เครือข่ายประชาชนต้านคอร์รัปชั่น (คปต.) 3.เครือข่ายศิลปินเพื่ประชาธิปไตย 4.เครือข่ายประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ 5.เครือข่ายประชาชนปกป้องประเทศ 6.เครือข่ายสังคมนิยมประชาธิปไตย 7.มูลนิธิสันติภาพและวัฒนธรรม 8.มูลนิธิผสานวัฒนธรรม (CrCF) 9.มูลนิธิเพื่อสิทธิมนุษยชนและการพัฒนา (มสพ.) 10.สถาบันจิตร ภูมิศักดิ์ 11.สถาบันสังคมประชาธิปไตย 12.สมาพันธ์คนงานรถไฟไทย 13.สมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) 14.สมาคมเครือข่ายช่วยเหลือทางกฎหมายเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEALaw) 15.องค์กรกลางเพื่อประชาธิปไตย (P-Net)
เชื่อรัฐประหารไม่เกิดแล้ว
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตย เมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่มีการปราศรัยในลักษณะปลุกกระแสเรื่องรัฐประหาร ว่า เรื่องการรัฐประหารพยายามให้ตายก็ยากที่จะเกิดขึ้น เท่าที่ตนอยู่กระทรวงกลาโหม และได้พูดคุยผู้บังคับบัญชาส่วนต่างๆ ผู้บัญชาการทั้ง 4 เหล่าทัพ ก็ยืนยันว่า วันนี้ประเทศวิกฤต อยากจะช่วยให้ผ่านพ้นไปได้ ดังนั้น เรื่องนี้ไม่ได้อยู่ในความคิดคำนึงของนายทหารชั้นผู้ใหญ่เลย วันนี้เขาอยากให้เราแก้ปัญหานี้ได้ทั้งหมด ตนคิดว่าการชุมนุมเป็นสิทธิที่กระทำได้ภายใต้กรอบรัฐธรรมนูญ อะไรที่เป็นข้อเสนอที่ดีเราพร้อมรับฟัง แต่อะไรที่เป็นข้อเสนอที่เป็นปัญหาต่อระบบการเมืองและกฎหมายก็จะพิจารณาต่อไป
ไล่พ่อนายกฯไม่เกี่ยวไล่อิ๊งค์
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการประเมินกลุ่มผู้ชุมนุม การกลับมาของ นายสนธิ ลิ้มทองกุล อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย น่ากังวลหรือไม่ เพราะเขาประกาศว่าเคยขับไล่พ่อนายกฯ มาแล้ว นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่อง คนละขั้นตอนกัน ไม่สามารถเอามาอ้างอิงได้ และอย่างที่ตนบอกว่า เขายังมีคดีอยู่ ฉะนั้น จะมาหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเพื่อจะมาแก้ไขปัญหาในคดีต่างๆ ทำไม่ได้อยู่แล้ว เพราะกระบวนการดำเนินไปแล้ว
พท.ปลุกต้านรัฐประหาร
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่มีกลุ่มผู้ชุมนุมบางส่วนเรียกร้องให้มีการทำรัฐประหาร ว่า แม้การแสดงความคิดเห็นผ่านการชุมนุมจะเป็นสิทธิ แต่การเลยเถิดไปถึงการเรียกร้องให้ทหารเข้ายึดอำนาจ ถือเป็นแนวความคิดที่อันตราย ถือเป็นปฏิปักษ์ต่อระบบประชาธิปไตย ประเทศไทยเคยผ่านการรัฐประหารมาแล้วหลายครั้งในรอบกว่า 20 ปี แต่ละครั้งฉุดเศรษฐกิจถอยหลัง ความเชื่อมั่นดำดิ่ง การลงทุนหดหาย ประเทศชาติและประชาชนเสียโอกาส การเรียกร้องให้เปลี่ยนแปลงรัฐบาล โดยอำนาจนอกระบบ ถือเป็นเรื่องที่ไม่อาจยอมรับได้
“ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนชาวไทย ร่วมกันยืนหยัดปกป้องประชาธิปไตยและอำนาจอธิปไตยของประชาชน ให้ประเทศมีรัฐบาลมีรัฐสภาที่จะนำพาประเทศชาติและประชาชนออกจากวิกฤติ” นายอนุสรณ์ กล่าว
ไฟแดง!รัฐประหาร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่เฟสบุ๊คเพจ “พรรคภูมิใจไทย” ได้นำเสนอ ประเทศไทย จะไปทางไหน? ระหว่าง ลาออก , ยุบสภา และ รัฐประหาร
โดยให้สัญญาณไฟเขียว“นายกฯ ลาออก”พร้อมนำเสนอ ขั้นตอน นายกฯ พ้นจากตำแหน่ง ,กลไก ส.ส. และสภายังอยู่ และสรรหานายกใหม่ จากรายชื่อนี้ ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล จากพรรคภูมิใจไทย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค จากพรรครวมไทยสร้างชาติ นายชัยเกษม นิติสิริ จากพรรคเพื่อไทย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ จากพรรคประชาธิปัตย์
ขณะที่ไฟเหลือง“ยุบสภา”สภาผู้แทนฯ สิ้นสุด ส.ส. พันจากตำแหน่ง ,เดินหน้าสู่การเลือกตั้งใหม่ ,นายกคนเดิมยังรักษาการจนกว่าจะได้นายกใหม่ (อาจนานถึง5-6เดือน) ,เศรษฐกิจแย่ นักลงทุนชะลอตัว จนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่,ใช้งบแผ่นดินอีก 6000 ล้านบาท
ไฟแดง“รัฐประหาร” ยึดอำนาจ สิ้นสุดกระบวนการประชาธิปไตยทั้งหมด ,วนลูปม๊อบและประเทศหยุดชะงัก ,หมดงบไปกับการรักษาความสงบประชาชนอยู่ตรงไหน?
“เท้ง”ไม่เอาปฎิวัติ
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ถึงข้อกังวลอาจเกิดรัฐประหารอีกครั้งว่า ตนเชื่อว่าการที่กลุ่มผู้ชุมนุมออกมาเรียกร้องโดยบริสุทธิ์ใจ ว่าอยากให้มีการเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรี เพียงแต่วิธีการก็มีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็นการที่นายกรัฐมนตรีลาออกเอง การใช้นิติสงครามถอดถอน หรือนายกรัฐมนตรีจะยุบสภา เพื่อเลือกตั้งใหม่ รวมถึงช่องทางที่ไม่เป็นไปตามประชาธิปไตยอย่างการปฏิวัติรัฐประหาร แต่สิ่งที่เราเป็นห่วง คืออาจมีความพยายามของคนบางกลุ่มบางก้อน ที่ฉกฉวยสถานการณ์ในตอนนี้ไปเรียกร้องกระบวนการนอกรัฐธรรมนูญ หรือกระบวนการที่ไม่ได้เป็นไปตามประชาธิปไตย แน่นอนที่สุดว่าข้อเรียกร้องอย่างเป็นทางการของกลุ่มมวลชนที่ไปชุมนุมกันที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ คือเรื่องการให้นายกรัฐมนตรีลาออก และให้พรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวออกจากการร่วมรัฐบาล
“แต่แกนนำผู้ชุมนุมหลายคน เราเห็นกันอยู่ว่าเป็นคนหน้าตาเดิมๆ ที่เคยเรียกร้องการชุมนุมต่อต้าน และนำไปสู่การรัฐประหารในอดีต รวมถึงในการพูดบนเวที แม้จะไม่ได้มีการพูดอย่างชัดเจน ว่าจะเรียกร้องให้มีการปฏิวัติรัฐประหาร แต่ก็ยังไม่ชัดเจนเพียงพอว่า ไม่เห็นด้วยกับการปฏิวัติรัฐประหาร เป็นเพียงการพูดเปิดช่องว่า หากจะมีการปฏิวัติรัฐประหารไม่ได้อยากเห็นนายกรัฐมนตรีที่มาจากทหารเท่านั้นเอง” นายณัฐพงษ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี