ด่วน! มทภ.2 ขอประชาชนอย่าตกใจเหตุปราสาทตาเมือนธม เหตุ นทท.เขมร แจ้งให้ทหารไทย ออกนอกพื้นที่ปราสาทฯ เพราะเป็นเขตเขมร ก่อนทหารเขมรยกโขยงขึ้นมา 60 คน โต้เถียงกับทหารไทย จนได้ยินว่าจะมีการตั้งอาวุธปืนที่บริเวณดังกล่าว ทหารไทยจึงได้ให้นทท.ไทยออกนอกพื้นที่ สุดท้าย ช่วยประสานงานพูดคุยเจรจากันรู้เรื่องทั้งสองฝ่ายแยกย้าย
15 ก.ค.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ปราสาทตาเมือนธม จ.สุรินทร์ ได้มีนักท่องเที่ยวของกัมพูชา (ญ 1 คน) นั่งเฝ้ามองกำลังพลทหารของฝ่ายไทยบริเวณต้นขี้เหล็กบริเวณบันไดทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม จากนั้นได้ตำหนิฝ่ายไทยว่ามายืนในดินแดนของประเทศกัมพูชาทำไมและไล่ทหารไทยให้ขึ้นไปข้างบนตัวปราสาทตาเมือนธม
จากนั้นได้ชี้หน้าทหารไทยและใช้คำพูดที่หยาบคาย ทหารไทยจึงใช้คำพูดอธิบายให้นักท่องเที่ยวฟังแต่ฝ่ายนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาไม่ฟังและได้นำกำลังทหารจำนวนประมาณ 60 นาย มาบริเวณทางขึ้นปราสาทตาเมือนธม (บันได)
จากนั้นเริ่มมีปากเสียงทะเลาะกันของทหารทั้ง 2 ฝ่าย และได้ยินเสียงว่าให้หลบไปจะทำการตั้งปืน ทหารไทยจึงได้รีบให้นักท่องเที่ยวออกจากปราสาทและออกจากพื้นที่โดยเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัย
จากนั้นอีก 10 นาที ได้มีการพูดคุยกันของทั้ง 2 ประเทศ โดยฝ่ายกัมพูชา พ.ต.กง รุน รอง.ผบ.พัน.ร.422 และ ฝ่ายไทย มี พ.ท.จักรกฤษ ปิยะศุภฤกษ์ ผบ.พัน.ร.21 และ ร.อ.ภัทรกร กลั่นการดี ผบ.ร้อย.ร.211 พูดคุย และตกลงกันให้กลับสู่สภาวะปกติและให้ลดการกระทบกระทั่งของนักท่องเที่ยวของทั้ง 2 ประเทศ
ทั้งนี้ พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ตนได้รับรายงานในเบื้องต้นแล้ว ขอยืนยันว่าสถานการณ์ยังปกติ ไม่มีเหตุการณ์ที่น่ากังวล ใดๆเกิดขึ้น ทั้งนี้ขอให้พี่น้องประชาชน อย่าได้ตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ดังกล่าว โดยทางเจ้าที่ทหารฝ่ายไทยและฝ่ายกัมพูชาได้พูดคุยกันเรียบร้อยเป็นที่เข้าใจ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี