เดือด!ภท.เปิดศึกเตือนรัฐบาล
อย่าจ้องแต่อาฆาต
‘ชาดา-เฮียตือ’ประเคนไม่ยั้ง
เตือนสติเสียงปริ่มน้ำพังลงได้
เพื่อไทยเหน็บ‘อนุทิน’ใจเย็นๆ
จะนั่งนายกฯต้องผ่าน‘ชัยเกษม’
ขุนพลภูมิใจไทย “ชาดา-เฮียตือ” ประสานเสียงถล่มรัฐบาลเพื่อไทย ไล่ให้กลับไปทำงานอย่าจ้องแต่อาฆาตล้างแค้น เหน็บแรงเสียงในสภาปริ่มน้ำแต่ยังกระสันไปต่อจะไหวหรือ “วิสุทธิ์” บอก “อนุทิน” ใจเย็น รอเป็นฝ่ายค้านให้ชิน หลังสะพัด แอบดีล“ปชน.” หนุนนั่งนายกฯ ชี้ ต้องผ่าน “ชัยเกษม” ก่อน ย้อนถาม ไม่อายประชาชนหรือ หากพรรคร่วมฯพลิกขั้ว
เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม 2568 นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี พรรคภูมิใจไทย ได้เผยแพร่คลิปวีดีโอผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว ตั้งคำถามว่า รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลอาฆาตแค้นหรือไม่เนื่องจากมีการออกมาแซะพรรคภูมิใจไทย กล่าวหาเลื่อนลอย หรือมโน ว่า จะมีใครมาเป็นนายกรัฐมนตรีแทน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งปัจจุบันศาลรัฐธรรมนูญให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แต่ยังไม่ได้พ้นจากการเป็นนายกรัฐมนตรี
แต่หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง ก็ยังมีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอีกหลายคน เช่น พรรคเพื่อไทย มีนายชัยเกษม นิติศิริ พรรคร่วมรัฐบาลมี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฐ์ นายพีระพันธ์ุ สาลีรัฐวิภาค เป็นต้น ขอให้เลิกแซะพรรคภูมิใจไทย แล้วเอาเวลาที่มีกลับไปทำงานแก้ไขปัญหาให้ประชาชน ทั้งเรื่องในประเทศ และ เรื่องที่เกี่ยวกับประเทศใกล้ เคียง
นอกจากนี้น ยังย้ำจุดยืนของพรรคภูมิใจไทยว่า พร้อมร่วมแก้ไข รัฐธรรมนูญ แต่จะไม่แตะต้องหมวด 1 อำนาจอธิปไตย และหมวด 2 เกี่ยวกับพระมหากษัตริย์ ส่วนร่างกฎหมายนิรโทษกรรม พรรคภาคภูมิใจไทย ขอยืนยันอีกครั้งว่า พร้อมร่วมสนับสนุน แต่ต้องยกเว้นความผิดที่เกี่ยวข้องกับ ม.112
ส่วนเรื่องการขอนับองค์ประชุมสภาผู้แทนราษฎรนั้น พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ขอนับองค์ประชุม แต่ถ้าฝ่ายค้านพรรคอื่นขอเราเองก็เห็นใจ ขณะเดียวกัน พรรคภูมิใจไทยยังมีน้ำใจในการเป็นองค์ประชุมให้กับคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2569 ด้วยดี เสมือนยังคงทำหน้าที่ร่วมรัฐบาล ฉะนั้น ก็ขอให้รัฐบาลกลับไปทำงาน และ ดูแลองค์ประชุมสภาให้ดี ด้วยความเคารพ กลับไปทำงาน เดี๋ยวก็ไม่หนีกัน การเมืองมันไม่กี่คน แต่อย่ามาทำตัวเป็นศัตรูอาฆาตแค้นกัน ด้วยรักและเคารพครับ” นายชาดา กล่าว
นายชาดา ยังได้คอมเมนต์ใต้คลิปวีดีโอดังกล่าวอีกวว่า เรื่องกัญชาหากปลูกตามที่กระทรวงสาธารณสุข กำหนด มีการดูแลอย่างรอบคอบมิดชิด มีการควบคุมที่ดีและถูกต้องก็จะเป็นผลดี แต่หากให้ประชาชนปลูกอาจจะรั่วไหลออกไปข้างนอกได้ หรืออาจจะไปสู่กลุ่มต่าง ๆ ที่ผิดกฎหมายได้ง่าย จึงเป็นเรื่องดีคนละแบบ
อีกเรื่องที่สำคัญ คือ ฝากถึงรัฐมนตรีที่เข้าไปในกระทรวง แล้วบอกให้ข้าราชการใส่เสื้อสีแดง เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ข้าราชการไทยต้องใส่สีกากีกับสีเหลืองเท่านั้น
“เฮียตือ”ไล่กระทืบรัฐบาล
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร และอดีต สส. หลายสมัย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า “จะไหวหรือ? แค่นัดแรกของการเปิดประชุม แล้วเป็นไงล่ะ อยากไปต่อ ก็ไป ให้สมหวัง ให้ถึงฝั่ง ประชุมสภา รวมมือไว้ ไปให้พอ ถ้าขืนท้อ สภาล่ม จมรัฐบาล”
โพสต์ดังกล่าวเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2568 ซึ่งเป็นวันเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดแรกของปี โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ ทำหน้าที่ประธานการประชุม
แม้ประธานในที่ประชุมจะเรียกสมาชิกเข้าห้องประชุมหลายครั้ง แต่สุดท้ายเวลา ก็ประกาศปิดประชุมทันที โดยระบุว่า “วันนี้เป็นวันประชุมวันแรก เอาแค่นี้ก่อน” แม้มีรัฐมนตรีบางส่วนรีบเดินทางกลับจากการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษเพื่อเข้าร่วมองค์ประชุม แต่ก็ไม่ทันก่อนการปิดประชุม
เหตุการณ์ดังกล่าวกลายเป็นสัญญาณสะท้อนเสถียรภาพรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ที่ยังไม่สามารถควบคุมเสียงในสภาได้เต็มที่ตั้งแต่นัดแรกของสมัยประชุม
หัดพูดความจริงกับประชาชน
นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ภายหลังจาก นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ออกมาให้ข่าวกับสื่อมวลชน เรื่องดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดว่า หากได้ติดตามข้อมูลข่าวเกี่ยวกับกัญชามา สังคมคงสรุปได้ว่าภูมิใจไทยกับเพื่อไทย เห็นตรงกันว่ากัญชา ไม่เป็นยาเสพติด แต่เป็นสมุนไพรควบคุม ตามแนวทางที่พรรคภูมิใจไทยได้ทำไว้ คือ กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ
เพราะฉะนั้น ต่อไปนี้ พรรคเพื่อไทย ต้องเลิกพูด เลิกหลอกประชาชนได้แล้วว่า จะเอากัญชากลับไปเป็นยาเสพติด และควรจะพูดความจริงกับประชาชน ว่า พรรคเพื่อไทย สนับสนุน กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ ตามแนวทางที่พรรคภูมิใจไทย ได้เริ่มต้นไว้ ส่วนใครทำผิดกฎหมาย ก็ต้องจับกุมดำเนินคดีให้หมด เพื่อป้องกันผลกระทบทางสังคม
สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือ แนวทางของพรรคภูมิใจไทย กับ พรรคเพื่อไทย แตกต่างกัน คือ พรรคภูมิใจไทย ให้โอกาสประชาชน ปลูก ใช้กัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ เพื่อพึ่งพาตนเองได้
แต่แนวทางของพรรคเพื่อไทย ไม่ให้โอกาสประชาชน ได้ปลูก และ ใช้ แต่ต้องซื้อจากผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ เท่านั้น โดยอ้างมาตรฐานการผลิตที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งขัดกับวิถีชาวบ้าน วิถีชุมชน ของหมอพื้นบ้าน ที่ใช้กัญชาตามตำรับยาของตนเอง มานานแสนนานแล้ว
การอ้างร้านค้า 18,000 ร้าน ได้รับความเดือดร้อน ไม่ใช่เหตุผลที่ถูก เพราะร้านค้าเหล่านี้ ส่วนใหญ่ไม่ได้จำหน่ายกัญชาทางการแพทย์และสุขภาพ แต่เน้นนันทนาการ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ของการจำหน่ายสมุนไพรควบคุม ตามประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งหากความปรากฏเช่นนั้น กระทรวงก็จะต้องไม่ต่อใบอนุญาตให้จำหน่ายได้
ผลกระทบของร้านกัญชาที่ไม่ปฏิบัติตามกฎหมายจะเป็นผลประโยชน์ของฝ่ายการเมืองผู้กำหนดกติกา ด้วยความเห็นใจหรือไม่ สังคมจะต้องได้คำตอบ
เพื่อไทยอัดส้มน้ำเงิน
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณี กระแสข่าว นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร จะโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เพื่อผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ผ่าทางตันของประเทศ ว่า ความจริงประเทศไม่ได้ถึงทางตัน แต่อาจมีกลุ่มคนบางกลุ่มพยายามจะผลักประเทศไปสู่ทางตัน ข้อเสนอฟังดูเหมือนจะดี ที่ยอมเสียสละไปเสนอหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นไปเป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งที่จริงๆแล้วพรรคประชาชนไม่เหลือแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคตัวเองแล้ว เลยจำเป็นต้องไปสนับสนุนแคนดิเดตของพรรคการเมืองอื่น ที่ผ่านมาเชื่อว่าพี่น้องประชาชนเห็นในความมุ่งมั่นตั้งใจของพรรคเพื่อไทย ในความพยายามที่จะผลักดันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาโดยตลอด แต่อดีตพรรคร่วมรัฐบาลพรรคไหนไม่อยากแก้ จึงพยามขัดขวางมาโดยตลอด ประชาชนทราบดี ทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และ พ.ร.บ.การทำประชามติ หวังว่านายณัฐพงษ์ จะจำข้อเท็จจริงนี้ได้ ความจริงมีเพียงหนึ่งเดียว วันนี้ประชาชนเลือกเชื่อไม่ถูก ระหว่างพรรคประชาชน กับ พรรคภูมิใจไทย ใครพูดจริง ใครให้การเท็จกับพี่น้องประชาชน การที่นายณัฐพงษ์ บอกว่าจะโหวตนายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีชั่วคราว เป็นการทำลายเกียรติภูมิหรือด้อยค่าตำแหน่งนายกรัฐมนตรี รวมถึงตัวนายอนุทิน หรือไม่ การบอกว่าผลักดันนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ผ่าทางตัน แล้วยุบสภา นายณัฐพงษ์ ถาม สส.พรรคประชาชน และ พรรคภูมิใจไทยแล้วหรือยังว่า อยากให้ยุบสภาจริงหรือไม่ หรือแค่พูดให้ดูหล่อ ดูเท่ห์ แต่ทำไม่ได้จริง
“ไหนบอก ทำการเมืองแบบยืนหลังตรง มีประชาชนอยู่ในสมการ แต่ลับลวงพราง
ม็อบนัดบุกสภา 9 กรกฎาคม
นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศ (คปท.) โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า “9 กรกฎา ใส่รองเท้าผ้าใบไปหน้าหน้าสภา คัดค้านนิรโทษกรรมสุดซอย และกาสิโน พร้อมกัน สะพานชมัยมรุเชฐ 8.00 น เคลื่อนขบวนไปรัฐสภา”
ต้องรับผิดชอบร่วมกัน
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์กรณีการเปิดประชุมสภาฯวันแรกของสมัยประชุมสามัญประจำปี 2568 และฝ่ายค้านเสนอขอนับองค์ประชุม ก่อนที่ประธานจะสั่งปิดการประชุม ว่า วันนั้นเราทราบมาก่อนอยู่แล้วว่า วันที่ 3 ก.ค.จะเป็นวันที่รัฐมนตรีใหม่เข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาน หลังจากนั้นมีการประชุม ครม.นัดพิเศษ เพื่อแต่งตั้งนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาการนายกฯ ทุกคนก็ทราบ และตนได้บอกในพรรคเพื่อไทยว่า ปัญหาที่จะเกิดขึ้นเขาต้องนับองค์ประชุม เพราะอย่างไรคนก็ไม่ครบ ซึ่งพรรคที่นับองค์ประชุมไม่ใช่พรรคประชาชน เพราะเป็นพรรคที่มีหลักการพอสมควรไม่ได้นับมั่วซั่ว
นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนบอกมาตลอดว่า วันนี้เสียงปริ่มน้ำอย่างนี้ แม้แต่รัฐมนตรีซักคนหนึ่งก็ขาดไม่ได้ ถ้าอยากไปรอด และวิปรัฐบาลก็ได้เตือนแล้วว่า รัฐมนตรีที่เป็นผู้แทนราษฎรต้องมาประชุมสภาฯ วันพุธและวันพฤหัสบดี ต้องรับผิดชอบร่วมกันถ้ายังอยากเป็นรัฐมนตรีต่อไปต้องมาประชุมสภาฯ ให้เอางานมาสั่งการที่สภาฯ ไม่อย่างนั้นสภาฯก็ล่ม ไปไม่รอด
“อันนี้ต้องเตือนแรงๆ ไม่ใช่เตือนแค่ สส. ฝ่ายรัฐบาล แต่เตือนไปถึงรัฐมนตรีด้วยต้องมีความรับผิดชอบร่วมกัน วิปไม่สามารถไปลากใครมาประชุมได้หมด เพราะฉะนั้นคุณรู้หน้าที่ของตัวเองว่าเป็นผู้แทนราษฎรอยู่ เตือนไปยังทุกคนถ้ายังอยากให้รัฐบาลไปรอด เวลาอย่างนี้เสียงปริ่มน้ำไม่ใช่โยนมาให้วิปเพียงอย่างเดียว คุณต้องรับผิดชอบร่วมกับผม“ นายวิสุทธิ์ กล่าว
เมื่อถามว่า การที่พรรคพลังประชารัฐเสนอนับองค์ประชุมเป็นเกมการเมืองมากไปหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ก็มากไป เพราะทุกคนทราบอยู่แล้วว่า ไม่ใช่เรื่องกฎหมายสำคัญ เป็นวาระรับทราบจากการที่กรรมาธิการไปศึกษามาแล้ว ไม่เป็นอะไร ทำก็ทำไป คุณทำไปคุณก็สะใจ แต่ถามว่าได้อะไรจากการทำเรื่องนี้
พท.เหน็บอนุทินใจเย็นๆ
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวว่าพรรคประชาชนและพรรคภูมิใจไทย มีการดีลกันเพื่อให้นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรี หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองกับ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม ว่า เขาจะมาได้ยังไง ต้องผ่านนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ยังไม่ถึงตาคุณ รอไปก่อน จะรีบไปไหน ใจเย็นๆ และขอถามว่า ส้มกับนํ้าเงินดีเอ็นเอตรงกันหรือ และพรรคร่วมรัฐบาลก็ยังเกาะกันอยู่ จะชนะได้อย่างไร ส่วนตัวมองว่ายาก เป็นฝ่ายค้านสักระยะจะได้ชิน
เมื่อถามว่า กลัวว่าจะมีพรรคร่วมรัฐบาลพลิกขั้วหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า จะทำเพื่ออะไร ไม่อายประชาชนหรือ
รอครม.อนุมัติถอนบ่อน
นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ถึงแนวคิดการถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์) ว่า มีการตกลงกันแล้วว่าทั้งวิปรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะถอนทั้งคู่ โดยในวันอังคารที่ 8 กรกฎาคม ครม.จะต้องมีมติให้ถอนร่างดังกล่าว และวิปรัฐบาลจะถอนร่างดังกล่าวในวันพุธที่ 9 กรกฎาคม และหากในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรไม่มีใครขัดข้อง ก็ถอนออกไปได้เลย แต่หากมีใครขัดข้องก็ต้องโหวตกัน
เมื่อถามถึงเหตุผลในการถอนร่างดังกล่าว นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ข้อตกลงเดิมคือฝ่ายรัฐบาลต้องไปชี้แจงให้ประชาชนให้เข้าใจ แต่เนื่องจากในช่วงปิดสมัยประชุม มีปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา จึงไม่ได้ทำความเข้าใจกับประชาชน ตนก็มองว่าหากเข้าสภาจะลำบากใจ และรัฐบาลก็บอกว่าไม่แน่ใจว่าจะพร้อมเมื่อไหร่ ตนจึงแนะนำให้ถอนไปก่อน และหากชี้แจงได้แล้ว จะนำกลับเข้าสภาเมื่อไหร่ก็ได้ เพราะสิ่งสำคัญคือ ต้องให้ประชาชนเข้าใจทิศทางเดียวกันก่อน
เมื่อถามว่า ที่ให้ถอนเพราะสถานการณ์การเมืองขณะนี้ด้วยหรือไม่ โดยเฉพาะเสียงรัฐบาลในสภาที่ปริ่มน้ำ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เป็นส่วนประกอบส่วนหนึ่ง มีหลายปัจจัยที่วิปรัฐบาลคุยกันว่าต้องถอน
เมื่อถามว่า หากต้องใช้มติในที่ประชุมสภาเพื่อถอนร่าง แล้วฝ่ายค้านบอกว่าไม่ให้ถอน แต่จะให้โหวตเลยเพื่อหวังควํ่าร่าง พ.ร.บ.นี้ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า ตนก็อยากเห็นว่า คนที่ก่อนหน้านี้เรียกร้องให้ถอน พอถึงเวลาแล้วจะยอมถอนหรือไม่ และยังไม่มีการนำเสนอหรือพิจารณาเลย จะมาโหวตคว่ำได้ยังไง
‘ลิณธิภรณ์’ โต้ ‘ศุภชัย’
วันเดียวกัน น.ส.ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ สส.บัญชีรายชื่อ และรองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายศุภชัย ใจสมุทร แกนนำพรรคภูมิใจไทย (ภท.) พาดพิงว่ารัฐบาลน.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีปล่อยปละละเลยต่อการควบคุมกัญชา ว่า นายศุภชัย ร้อนรนจะเป็นฝ่ายค้านจนลืมความจริงและบิดเบือนเป็นความเท็จว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างตั้งแต่พรรค ภท.เข้าร่วมรัฐบาล พรรค พท.แกนนำรัฐบาลแสดงจุดยืนชัดเจนมาหลายครั้งอย่างเสมอต้นเสมอปลายว่า รัฐบาลนี้ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี แต่สนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ภายใต้การควบคุมเข้มงวด
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวต่อว่า แต่พรรค ภท.และพลพรรคทั้งองคาพยพสีน้ำเงิน มีความเห็นต่างกับการแก้กฎกระทรวง เพื่อให้กัญชาเป็นกลุ่มยาเสพติดที่ผ่านมาเราต้องไม่ลืมว่าในสมัยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ใครหรือพรรคไหนนั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขและมีอำนาจผู้ปลดล็อกกัญชาเองกับมือ จนเเกิดปรากฎการณ์คาเฟ่สายเขียวทั่วเมืองเพราะไร้กฎหมายควบคุม ส่งผลกระทบให้ประเทศไทยจนถึงทุกวันนี้
น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าวด้วยว่า รัฐบาลน.ส.แพทองธาร จึงจำเป็นต้องเร่งแก้ไขเพื่อปิดช่องว่างดังกล่าวที่พรรค ภท.ทิ้งไว้ โดยพรรค พท.ไม่เคยนิ่งนอนใจ และไม่ได้ปล่อยปละละเลยต่อปัญหากัญชาที่กระทบต่อเยาวชนและสังคมไทย รัฐบาลเร่งเดินหน้าออกกฎหมายควบคุมกัญชาให้ชัดเจน และจำกัดการใช้เฉพาะในทางการแพทย์เท่านั้น
“ดิฉันเข้าใจว่านายศุภชัยอาจกังวลต่อผลกระทบของกัญชาในปัจจุบัน แต่ก็ขอให้ท่านช่วยทวนบทบาทของพรรคตัวเองในอดีตด้วยว่า ใครกันแน่ที่เปิดประตูนี้ขึ้นมาโดยไม่มีการวางรั้วที่รัดกุมไว้ก่อน ขอเรียนให้ประชาชนมั่นใจว่า รัฐบาลนายกฯ แพทองธาร ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี และกำลังเร่งออกกฎหมายควบคุมกัญชาให้รัดกุมที่สุด โดยจะไม่มีใครสามารถใช้ประโยชน์จากช่องว่างของกฎหมายอีกต่อไป” น.ส.ลิณธิภรณ์ กล่าว
งงปชน.ชงนายกฯชั่วคราว
นายสุทิน คลังแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคประชาชน(ปชน.)ตั้งเงื่อนไขนายกรัฐมนตรีชั่วคราว ทางพรรคเพื่อไทยได้มีการคุยเรื่องนี้แล้วหรือไม่ว่า ยังไม่มีการคุยกัน ส่วนตัวมองว่ามีความจำเป็นอะไรที่ต้องคิดนายกฯ ชั่วคราว เพราะนายกฯตัวจริงยังอยู่ เป็นเพียงการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ หากเขากลับมาก็จะทำงานตามปกติ และคิดจะอยู่จนครบวาระ หากมองชั่วคราวก็จะทำงานอะไรไม่ได้ นายกฯต้องยาวไปเลยจะได้วางแผนทำงานให้ประเทศได้ และทางพรรคเพื่อไทยก็ยังอยู่ได้ ทำได้ ต้องให้เกียรติพรรคที่จัดตั้งรัฐบาล ถ้าเขาตั้งไม่ได้ค่อยคิด
เมื่อถามถึงกรณีที่น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่านายกฯชั่วคราวไม่กังวลว่าเป็นใคร แต่ขอให้อยู่ในลิสต์แคนดิเดตนายกฯ และมีสส.มากพอ รวมถึงรับเงื่อนไขของพรรคประชาชนได้ เราได้หมดนั้น นายสุทิน กล่าวว่า เมื่อเจอสังคมไล่ตามเขา เขาก็พูดเบี่ยงๆหาทางออกไป เงื่อนไขเขาคือการแก้รัฐธรรมนูญ และพรรคที่เขาคุยกันนั้น คิดว่าจะแก้รัฐธรรมนูญหรือ เขาไม่รู้หรือว่านั้นคือตัวการขัดขวางการแก้รัฐธรรมนูญ ที่แก้ไม่สำเร็จก็พรรคนั่น ส่วนเรื่องการยุบสภา จะรีบร้อนไปทำไม หันมาให้ความร่วมมือกันทำให้สภาเดินได้จะดีกว่า
เมื่อถามว่า มองการทำงานของพรรคภูมิใจไทยที่ไปเป็นฝ่ายค้านอย่างไรบ้าง นายสุทิน กล่าวว่า ยังดูไม่ออกเพราะเพิ่งย้ายไป ต้องรอก่อน ส่วนที่พรรคภูมิใจไทยมีท่าทีกับพรรคประชาชนเป็นพิเศษนั้น ตนคิดว่าอาจจะเป็นสภาพจำเป็นที่ต้องทำงานด้วยกัน เมื่อไปเป็นฝ่ายค้านแล้วหากเขาไม่ปรับเข้าหากันก็จะทำงานไม่ได้ แต่จะปรับได้นานแค่ไหน ตนไม่ทราบ เพราะหากไปดูภูมิหลังเขาเคยตั้งข้อสังเกตกันอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี