ผู้นำจีนเตือนให้ล้มเลิก‘กาสิโน’
‘อนุทิน’แฉยับ
แต่รบ.เมิน-ทำนทท.จีนหด90%
'อิ๊งค์’โต้กลับ‘หนู’ใส่สีตีข่าว
ย้อนจีนไม่มาอ้างไม่ปลอดภัย
มติสภาถอนร่างเอ็นเตอร์เทนฯ
สาวไส้กันเละ!“อนุทิน”โพสต์ แฉยับลากไส้“กาสิโน” ชี้ผู้นำจีนเตือนรัฐบาล 3 ครั้ง ให้ยกเลิกนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนท์คอมเพล็กซ์ แต่รัฐบาลเมิน ส่งผลให้นทท.จีนหด 90% เหลือแต่จีนเทา ดับฝันฟื้นเศรษฐกิจไทย ลั่น ภท.หนุนถอน‘กาสิโน’พ้นสภาฯ หากรัฐบาลเลิกถาวร ‘อิ๊งค์’ฉะ‘อนุทิน’ใส่สีตีไข่ปมกม.กาสิโน ย้อนจีนไม่มาไทย โยนเรื่องความปลอดภัยที่‘มท.’คุม ทำไมออกมาพูดตอนนี้ ซัดภท.ขวาง กาสิโน‘อนุทิน’สวน‘อิ๊งค์’ลั่นไม่ใส่สีตีไข่ ‘ผู้นำจีน’เตือน เป็นข้อเท็จจริง สภาฯลงมติถอนร่างกม.เอ็นฯคอมเพล็กซ์ หลังอภิปราย2ชม. ด้วยเสียง 253 ต่อ 67 เสียง
เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) โพสต์เฟซบุ๊ก “Anutin Charnvirakul” ระบุว่าพรรคภูมิใจไทยยินดีและพร้อมสนับสนุนให้มีการถอนญัตติ การนำเสนอร่าง พรบ สถานบันเทิงครบวงจร หรือร่างกฎหมายกาสิโน ออกจากวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎรในวันนี้ #หากรัฐบาลยืนยันว่า จะยกเลิกนโยบายนี้และไม่นำกลับเข้าสู่การพิจารณาอีกต่อไป
ชี้ภท.ขวางกม.กาสิโนเหตุถูกบีบออกรบ.
หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยระบุว่านโยบายสถานบันเทิงครบวงจร เป็นสิ่งที่ถูกอ้างว่า พรรคภูมิใจไทยไม่ให้ความร่วมมือกับพรรคแกนนำรัฐบาลและเป็นหนึ่งในสารตั้งต้นที่มีความคิดจะกดดันให้พรรคภูมิใจไทยต้องออกจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทั้งที่พรรคร่วมรัฐบาลทุกพรรคก็แสดงท่าทีอย่างชัดเจนว่า ไม่พร้อมที่จะให้การสนับสนุนร่างกฎหมายนี้เพียง แต่ไม่พูดออกมาเพราะเห็นว่าพรรคภูมิใจไทย ได้แสดงท่าทีไม่เห็นด้วยกับกฎหมายนี้อย่างชัดเจนแล้ว จึงพร้อมใจกันให้พรรคภูมิใจไทยรับบทเป็นผู้ร้ายต่อพรรคแกนนำรัฐบาล แต่เพียงผู้เดียว จนกระทั่งถึงวันที่มีความพยายามจะพิจารณากฎหมายฉบับนี้ในสมัยประชุมสภาที่แล้ว พรรคร่วมรัฐบาลแทบทุกพรรค ก็ได้แสดงท่าทีที่ไม่สนับสนุนกฎหมายฉบับนี้ และถึงขั้นที่มีพรรคร่วมรัฐบาลพรรคหนึ่งออกแถลงการณ์เป็นลายลักษณ์อักษรไม่เห็นด้วยอย่างชัดเจนต่อสาธารณชน โชคดีที่นายกรัฐมนตรีได้ตัดสินใจชะลอการนำเสนอกฎหมายในวันนั้นและได้ขอให้เลื่อนการพิจารณาออกไปอีกสมัยประชุมหนึ่ง ถึงแม้ว่าวันนี้รัฐบาลจะมีการเสนอให้ถอนญัตตินี้ออกไป แต่ก็ถือว่ามันสายไปเสียแล้ว การดำเนินนโยบายนี้มาอย่างต่อเนื่องได้สร้างความเสียหายอย่างยับเยินแก่ภาคการท่องเที่ยวของไทยอย่างรุนแรงที่สุดจนไม่อาจเยียวยาได้อีก
เผยปธ.สีจิ้นผิงเตือน3ครั้งให้ยกเลิก
นายอนุทินย้ำว่า รัฐบาลทราบเป็นอย่างดีว่าจีนมีท่าทีไม่เห็นด้วยที่ทางการไทยจะผ่านกฎหมายให้มีการจัดตั้งสถานบันเทิงครบวงจรพร้อมกับอนุญาตให้มีการเล่นการพนันได้และได้มีการพูดตอกย้ำถึงสามครั้งในที่ประชุมระดับผู้นำของทั้งสองประเทศว่า ขอให้ยกเลิกนโยบายนี้เสีย มิฉะนั้น รัฐบาลจีนมีความจำเป็นที่จะต้องออกมาตรการต่างๆที่จะทำให้คนจีนและกิจการต่างๆของจีนปรับท่าทีต่อการท่องเที่ยวรวมไปถึงท่าทีต่อการค้าและการลงทุนกับไทยให้ลดลงอย่างมีนัยยะสำคัญ นี่คือการหารือในระดับผู้นำประเทศทั้งสองคือ ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน และนายกรัฐมนตรีแพทองธาร ชินวัตร ซึ่งผมได้ร่วมประชุมอยู่ด้วย และได้จดบันทึกการประชุมในประเด็นนี้อย่างละเอียดในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยผู้ซึ่งจะต้องมีความเกี่ยวข้องเป็นอันมากต่อการดำเนินนโยบายนี้ แน่นอนว่าผู้นำจีนไม่มีสิทธิ์ที่จะสั่งการให้รัฐบาลไทยทำตามที่เขาต้องการ แต่ท่าทีของรัฐบาลไทยที่ออกไปในทางเมินเฉยและไม่ให้ความสำคัญต่อความเห็นจากผู้นำของจีนตลอดจนการดำเนินการผลักดันเร่งรัดให้ร่างกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจร(กาสิโน) ได้รับการบรรจุอยู่ในวาระแรกของสมัยประชุมสภานี้ย่อมต้องเป็นสาเหตุหนึ่งของการลดลงอย่างมากของนักท่องเที่ยวจากจีนในปัจจุบันอย่างแน่นอน
แฉต้นเหตุทำนทท.จีนหายไป90%
ผลพวงอันเลวร้ายที่ได้เกิดขึ้นมาจนถึงบัดนี้ ก็คือการหายไปของนักท่องเที่ยวจากประเทศจีนกว่าร้อยละ 90 ซึ่งสร้างความเสียหายอย่างหนักต่อผู้ประกอบการอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ประชาชนที่อยู่ในภาคธุรกิจบริการ กิจการโรงแรม ที่พัก การขายสินค้าไทย ของที่ระลึก อาหาร เครื่องดื่ม ร้านค้าปลีก แผงขายของ ทั้งหมดได้รับผลกระทบอย่างมหาศาลที่พวกเขาไม่เคยประสบมาก่อน นี่เพียงแค่อยู่ในขั้นตอนการบรรจุญัตติเพื่อพิจารณาร่างกฎหมายเท่านั้นนะ เขายังส่งสัญญาณเตือนมาขนาดนี้ คงไม่ต้องนึกถึงความหายนะที่จะเกิดขึ้นหากกฎหมายฉบับนี้ผ่านสภาและมีผลบังคับใช้ ซึ่งหากการถอนญัตตินี้ รัฐบาลไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนว่าจะไม่นำกลับเข้ามาอีกแล้ว ความสูญเสียและความเสียหายของภาคธุรกิจท่องเที่ยวและภาคส่วนอื่นๆที่เกี่ยวข้องก็จะยังคงดำรงอยู่ต่อไปโดยไม่มีใครทราบว่าจะฟื้นสภาพขึ้นมาได้อีกเมื่อใด ผู้คนที่อยู่ในภาคส่วนนี้ก็คงจะต้องประสบสภาวะสิ้นเนื้อประดาตัว เป็นหนี้สินล้นพ้นตัวอย่างสาหัสที่สุดเป็นแน่แท้ คนจีนที่ยังคงอยู่ในเมืองไทยก็คงจะเป็นพวกจีนเทาเสียเป็นส่วนใหญ่ คนเหล่านี้ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่จะทำให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศเรา
ซัดรบ.ดำเนินผิดพลาดกระทบศก.
ช่วงนี้รัฐบาลดำเนินการผิดพลาดหลายเรื่อง ซึ่งล้วนส่งผลกระทบต่อภาคเศรษฐกิจที่ประมาณค่าความเสียหายไม่ได้ ทั้งเรื่องความขัดแย้งกับประเทศเพื่อนบ้าน การเปลี่ยนนโยบายแจกเงินประชาชนเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ และล่าสุดการยืนยันของประธานาธิบดีสหรัฐในเรื่องภาษี ดังนั้นวันนี้ขอรัฐบาลอย่าทำผิดพลาดอีกเลย อย่านึกถึงกลุ่มทุนเพียงไม่กี่กลุ่มแล้วแลกด้วยความเสียหายย่อยยับของพี่น้องประชาชนที่เขาเคยได้รับรายได้เลี้ยงชีพจากนักท่องเที่ยวจีนจำนวนมหาศาลก่อนที่จะมีคำว่าสถานบันเทิงครบวงจรซึ่งแฝงด้วยบ่อนการพนันหรือคาสิโนมาทำลายชีวิตและธุรกิจของพวกเขาโดยสิ้นเชิง รัฐบาลมีหน้าที่สร้างความมั่นคง สร้างรายได้ให้กับประชาชนของประเทศ ไม่ใช่ให้กับกลุ่มทุนซึ่งมีสัดส่วนน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรของเรา รัฐบาลต้องไม่ผลักดันนโยบายที่ส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจของประเทศ และต่อคู่ค้าที่มีสถานะเป็นประเทศมหาอำนาจทางเศรษฐกิจอีกด้วย เราควรต้องให้ความสำคัญต่อความเห็นและท่าทีของประเทศที่มีทัศนคติที่ดีต่อเราและยังมีการสานต่อสายสัมพันธ์อันดี จนมีคำกล่าวว่า “จีนและไทยมิใช่อื่นไกล เป็นพี่น้องกัน”หากการยกเลิกนโยบายสถานบันเทิงครบวงจร จะมีส่วนทำให้นักท่องเที่ยวและการค้าการลงทุนจากจีนพลิกฟื้นกลับขึ้นมาแล้วส่งผลให้ประชาชนของเราได้สร้างรายได้อย่างที่เคยเป็นมา รัฐบาลก็ต้องนึกถึงโอกาสของพวกเขาเป็นลำดับแรก
ลั่นหนุนถอน-ยกเลิกนโยบายกาสิโน
นายอนุทินระบุว่าถึงแม้ว่าพรรคภูมิใจไทย จะอยู่ในซีกฝ่ายค้านในวันนี้ แต่ผมในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทยที่ยืนยันเสมอว่าพรรคพร้อมที่จะให้การสนับสนุนนโยบายของรัฐบาล หากนโยบายนั้น เป็นคุณประโยชน์ต่อประเทศชาติและประชาชน วันนี้ ขอให้พรรคภูมิใจไทยได้สนับสนุนการถอนญัตติกฎหมายสถานบันเทิงครบวงจรหรือ Entertainment Complex และได้ยินการประกาศยกเลิกนโยบายสถานบันเทิงครบวงจรของรัฐบาลชุดนี้ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรด้วยเถิดครับ พรรคภูมิใจไทยพร้อมยกมือเห็นด้วย และเชื่อว่าสิ่งที่เป็นมงคลก็จะเกิดขึ้นกับรัฐบาลและประเทศไทยอันเป็นที่รักของเราในที่สุด
‘อิ๊งค์’ฉะ‘หนู’ใส่สีตีไข่ปมกาสิโน
ที่รัฐสภา น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรมในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.)เดินทางมาที่สภาฯซึ่งจะมีการพิจารณาถอนร่างพ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนายอนุทิน ชาญวีรกูล อดีตรองนายกฯและรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กมีเนื้อหาสรุปว่านายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีนเตือนรัฐบาลถึง3ครั้ง ให้ยกเลิกนโยบายเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรว่า ตอนนั้นเดินทางไปเยือนประเทศจีนอย่างเป็นทางการซึ่งนายสี จิ้นผิง ทราบดีอยู่แล้วว่า ทุกประเทศเป็นประเทศของตัวเอง ถ้ามีคำแนะนำต่างๆเราก็รับฟัง ท่านก็พูดเรื่องกาสิโน เราก็อธิบายให้ฟังว่าความจริง เราทำเป็นเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ไม่ได้เน้นเรื่องกาสิโนเพราะจะมีแค่ 10% เหมือนที่เราอธิบายให้คนไทยฟัง เราเห็นว่าสิงคโปร์ทำแล้วสำเร็จ เช่นเดียวกับที่มาเก๊า แน่นอนว่า ทุกประเทศใกล้กัน ถ้าเรามีเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์เหมือนกันก็เป็นคู่แข่งกันอยู่แล้ว
“ความจริง เวลาเอามาเล่าอีกรูปแบบหนึ่ง ก็ใส่สีตีไข่กันไป ความจริงเป็นคำแนะนำ และเราถามของจีนด้วยซ้ำว่านายสี จิ้นผิง มีคำแนะนำอย่างไร เรื่องนักท่องเที่ยวของจีน ซึ่งเราพร้อมรับฟังอยู่แล้ว”น.ส.แพทองธารย้ำ
ย้อนจีนไม่มาไทยอ้างมท.ดูปลอดภัย
เมื่อถามว่านายอนุทินพูดชัดว่านายสีจิ้นผิง เตือนถึง3ครั้งถ้าไทยยังไม่ยอมถอยจะปรับมาตรการจนกระทบกับนักท่องเที่ยวที่มาไทยทำให้ลดลงไปถึง 90% น.ส.แพทองธารย้อนถามสื่อว่า “หมายความว่าเกิดขึ้นแล้วหรอคะ นักท่องเที่ยว90%”สื่อตอบกลับไปว่านายอนุทินสื่อสารมาว่าเหตุที่นักท่องเที่ยวหายไป เพราะเหตุผลนี้น.ส.แพทองธารตอบว่า“อ่าวท่านอดีตมท.1ออกไปได้ไม่นาน ลืมซะแล้วว่าเหตุผลที่นักท่องเที่ยวจีนไม่มาเมืองไทย เพราะเรื่องความปลอดภัยหรือเปล่า
“เรื่องของความปลอดภัย เรื่องของมหาดไทยที่เขาไม่เข้ามา เพราะเรื่องความปลอดภัย ความจริงแล้ว ตัวเลขนักท่องเที่ยวจีนที่ลดลงช่วงโลว์ซีซั่นประมาณ30%ที่ผ่านมา 20กว่า% เรามีนักท่องเที่ยวยุโรปเพิ่มมากขึ้น จีนลดลงเพราะมีมาตรการเที่ยวในประเทศ ความจริงมีปัญหาหลายเรื่องทั้งเรื่องคอลเซ็นเตอร์ ตัดน้ำตัดไฟ พอจะตัดก็ตัดยาก ต้องสั่งแล้วสั่งอีก ไม่ทราบว่าได้จดไว้หรือเปล่า แต่จริงๆแล้วเหตุผลที่นักท่องเที่ยวลดไม่ได้เป็นตามที่กล่าวอ้าง”น.ส.แพทองธารระบุ
ปากแข็งไม่ได้ปิดประตูรับคำแนะนำ
เมื่อถามว่าจริงหรือไม่ที่นายสี จิ้นผิง อกว่าหากไทยไม่ถอนจะมีการปรับมาตรการเรื่องนักท่องเที่ยวที่จะมาไทย น.ส.แพทองธารตอบว่านายสี สิ้นผิง พูดก่อนที่เราจะอธิบายว่าท่านไม่ได้สนับสนุนเรื่องของกาสิโน ถ้าประเทศไหนมีก็จะดูว่าคนจีนที่จะไปจะเป็นอย่างไร ไม่ได้บอกว่าจะปรับมาตรการ เราเลยถามกลับว่าท่านมีข้อกำหนดหรือข้อแนะนำอย่างไร เราไม่ได้ปิดประตูเรารับคำแนะนำ แต่พอเอามาเขียนทั้งหมดมันก็ดูใส่สีกันเข้าไป ความจริงแล้วมันไม่ใช่เรื่องต่างประเทศความจริงก็มีบันทึกอยู่
ซัดภท.ขวางกาสิโน-ใครจะมาลงทุน
เมื่อถามว่าสุดท้ายแล้วเรื่องนี้เราถอนหรือแค่รอดูสถานการณ์แล้วเอาเข้ามาใหม่ น.ส.แพทองธารตอบว่าก็ตามมติของสภาฯว่าอย่างไรก็ว่าอย่างนั้น บางเรื่องก็อาจขออนุญาตไม่ตอบเพราะไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่นายกฯที่พูดเรื่องประเทศจีนเพราะตอนนั้นเป็นคนไปปฏิบัติหน้าที่เอง วันนี้ไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ของนายกฯขอตอบในกรอบที่ตนดูแลเดี๋ยวจะเป็นการไม่เคารพ
เมื่อถามตั้งข้อสังเกตหรือไม่ทำไมนายอนุทินถึงออกมาพูดวันนี้น.ส.แพทองธารตอบว่าให้ประชาชนสังเกตได้เลยเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่เคยพูดคุยกันก็ทราบดีอยู่แล้วว่าติดขัดกับทางพรรคภูมิใจไทยที่ไม่อยากให้ทำเป็นกฎหมายพิเศษ อยากให้เป็นกฎหมาย แค่เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่ไม่มีกาสิโนแล้วใครจะมาลงทุน
‘อนุทิน’สวน‘อิ๊งค์’ปัดใส่สีตีไข่
ที่รัฐสภา นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยให้สัมภาษณ์หลังโพสต์ว่านายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงท่าทีไม่พอใจต่อนโยบายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ของรัฐบาล โดยมีการเตือนถึง3ครั้งในตอนที่ไทยเดินทางเยือนอย่างเป็นทางการโดยย้ำว่าไม่ได้แฉ แฉที่ไหน ส่วนที่น.ส.แพทองธารอ้างนักท่องเที่ยวไม่เชื่อมั่นเรื่องปลอดภัยช่วงที่ผ่านมาดูแลโดยกระทรวงมหาดไทย นายอนุทินตอบว่า หลายๆเรื่องประกอบกัน ซึ่งกระทรวงมหาดไทยไม่ได้ดูตำรวจและตำรวจท่องเที่ยว ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดสมัยที่ตนเป็นรมว.มหาดไทยก็ได้กำชับว่าจะต้องอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวให้มากที่สุด โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัย และความเป็นธรรมทุกๆอย่าง
ส่วนที่น.ส.แพทองธารระบุว่าการโพสต์แบบนี้เป็นการใส่สีตีไข่มากเกินไป นายอนุทินกล่าวว่าไม่มี ตนไม่เคยใส่สีตีไข่ มีแต่เรื่องที่เป็นข้อเท็จจริง แล้วจริงๆที่ตนเขียนเพื่อเป็นกำลังใจให้รัฐบาลถอนร่างพ.ร.บ.ระกอบสถานบันเทิงครบวงจรออกไป โดยเป็นการถอนแล้ว ถอนเลย ไม่ใช่ถอนแล้วนำกลับมาใหม่ ถ้าจะพิจารณาก็ให้พิจารณาวันนี้เลย ซึ่งท่าทีของพรรคภูมิใจไทยเป็นแบบนี้มาตลอด
ไม่เคยใช้ประเด็นนี้ต่อรองเก้าอี้รมต.
“พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ไม่เห็นด้วยกับสถานบันเทิงครบวงจร เพียงแต่ไม่เห็นด้วยกับในส่วนที่เป็นกาสิโนเท่านั้น ถ้าสถานบันเทิงครบวงจร ยังจะเดินต่อไปก็ยินดี ที่จะให้การสนับสนุน ต่อให้เป็นฝ่ายค้านก็จะสนับสนุน” นายอนุทิน กล่าว เมื่อถามว่า มีการพาดพิงว่าก่อนหน้านี้พรรคภูมิใจไทย ยกมือให้กฎหมายฉบับนี้เป็น เพราะอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรีใช่หรือไม่ นายอนุทิน ระบุว่า ถ้าอยากได้เก้าอี้รัฐมนตรี เราก็คงไม่ถอนตัว เราอยากทำงานในฐานะที่เป็นรัฐบาล ในฐานะผู้บริหารราชการแผ่นดิน แต่ข้อตกลงที่เราได้มีกันไว้ มีการผิดข้อตกลง เราก็ออกมา ดังนั้นคำว่าอยากต้องไม่พูดแล้ว ถ้าอยากป่านนี้ก็เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขไปแล้ว
วันนอร์แจ้งครม.ถอนร่างคอมแพ็กซ์
ที่รัฐสภาได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุมซึ่งในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. ... (เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์)ซึ่งคณะรัฐมนตรี (ครม.)มีหนังสือมาถึงสภาฯ เมื่อเมื่อวันที่ 8 ก.ค.ที่ผ่านมา ขอถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากระเบียบวาระ
โดยนายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ได้อภิปรายขอเหตุผลจากตัวแทนครม.ในการถอนร่างกฎหมายเพื่อให้มั่นใจว่ารัฐบาลมีความจริงใจและจะไม่นำร่างนี้กลับมาเสนออีกจนกว่าจะมีการศึกษาอย่างรอบคอบ หากไม่สามารถรับปากได้ ฝ่ายค้านจะมองว่าเป็นการถอนเพราะกลัวเสียงไม่พอ และรัฐบาลต้องเดินหน้าด้วยเสียงของตนเอง
รบ.แจงทบทวน-ลดขัดแย้งสังคม
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง ฐานะตัวแทนคณะรัฐมนตรีชี้แจงเหตุผลว่า เพราะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญทั้ง ครม.ชุดใหม่ที่มีการปรับเปลี่ยนตำแหน่งรัฐมนตรี 14 ตำแหน่ง ดังนั้นจึงเป็นความเหมาะสมให้ครม. ที่เป็นชุดใหม่ ได้โอกาสทบทวนเพื่อพิจารณาให้รอบคอบ แม้ว่ารัฐมนตรีที่ดูแลกระทรวงการคลังจะไม่ถูกเปลี่ยนตัว แต่เมื่อกระทรวงอื่นเปลี่ยนรัฐมนตรีที่ดูแล จึงมีสิทธิทบทวนกฎหมายได้เป็นปกติ ต้องให้เวลาพิจารณาให้รอบคอบ ปรับเปลี่ยนให้รัดกุมเหมาะสม แต่ไม่ใช่สาเหตุสำคัญที่ว่ากฎหมายมีปัญหา ตนยืนยันว่าหลักการและเหตุผล เชื่อว่าเป็นประโยชน์กับสังคม
“รัฐบาลเจตนาดีต้องการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เกิดการจ้างงาน การลงทุนขนาดใหญ่ และสร้างสถานที่ท่องเที่ยวแบบคนสร้างจะเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ เมื่อมีความหลากหลายทางความคิดในสังคม ขณะที่ประเทศไทยมีปัญหารุมเร้าทั้งปัญหาชายแดน เศรษฐกิจระดับโลก สงครามการค้า รัฐบาลต้องการลดปัจจัยความขัดแย้งในสังคม ผ่อนเบาสถานการณ์ให้ดีขึ้น” นายจุลพันธ์ กล่าวและตนตอบไม่ได้ จะนำกลับเข้ามาอีกเพราะเป็นหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี
ภท.ขวางถอนร่างฯ-ถอนรากถอนโคน
นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทยได้ลุกขึ้นเสนอญัตติคัดค้านการถอนร่างกฎหมายดังกล่าวออกจากวาระของสภาฯ โดยยืนยันจุดยืนเดิมคือไม่เห็นด้วย และไม่มีวันเห็นด้วยกับกาสิโน แต่ที่ต้องการให้พิจารณาต่อเพื่อแสดงจุดยืนให้เห็นว่าการถอนออกไปนั้นไม่เท่ากับการยกเลิก และไม่อยากเห็นนโยบายเรื่องดังกล่าวเข้าสู่สภาต่อไปจำเป็นต้องเดินหน้าพิจารณาลงมติไม่เห็นด้วยเพื่อถอนรากถอนโคนกฎหมายดังกล่าว
“พรรคภูมิใจไทยไม่ต้องการเห็นนโยบายนี้เดินหน้าอีกต่อไป ผมไม่ติดใจ ผมยินยอมให้ท่านถอนโดยดี แต่ถ้าผิดไปจากนี้ ผมจำเป็นจะต้องขอมติจากสภาแห่งนี้หลังจากนี้ ลงสู่สนามเลือกตั้ง ท่านจะไปหาเสียงเชิญครับ ว่าท่านต้องการกาสิโน เลือกพรรคเพื่อไทย ไม่ต้องการกาสิโนเลือกพรรคนู้นพรรคนี้ แล้วท่านกลับมาได้ กลับมาชนะ ท่านมาเสนออีกครั้ง ผมก็ไม่ว่าอะไร”นายภราดร กล่าว
สภาฯลงมติถอนร่างด้วยเสียง253-97
หลังจากนั้น ส.ส.พรรคฝ่ายค้านใช้เวลาอภิปรายนานกว่า 2 ชั่วโมง และในที่สุดที่ประชุมสภาผู้แทนฯมีมติให้ถอนร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร หรือ กฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ออกจากวาระการพิจารณาตามมติ ครม.ด้วยคะแนน 253 ต่อ 67 เสียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี