วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'ศบ.ทก.'ลั่นไม่เพิกเฉย จ่อประท้วงเขมร หากพบวางทุ่นระเบิดใหม่​ ลั่นผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​

'ศบ.ทก.'ลั่นไม่เพิกเฉย จ่อประท้วงเขมร หากพบวางทุ่นระเบิดใหม่​ ลั่นผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​

วันศุกร์ ที่ 18 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 15.12 น.
Tag : กองทัพบก กับระเบิด เขมร ช่องบก ชายแดน ชายแดนไทยกัมพูชา ทหาร แนวหน้าออนไล์ อนุสัญญา​ออตตาวา​
  •  

'ศบ.ทก.'ลั่นไทยไม่เพิกเฉย เตรียมประท้วง หากตรวจสอบพบกัมพูชาวางทุ่นระเบิดใหม่​ ผิดอนุสัญญา​ออตตาวา​ ปี​ 42 ทำ 3 ทหารพรานเหยียบทุ่นระเบิดขณะลาดตระเวน​ ขอประชาชนเชื่อมั่น​ หากพบรุกล้ำอธิปไตย​ พร้อมตอบโต้​ทันที​ เผยผลหารือร่วม​ เหตุหญิงกัมพูชาทำวุ่นปราสาทตาเมือนธม​ คัดกรองเข้มนักท่องเที่ยว​ หากเกิดเหตุให้ชุดประสานปราสาทดำเนินการ​ ห้ามเรียกกำลังเพิ่ม​ หวังลดการเผชิญหน้า

เมื่อวันที่ 18 ก.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย และนางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงผลการประชุมศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ​ ศบ.ทก.​


โดยพล.ร.ต.สุร​สันต์​ กล่าวชี้แจงกรณีสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า พล.อ.ณัฐพล​ นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม​ รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และในฐานะผอ.ศบ.ทก​ ได้ลงพื้น จ.อุบลราชธานี โดยเดินทางไปยังโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ เพื่อเยี่ยมทหารที่ได้รับบาดเจ็บ จากการเหยียบกับระเบิด​ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนพื้นที่ช่องบก​ จ.อุบลราชธานี โดยทหารทั้ง 3 นาย​ อยู่ในสภาวะขวัญ และกำลังใจที่ดีเยี่ยม ปัจจุบันได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดจากคณะแพทย์ ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐาน​ และทันท่วงทีจนอาการทหารทั้ง 3 นายอยู่ในเกณฑ์ที่ปลอดภัย 

พล.ร.ต.สุร​สันต์​ กล่าวว่า สำหรับพลทหารที่เหยียบกับระเบิดจนทำให้ขาด้านซ้ายขาดนั้น ทางกองทัพภาคที่ 2 ได้มีมาตรการในการช่วยเหลือด้านสวัสดิการให้กับกำลังพลอย่างเต็มที่ โดยมีการปูนบำเหน็จเลื่อนขั้นจากพลทหารเป็นสิบเอก​ หลังจากรักษาตัวเสร็จด้วยเหตุสูญเสียจากการรบ​ 

นอกจากนี้ยังได้รับบำเหน็จเดือนละ 15,600 บาท หากรวมเงินรายเดือนจากหน่วยงานต่างๆ คาดว่าจะได้รับเงินจำนวนถึง 29,800 บาทต่อเดือน นอกจากนี้​ ยังได้รับเงินก้อนจากหน่วยงานองค์กรต่างๆ รวมทั้งสิ้นประมาณ 1 ล้านบาทเศษ ซึ่งทางราชการ ได้เล็งเห็นถึงคุณประโยชน์ที่กำลังพลได้ปฏิบัติช่วยเหลือทางราชการ มองเห็นการบรรจุทายาททดแทน​ ซึ่งทางพี่สาวของกำลังพลดังกล่าวประสงค์ที่จะรับราชการ ก็จะมีการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษด้วยเช่นกันนอกจากนี้รายทหารดังกล่าว ยังได้รับเหรียญพิทักษ์เสรีชนชั้น 2  ประเภท 1 และบัตรทหารผ่านศึกชั้นที่ 3 ที่จะมีสิทธิลดค่าน้ำ​ ค่าไฟ และค่าเดินทางตลอดชีวิตของกำลังพล

พล.ร.ต.สุร​สันต์​ กล่าวว่า ขณะเดียวกัน​หน่วยทุ่นระเบิด​ กองทัพบก​ ได้ส่งหน่วยปฏิบัติการทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมเข้าไปในพื้นที่เกิดเหตุเพื่อเก็บหลักฐานนำมาวิเคราะห์โดยผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดอย่างละเอียดซึ่งคาดการณ์ว่าจะใช้เวลา 2-3 วัน​ เพื่อให้ได้ข้อมูลข้อเท็จจริงที่ชัดเจนในเรื่องของชนิดและห้วงเวลาที่มีการวางทุ่นระเบิด ว่าจะเป็นการวางทุ่นระเบิดขึ้นมาใหม่หรือเป็นของเดิม ซึ่งหากเป็นการวางทุ่นระเบิดใหม่ ถือว่าเป็นการละเมิดต่ออนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามใช้ และเก็บสะสมทุ่นระเบิดสังหารบุคคล​ เพราะไทยและกัมพูชา​ เป็นประเทศภาคีในอนุสัญญาดังกล่าวตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 พร้อมเน้นย้ำว่าทางรัฐบาลไทย ถ้ามีการตรวจพบว่าเป็นทุ่นระเบิดที่มีการวางใหม่ ฝ่ายไทยจะไม่เพิกเฉย

"หากมีการพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยของไทยทางเราจะมีการดำเนินการโต้ตอบอย่างชัดเจน พร้อมขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่าเราไม่ได้นิ่งนอนใจถึงสถานการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นทางฝ่ายไทยได้ยึดมั่นในการใช้ข้อเท็จจริงซึ่งเป็นหลักการที่เรายึดมั่นมาโดยตลอด ในการยึดถือปฏิบัติตามหลักสากลโดยข้อมูลต่างๆเหล่านี้จะนำไปสู่การปฏิบัติของฝ่ายไทยต่อไป"

ส่วนกรณีที่หญิงชาวกัมพูชาตะโกนใส่ทหารไทย ที่บริเวณ ปราสาทตาเมือนธม​ เมื่อวันที่ 15 ก.ค.ที่ผ่านมานั้น ทางฝ่ายไทย และกัมพูชาได้ประชุมหารือเมื่อวันที่ 16 ก.ค.เพื่อร่วมกำหนดมาตรการในการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ซ้ำซ้อนอีก โดยทั้งสองฝ่ายได้ข้อสรุปว่า หากมีปัญหาจากนักท่องเที่ยวเกิดขึ้น ขอให้ชุดประสานงานประสาทที่มีอยู่ฝ่ายละ​ 7 คนดำเนินการแก้ไข ซึ่งหากเหตุเกิดจากนักท่องเที่ยวฝ่ายใดก็ให้ชุดประสานของประเทศนั้นๆ เป็นผู้ดำเนินการแก้ปัญหา โดยไม่ต้องเรียกกำลังพลชุดอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาเพิ่มเติมเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุเผชิญหน้าจากทั้งสองฝ่าย​ 

อย่างไรก็ตาม ได้ขอให้ทั้งสองฝ่ายได้ดำเนินการคัดกรองนักท่องเที่ยวของแต่ละฝ่ายก่อนขึ้นมาท่องเที่ยวบริเวณปราสาทอย่างเข้มข้นมากขึ้น ซึ่งก็น่าจะสามารถช่วยแก้ไขปัญหานักท่องเที่ยวขึ้นมาได้

ด้านนางมาระตี​ แถลงว่า สำหรับสถานการณ์ในพื้นที่ โดยที่ประชุมศบ.ทก.ได้รับรายงานจากหน่วยงานความมั่นคงว่า สถานการณ์จุดผ่านแดนต่างๆในภาพรวมยังคงเป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ขอย้ำฝ่ายไทยยังคงมาตรการเดิมคือไม่ปิดด่าน แต่เพิ่มมาตรการควบคุมการผ่านแดนให้เข้มข้น เข้มงวดมากยิ่งขึ้น โดยอนุโลมการผ่านแดนตามหลักมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่องเหมือนเดิม และตามที่ได้รายงานมาโดยตลอด และเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาประสานเวลาเปิด-ปิดด่าน  เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่มีความจำเป็นที่จะผ่านแดน​ และเพื่อประโยชน์ของการส่งเสริมความร่วมมือต่อต้านอาชญากรรมข้ามชาติร่วมกัน ฝ่ายกัมพูชาความจริงใจที่จะจัดการกับเรื่องนี้ตามที่ได้มีการประกาศยกระดับมาตรการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวก แต่สื่อต่างประเทศเองบางแห่งก็ได้ตั้งข้อสังเกตถึงความจริงจังของมาตรการเหล่านี้ การดำเนินการดังกล่าวได้ผลต่อเมื่อจะมีการประสานงานในเรื่องของการบริหารจุดผ่านแดนกับฝ่ายไทย

นางมาระตี​ กล่าวว่า สำหรับในด้านที่เกี่ยวข้องกับต่างประเทศ ที่ประชุมได้หารือถึงผลกระทบของมาตรการควบคุมการผ่านแดนต่อห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจและผู้ประกอบการจากต่างประเทศด้วย โดยขอให้ฝ่ายกัมพูชาตระหนักถึงมิติดังกล่าวด้วย ว่าในบริบทของความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านและประเทศสมาชิกอาเซียนด้วยกัน มองว่าภูมิภาคของเรามีความสงบและเป็นสถานที่น่าลงทุนการปิดด่านโดยไม่มีเหตุผลและการระงับการนำเข้าสินค้าอาจจะกระทบต่อการค้าต่อระดับภูมิภาคและโลก อย่างมีนัยสำคัญ

​ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอแสดงความเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ที่ช่องบก จ.อุบลราชธานี ที่ทำให้มีโทษที่ได้รับบาด 3 นาย ขอให้ทหารไทยทุกท่านที่ได้รับบาดเจ็บฟื้นตัวโดยเร็ว และในระหว่างที่กองทัพบกกำลังเร่งตรวจสอบว่าเป็นทุ่นระเบิดของเก่าหรือของใหม่ หรือมีรายละเอียดอื่นๆเกี่ยวข้องกระทรวงการต่างประเทศไม่ได้นิ่งนอนใจ และเมื่อรับทราบผลการตรวจสอบอย่างเป็นทางการ จากหน่วยงานในพื้นที่แล้วจะดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ซึ่งปัจจุบันทั้งไทยและกัมพูชาต่างเป็นภาคีอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล หรืออนุสัญญาออตตาวา ตั้งแต่ปี 1999 และปี 2000 ซึ่งในข้อบทแรกของอนุสัญญาดังกล่าวชัดเจนว่า ห้ามใช้​ ห้ามผลิต ภาคีมีหน้าที่ที่ต้องทำลายคลังทุ่นระเบิดที่มีอยู่ โดยฝ่ายกัมพูชาเองเป็นเจ้าภาพ การประชุมทบทวนอนุสัญญา ครั้งที่ 5 เมื่อวันที่ 25 -​29 พ.ย.2567 

ดังนั้น หากการตรวจสอบแล้วพบหลักฐานที่เป็นที่ประจักษ์​ นอกเหนือจากจะเป็นเรื่องที่น่าผิดหวังอย่างยิ่งสำหรับรัฐรัฐภาคี ที่สำคัญก็จะถือว่า ขัดต่อพันธกรณีขิงอนุสัญญา ซึ่งฝ่ายไทยจะดำเนินการเรื่องนี้ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงโดยตรงต่อกัมพูชาในกรอบทวิภาคี หรือมาตรการอื่นๆตามความเหมาะสม โดยเฉพาะหากพบว่า เป็นการละเมิด MOU 2543​ และละเมิดอธิปไตยของไทยด้วย

ทั้งนี้ ไทยเคารพกฎหมายระหว่างประเทศ ที่ไทยมีพันธกรณี ขอตอกย้ำฝ่ายไทยยังยืนยันจุดยืนที่จะเจรจาทวิภาคีกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อแก้ไขสถานการณ์ความตึงเครียดในเวลานี้ ผ่านกลไกที่มีอยู่ โดยเฉพาะ JBC RBC และ GBC ซึ่งในกรอบของ JBC ทางกระทรวงการต่างประเทศจะมีหนังสืออย่างเป็นทางการ ไปถึงฝ่ายกัมพูชา เพื่อเชิญเข้าร่วมการประชุม JBC สมัยพิเศษ ที่ฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพในช่วงเดือนก.ย.ที่กทม.ตามที่ได้ตกลงกันไว้แล้ว ฝ่ายไทยหวังเป็นอย่างยิ่งฝ่ายกัมพูชาจัตอบรับเข้าร่วมประชุม JBC เพื่อช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียด รวมทั้งพร้อมจะใช้กรอบทวิภาคีอื่นๆเพื่อส่งเสริมความมั่นคงของ 2 ประเทศสุดท้าย ขอย้ำว่าไทยจะใช้ช่องทางทางการในการสื่อสารกับกัมพูชา

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เปิดตำนานใคร\'คือบิ๊ก\' ที่สื่อมวลชนเรียกขานเป็นท่านแรก เปิดตำนานใคร'คือบิ๊ก' ที่สื่อมวลชนเรียกขานเป็นท่านแรก
  • อวสาน\'บิ๊ก\'!! \'ทบ.\'ขอความร่วมมืองดใช้คำว่า\'บิ๊ก\'เรียกขานผู้บังคับบัญชา หวั่นถูกมองแง่ลบ อวสาน'บิ๊ก'!! 'ทบ.'ขอความร่วมมืองดใช้คำว่า'บิ๊ก'เรียกขานผู้บังคับบัญชา หวั่นถูกมองแง่ลบ
  • \'ทบ.\'ขอบคุณ 3 ทหารกล้า เสียสละปกป้องอธิปไตย พร้อมปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น \'พลทหาร\'สูญเสียขา 'ทบ.'ขอบคุณ 3 ทหารกล้า เสียสละปกป้องอธิปไตย พร้อมปูนบำเหน็จพิเศษ 7 ชั้น 'พลทหาร'สูญเสียขา
  • \'สิริพงศ์\'ฟาดกลับ\'ทักษิณ\'ไม่รู้ผู้นำเขมรมีจริยธรรมหรือไม่ แต่ผู้นำไทยเรียก\'อังเคิล\' อยากได้ไรบอก! 'สิริพงศ์'ฟาดกลับ'ทักษิณ'ไม่รู้ผู้นำเขมรมีจริยธรรมหรือไม่ แต่ผู้นำไทยเรียก'อังเคิล' อยากได้ไรบอก!
  • ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’จี้‘กต.’ฟ้องยูเอ็น-ทำหนังสือประท้วงกัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา ‘อดีตบิ๊กข่าวกรอง’จี้‘กต.’ฟ้องยูเอ็น-ทำหนังสือประท้วงกัมพูชา ละเมิดอนุสัญญาออตตาวา
  • \'อิ๊งค์-บิ๊กเล็ก\'บินด่วน! เยี่ยมทหารเหยียบระเบิดช่องบก ชี้ \'อาจเป็นระเบิดใหม่\' รอผลไม่เกิน 3 วัน 'อิ๊งค์-บิ๊กเล็ก'บินด่วน! เยี่ยมทหารเหยียบระเบิดช่องบก ชี้ 'อาจเป็นระเบิดใหม่' รอผลไม่เกิน 3 วัน
  •  

Breaking News

หลานฉุนฟิวส์ขาด! ยิงอาดับคาที่ หลังมีปากเสียงปมที่ดินมานาน

เปิดตำนานใคร'คือบิ๊ก' ที่สื่อมวลชนเรียกขานเป็นท่านแรก

ตำรวจสตึกตามรวบวัยรุ่นต้นเหตุ ยกพวกตะลุมบอนหน้ารถแห่งานตักบาตรหลังช้าง

รวบพ่อเล้าวัย 27 ค้ากามเด็กชายวัย 15 คาโรงแรม กินค่าหัวคิว 500 บาท สารภาพทำมาแล้ว 7-8 ครั้ง

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved