‘ภาคประชาชน’เซ็ง! สภาฯคว่ำร่างนิรโทษฯฉบับประชาชน ‘ไอลอว์’ซัดล้างผิดแค่‘บางกลุ่ม’ ไม่เรียก‘สร้างสันติสุข’หวั่นเป็นต้นเหตุขัดแย้งใหญ่รองใหม่ ‘ศูนย์ทนายฯ’ชี้หากรัฐบาลจริงใจอยากสางคดีการเมืองทำได้ทันที ไม่ต้องรอกฎหมายผ่าน ส่วน‘อดีตแกนนำ3นิ้ว’ลั่นตราหน้าใครไม่โหวตให้เป็นพวกสส.-พรรค‘ใจกาก’รอบหน้าอย่าเลือก
16 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา นางยิ่งชีพ อัชฌานนท์ ผู้จัดการโครงการอินเทอร์เน็ตเพื่อกฎหมายประชาชน (ไอลอว์) ในฐานะผู้ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับภาคประชาชน แถลงภายหลังสภาตีตกร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับประชาชนว่าการนิรโทษกรรมคดีทางการเมืองจำเป็นที่ต้องรวมทุกคน และขอยืนยันว่าหากเป็นการนิรโทษกรรมเพียงบางคนบางกลุ่มไม่นิรโทษกรรมทั้งหมดไปพร้อมกันไม่ได้เรียกว่าการสร้างสันติสุข และจะเป็นต้นเหตุของความขัดแย้งระลอกใหม่ที่ใหญ่มากขึ้น วันนี้เราได้แถลงหลักการและเหตุผลทั้งหมดต่อสภาไปแล้ว แต่ว่าเสียง สส.ที่ลงมติรับหลักการร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับภาคประชาชนก็ไม่ถึงครึ่ง ทำให้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวตกไป
ทั้งนี้เราต้องยืนยันว่าทางข้างหน้าถ้าสภาจะเดินไปในวาระ 2 และ โดยกีดกันคนบางส่วนไม่ให้มีสิทธิ์ได้รับการนิรโทษกรรมเลย ไม่เปิดช่อง ไม่แยกแยะประเภท ประเด็นนั้น เป็นสิ่งที่ทำไม่ได้ รวมถึงการที่สภาแห่งนี้จะเดินหน้านิรโทษกรรมความผิดที่เจ้าหน้าที่รัฐเป็นผู้กระทำต่อประชาชน ซึ่งไม่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง ไม่ได้เป็นไปเพราะการชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบของเจ้าหน้าที่รัฐอันนี้ต้องยืนยันว่าเราคัดค้าน หากในวาระ 2 ไม่มีการปรับปรุงแก้ไขเรายืนยันว่าจะมีการคัดค้านต่อไป
นายยิ่งชีพ กล่าวต่อว่า สำหรับผู้ที่เป็นห่วงคนที่อยู่ในเรือนจำ มีทั้งข่าวดีและข่าวร้าย คืออาจจะต้องมีคนเข้าเรือนจำเพิ่ม โดยเฉพาะมีคดีที่ผู้กระทำเป็นเด็กและเยาวชนด้วย ถ้าหากไม่มีการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในอนาคตเราเกรงว่าจะมีผู้ที่ไม่ได้กลับบ้าน และต้องไปใช้ชีวิตที่อื่น แต่ข่าวดีคือเรายังหยุดการทำงานไม่ได้ จึงขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกคนร่วมกิจกรรมของเราต่อไปในระหว่างที่กฎหมายยังไม่ออกมา
ด้านน.ส.พูนสุข พูนสุขเจริญ ทนายความ ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้จัดการฝ่ายวิจัยกฎหมายศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนในฐานะผู้ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับภาคประชาชน กล่าวว่า คดีความทางการเมืองตั้งแต่ปี 2557-ปัจจุบัน มีฐานความผิดที่เป็นคดีทางการเมืองอย่างน้อย 34 ฐานความผิด ซึ่งร่างหลักที่ผ่านการพิจารณาของสภาในวันนี้คือร่างของนายวิชัย สุดสวาสดิ์ สส.ชุมพร พรรครวมไทยสร้างชาติ มีฐานความผิดท้าย พ.ร.บ. 20 ฐานความผิด แปลว่าอย่างน้อย 14 ประเภทความผิดจะไม่ถูกนับรวมอยู่ในการนิรโทษกรรมครั้งนี้ ซึ่งรวมคดี 112 ด้วย
อย่างไรก็ตามหากได้ติดตามคดีตั้งแต่ช่วง คสช. หรือคดีรณรงค์ให้ไม่รับร่างรัฐธรรมนูญปี 2559 เหล่านี้ ถ้าไม่มีการแก้ไขและให้เป็นไปตามร่างของนายวิชัย ก็จะไม่ถูกนับรวมซึ่งคดีเหล่านี้มีความชัดเจนว่าเป็นคดีทางการเมือง ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ติดคุกจริงๆ โดยเฉพาะคดี 112 ที่มีประชาชนอย่างน้อย 51 คนได้รับผลกระทบ และอยู่ในเรือนจำอย่างน้อย 32 คน ก็จะไม่ถูกนับรวมเช่นกันจึงเป็นคำถามถึงสภาว่าวันนี้ออกกฎหมายนิรโทษกรรมโดยที่ไม่รวมทุกกลุ่มนั้น เพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มใครและเป็นการคลี่คลายความขัดแย้งจริงหรือไม่
“ฝากติดตามว่าคดีมาตรา 112 และคดีทางการเมืองอื่นๆยังอยู่ ถ้ารัฐบาลจริงใจอยากจะช่วยแก้ปัญหาจริงๆ อย่างน้อยคนที่ไม่ได้รับสิทธิประกันตัว แม้ยังไม่แก้ไขกฎหมายก็สามารถช่วยเหลือได้เลย ยืนยันว่าเรายังต้องผลักดันให้มีการแก้ไขเรื่องนี้ต่อไปในอนาคต” น.ส.พูนสุข กล่าว
ด้านน.ส.เบนจา อะปัญ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ในฐานะผู้ชี้แจงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับภาคประชาชน กล่าวว่า ภาคประชาชนได้ทำเต็มที่แล้ว และจะจดจำไว้ว่าใครที่บอกว่าเห็นด้วย ใครที่บอกว่าเข้าใจ อยากเดินหน้าไปด้วยกัน แต่ไม่โหวตให้นั้น ก็จะได้รู้ว่าใครเป็น สส.ใจกาก พรรคไหนใจกาก ก็อย่าไปเลือก
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี