‘อดุลย์’ยื่นหนังสือ‘นิรโทษกรรม’ถึง‘ฝ่ายค้าน-รัฐบาล’ ยกมือไหว้วิงวอนขอสภาฯผ่านร่างโดยเร็ว ลั่นถึงเวลาร่วมมือปรองดอง
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ตัวแทนประชาชน ยื่นหนังสือเรื่องการนิรโทษกรรมถึงนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) และน.ส.ศศินันท์ ธรรมนิฐินันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) ตัวแทนผู้นำฝ่ายค้าน
นายอดุลย์ กล่าวว่า วันนี้มีความยินดีต้องมาทำหน้าที่เพราะคนไทยทุกคน ไม่ว่าจะเป็นม็อบพรรคการเมือง รวมถึงรัฐบาลและฝ่ายค้าน ล้วนแต่ติดปัญหาคดีที่สั่งสมกันมาหลายสิบปี ตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาทมิฬ วันนี้ตนคิดว่าบ้านเมืองถึงเวลาต้องแก้ไขปรองดองสามัคคีกัน หากไม่รวมเป็นหนึ่งเดียวคงได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ทั้งภายนอกและภายใน ควรจะได้เวลาสามัคคีกันแล้วตนจึงมายื่นหนังสือขอให้พรรคประชาชน ตนได้ศึกษาเรื่องความปรองดองและเรียกร้องมาตลอดตั้งแต่เหตุการณ์พฤษภาคมทมิฬว่า ทำอย่างไรจะสามารถออกกฎหมายนิรโทษกรรมให้ทุกคนได้เพื่อเริ่มต้นชีวิตกันใหม่ เนื่องจากมีคนจำนวนมากที่ได้รับผลกระทบและบ้านเมืองจะขัดแย้งแบบนี้ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ต้องเข้าใจว่าการจะออกกฎหมายนิรโทษกรรมอำนาจของกฎหมายฉบับนี้คืออะไร ในประเทศไทยคงไม่มีใครรู้เท่าตน อำนาจแรกที่จะแก้ได้คืออำนาจของรัฐสภา การนิรโทษกรรมจะใช้ชื่อกฎหมายอะไรก็แล้วแต่ ก็พิจารณาโดยสภา ส่วนที่มีการแย้งว่าเกี่ยวข้องกับสถาบันคือมาตรา 112 เห็นว่าเป็นพระราชอำนาจผู้ใดก็ละเมิดมิได้ จึงขอให้แยกทุกอย่างออกจากกัน และให้เข้าใจกฎหมายตราบใดที่สภาไปยุ่งเกี่ยวกับพระราชอำนาจทำให้กฎหมายนิรโทษกรรมไม่มีวันออกมาได้ เพราะกฎหมายขัดแย้งกันในตัว จึงคิดว่าทุกฝ่ายควรได้รับการพิจารณา และได้รับอานิสงส์จากกฎหมายนิรโทษกรรม
“มีการถอดเทปยืนยันว่าพรรคประชาชนไม่ได้พูดเรื่องมาตรา 112 เลย อะไรที่เป็นประโยชน์และรัฐสภาสามารถทำได้ ผมขอวังวิงวอน คนพวกนี้บ้านแตกสาแหรกขาดบางคนทนทุกข์ทรมานมากแล้ว ขอให้เริ่มต้นใหม่นับหนึ่งใหม่ทุกคนเพื่อนำพาพวกเราไปสู่ความเจริญก้าวหน้า ผมขอวิงวอนด้วย” นายอดุลย์กล่าว
ด้าน น.ส.ศศินันท์ กล่าวว่า ขอยกคำที่บอกว่าเราอยากให้ทุกฝ่ายกลับสู่ภาวะปกติและคืนความปกติให้กับทุกฝ่าย ซึ่งทั้ง 4 ร่างที่จะเข้าในวันนี้ หรืออีกหนึ่งร่างของพรรคภูมิใจไทยที่ไม่แน่ใจจะเข้าวันนี้ด้วยหรือไม่ ซึ่งทุกร่างจะมีความเหมือนกันคือต้องการคืนความสงบและคืนความปกติสุขให้กับสังคมไทย แต่จะมีอยู่ 2 ร่างที่มีเนื้อหาแตกต่าง คือ ร่างของพรรคก้าวไกลและภาคประชาชน ในร่างของภาคประชาชนที่ระบุถึงมาตรา 112 ชัดเจน ที่เป็นข้อถกเถียงกันอย่างมาก แต่ในร่างของพรรคก้าวไกล ซึ่งน่าจะเป็นร่างที่มีความปราณีประนอมมากที่สุด เราไม่ได้ระบุส่วนไหนเลยถึงมาตรา 112 แต่มีการพูดถึงการตั้งคณะกรรมการวินิจฉัย ซึ่งเราปฏิเสธไม่ได้ว่าความขัดแย้งทางการเมืองตลอด 20 ปีที่ผ่านมามีบริบทที่แตกต่างกันไปในแต่ละการชุมชุม เราไม่สามารถกำหนดตัวมาตรากฎหมายลงไปได้ชัดเจน เราไม่สามารถตัดมาตราใดมาตราหนึ่งออกจากการนิรโทษกรรมครั้งนี้ได้ และวันนี้เป็นอีกหนึ่งวันสำคัญที่จะร่วมใช้กลไกรัฐสภาในการผ่าทางตัน เพื่อนำความสงบสุขและคืนความยุติธรรมให้กับทุกคนในสังคม
ขณะที่นายครูมานิตย์ กล่าวว่า ทางวิปรัฐบาลก็ได้หารือกันเมื่อวันที่ 8 กรกฎาคมที่ผ่านมา และมีมติรับร่างของพรรคครูไทยและพรรครวมไทยสร้างชาติ นอกนั้นมีมติไม่รับร่างเนื่องจากมีมาตรา 112
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี