‘ฮุน มาเนต’ห้าว!
ยื่น3เงื่อนไขไทยต้องเปิดด่านก่อน
“ฮุน มาเนต”ลั่น! ไทยต้องเปิดด่านก่อน เพราะเป็นคนเริ่มปิด ลั่นไม่เจรจาหรือประนีประนอมใดๆ ยื่น 3 เงื่อนไข “ไทยต้องเปิดฝ่ายเดียว และห้ามปิดอีก-เปิดทุกจุด-เปิดปิดเวลาเดิม 6 โมงถึง 4 ทุ่ม”
เมื่อวันที่ 14 กรกฎาคม สำนักข่าว Khmer Times ของกัมพูชารายงานอ้างคำให้สัมภาษณ์ของนายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตว่า กัมพูชาจะเปิดจุดผ่านแดนทวิภาคีกับประเทศไทยอีกครั้ง ก็ต่อเมื่อประเทศไทยปฏิบัติตามเงื่อนไข 3 ข้อที่กัมพูชากำหนดไว้เท่านั้น พร้อมย้ำว่า การปิดพรมแดนเป็นการตัดสินใจของไทยเพียงฝ่ายเดียว และการเปิดพรมแดนอีกครั้งไม่จำเป็นต้องเจรจาหรือการประนีประนอมใดๆเพิ่มเติม
เขมรยื่น3ข้อเสนอไทยต้องเปิดด่านก่อน
ฮุน มาเนตกล่าวต่อว่า กุญแจถูกส่งมอบให้ฝ่ายไทยเรียบร้อยแล้ว แค่เปิดก็พอ ไม่ต้องเจรจาหรือประนีประนอมอะไรอีก โดยเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อที่กัมพูชาเสนอได้แก่ 1. ไทยต้องประกาศเปิดพรมแดนฝ่ายเดียว และรับประกันว่าจะไม่ปิดพรมแดนฝ่ายเดียวอีกในอนาคต 2. จุดผ่านแดนทุกแห่งต้องเปิดให้ใช้งานได้ทั้งหมดโดยไม่มีข้อยกเว้น 3.เวลาทำการต้องเป็นไปตามรูปแบบเดิมก่อนวันที่ 7 มิถุนายนคือ เปิดตั้งแต่ 06.00-22.00 น.
คำแถลงนี้มีขึ้นหลังจากที่ไทยร้องขอให้เปิดจุดผ่านแดนอีกครั้งหลายครั้ง แต่ฮุน มาเนต เน้นย้ำว่า ฝ่ายไทยต้องเป็นผู้ดำเนินการเปิดพรมแดนก่อน เนื่องจากเป็นฝ่ายที่สั่งปิดในตอนแรก โดยระบุว่ากัมพูชาจะตอบสนองภายใน 5 ชั่วโมงหลังจากที่ไทยเปิดพรมแดน เพื่อฟื้นฟูการเดินทางข้ามแดนตามปกติ
ปัดทำร้ายคนเขมรแต่ทำเพื่อตอบโต้ไทย
นายกฯกัมพูชากล่าวเพิ่มเติมว่า รัฐบาลไม่ได้มีเจตนาจะปิดจุดผ่านแดนเพื่อทำร้ายประชาชนหรือธุรกิจ แต่จำเป็นต้องดำเนินการ เพื่อตอบโต้การละเมิดของฝ่ายไทย
“กัมพูชาไม่ต้องการปิดจุดผ่านแดนเพื่อทำร้ายประชาชน แต่เราต้องดำเนินการอย่างเด็ดขาด ไม่ใช่นิ่งนอนใจ พวกเขาขอให้เปิดปอยเปตอีกครั้ง ขณะที่บางแห่งยังคงปิดอยู่ และในวันพรุ่งนี้ พวกเขาอาจต้องการเปิดเพิ่มหรือเปลี่ยนแปลงเวลาทำการ เราจะไม่ทนต่อเรื่องนี้อีกต่อไป” ฮุน มาเนต กล่าว
จี้เลิกกล่าวหาเขมรแหล่งอาชญากรรม
ด้านสมเด็จ ฯ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา โพสต์ข้อความเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาเรียกร้องให้ผู้นำโลกและอาเซียน ยอมรับสิ่งที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯไทยเปิดเผยไว้ เป็นที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า การฉ้อโกงออนไลน์แพร่ระบาดอยู่ทั่วประเทศไทยโดยเฉพาะกรุงเทพ ที่เป็นแหล่งกบดานของอาชญากรไซเบอร์และฐานฟอกเงินขนาดใหญ่ เครือข่ายอาชญากรนี้ได้ขยายตัวต่อเนื่องจากไทยไปกัมพูชามากขึ้น ล่าสุด เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม นายทักษิณยอมรับต่อสาธารณในประเทศไทยว่า กลุ่มมิจฉาชีพออนไลน์รายใหญ่อาศัยอย่างอิสระในอพาร์ตเมนต์หรู มูลค่าหลายพันล้านบาทในกรุงเทพ และเดินทางไปมาระหว่างประเทศเพื่อนบ้านได้อย่างเสรี นอกจากนี้ ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของไทย จับกุมบุคคลสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการพนันออนไลน์ และการฟอกเงิน มูลค่า 11,520 ล้านบาท ที่สนามบินดอนเมือง
รายงานจากสำนักงานว่าด้วยยาเสพติดและอาชญากรรมแห่งสหประชาชาติ (UNODC) เปิดเผยว่า การผลิตและการค้ายาเสพติดในภูมิภาค 3 เหลี่ยมทองคำ ที่มีพรมแดนติดเมียนมา ลาว และไทย เพิ่มขึ้นมาก ทำให้ไทยกลายเป็นเส้นทางขนส่งหลักและศูนย์กลางการกระจายยาเสพติดจำนวนมหาศาลที่หลั่งไหลออกจากภูมิภาคนี้ จึงขอเรียกร้องให้ผู้นำโลกและผู้นำอาเซียน ยอมรับการเปิดเผยของนายทักษิณเอง นอกจากนี้ ขอเรียกร้องให้นักการเมืองไทยหยุดกล่าวโทษกัมพูชา โดยไม่มีหลักฐาน
เย้ย“แม้ว”นั่นแหละอยู่เบื้องหลังปิดด่าน
นายฮุนเซนกล่าวอีกว่า เมื่อไม่กี่วันก่อน ทราบข่าวว่าทักษิณประกาศจะไม่มีสงครามระหว่างกองทัพของทั้ง 2 ประเทศ แต่กล่าวว่า นี่คือการแข่งขันดำน้ำ ใครทนอยู่นานกว่าก็ชนะ ก็เข้าใจว่าทักษิณกำลังเปรียบเปรยถึงความอดทนในการปิดพรมแดนว่า ฝ่ายใดทนได้นานกว่าก็จะเป็นฝ่ายชนะ และหากเป็นเช่นนั้นจริง ก็แสดงว่า ผู้อยู่เบื้องหลังปิดด่านครั้งนี้ ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือทักษิณเอง กัมพูชามุ่งเล่นเกมนี้ ไม่ว่าจะใช้เวลานานแค่ไหน ความกังวลที่แท้จริงคือผู้ที่ผลักดันให้เล่นเกมนี้ จะพังทลายลงก่อนเกมจะจบลงหรือไม่
“ผมอาจต้องใช้เวลามากกว่า 3 ชั่วโมง หากจะพูดถึงทักษิณให้ครบทุกเรื่อง คนที่ผมเคยช่วยเหลือตั้งแต่ปี 2549 – 2568 ช่วงเย็นวันที่ 15 มิถุนายน 2568 นายทักษิณแจ้งผ่าน เคลียง ฮวด ว่า นายอนุทิน หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ต้องถูกปลดออกจากตำแหน่ง เพื่อให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาควบคุมกระทรวงมหาดไทยได้ ผมตอบกลับไปว่า ถ้าจะปลดเขา ก็เตรียมตัวถูกปลดเองด้วย”ฮุน เซนระบุ
แม้วทรยศชาติได้ไม่แปลกมาหักหลังตน
และว่า ส่วนตัว ตนไม่แปลกใจกับการทรยศของทักษิณเลย เขาสามารถทรยศแม้กระทั่งชาติของตนเอง ดังนั้น จึงไม่ใช่เรื่องน่าตกใจที่เขาจะทรยศคนต่างชาติอย่างตน แต่ทักษิณไม่ควรลืมสิ่งมากมายที่เขาเคยมาสารภาพกับตนและขอคำปรึกษา เช่น สั่งปลดรมว.กลาโหมภายใน 24 ชั่วโมง และคำพูดหมิ่นสถาบันส่วนที่นักวิชาการไทยบางคนกล่าวว่า ฮุน เซนเข้าใจการเมืองไทยอย่างลึกซึ้ง ตนอยากจะบอกว่า จะไม่ลึกซึ้งได้อย่างไร เมื่อทักษิณคอยอัปเดตข่าวสารและขอความคิดเห็นจากตนแทบทุกวัน ทุกสัปดาห์ หรือทุกเดือน แล้วแต่ตารางงานของเขา ทั้งหมดนี้ ไม่เกี่ยวข้องกับกิจการของเขมรเลย หากเกี่ยวกับการเมืองของเขาในประเทศไทยทั้งสิ้น
มท.1ย้อนถามสื่อยังเชื่อฮุนเซนอีกหรือ
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกฯ กล่าวถึงกรณีฮุน เซน ประธานวุฒิสภากัมพูชาออกมาระบุ นายทักษิณปรึกษาทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการปลดนายอนุทิน จะสร้างความปั่นป่วนให้ประเทศหรือไม่ว่า โดยนายภูมิธรรมถามกลับว่ายังเชื่อฮุนเซนอีกหรือ พูดหรือโพสต์อะไร อีกวันบอกไม่ใช่ เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอด ยังเชื่ออีกหรือว่าเขาหวังดีกับประเทศเรา ก็ต้องคิด ไม่ใช่ว่าเขาพูดอะไรมา เราก็มาตื่นเต้น ไปหวั่นไหวกับสิ่งที่เขาพูด ต้องดูที่คนพูดว่ามีเครดิตแค่ไหน ส่วนเราต้องแก้เกมหรือต้องทำความเข้าใจกับประชาชนหรือไม่นั้น ตนคิดว่าอะไรที่ต้องทำก็ทำ
ไทยไม่สนับสนุนความรุนแรงใดๆ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงประจำวันว่า ที่ประชุมศบ.ทก. ขอบคุณประชาชนที่ในวันหยุดที่ผ่านมาใช้เวลาไปเยี่ยมชมสถานที่ท่องเที่ยวกลุ่มปราสาทตาเมือน ยอดรวม 1 สัปดาห์ระหว่างวันที่ 6-12 กรกฎาคม มีนักท่องเที่ยวชาวไทยกว่า 1.8 หมื่นคน ขณะที่ปราสาทตาควายมียอดนักท่องเที่ยวไทยกว่า 2,800 คน ถือเป็นการช่วยเหลือเศรษฐกิจในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี รวมถึงเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์ความเป็นมาของโบราณสถานของไทยในพื้นที่จริง ต้องขอขอบคุณกองกำลังกองทัพบกในพื้นที่ที่มีการประชาสัมพันธ์ จัดกำลังพลนำชมพื้นที่ต่างๆ
พล.ร.ต.สุรสันต์กล่าวต่อว่า กรณีเกิดเหตุนักท่องเที่ยวทำร้ายร่างกายทหารกัมพูชาชุดประสานงานที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัด สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย และได้ดำเนินการกับผู้ก่อเหตุ โดยส่งให้ตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่ง ศบ.ทก.ไม่สนับสนุนการกระทำความรุนแรงดังกล่าว ไม่ว่าด้วยฝ่ายใด ทั้งนี้ ช่วงสถานการณ์ตึงเครียดที่อาจเผชิญการยั่วยุต่างๆ ศบ.ทก.ขอขอบคุณประชาชน และทุกภาคส่วนที่ใช้ความอดกลั้น และขอให้ทุกคนร่วมสร้างบรรยากาศที่นำไปสู่การพูดคุยเจรจาทั้งสองฝ่าย เพื่อบรรลุข้อตกลงทวิภาคีได้ในที่สุด เพราะท้ายที่สุดแล้วทั้งไทยและกัมพูชาก็เป็นประเทศที่ชายแดนติดกัน คงต้องอยู่ร่วมกัน ไม่สามารถแยกจากกันได้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี