วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา  มอง‘ทักษิณ’คนตกยุคทางการเมือง  ‘รวมไทยสร้างชาติ’ไม่ปรับใหญ่อยู่ยาก

ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา มอง‘ทักษิณ’คนตกยุคทางการเมือง ‘รวมไทยสร้างชาติ’ไม่ปรับใหญ่อยู่ยาก

วันเสาร์ ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2568, 06.30 น.
Tag : คนตกยุค ชินภัสร์กิจเลิศสิริวัฒนา ทักษิณ รวมไทยสร้างชาติ
  •  

รายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” วันที่ 15 ก.ค. 2568 พูดคุยกับ ชินภัสร์ กิจเลิศสิริวัฒนา อดีตรองโฆษกพรรครวมไทยสร้างชาติ ในฐานะคนรุ่นใหม่ในแวดวงการเมือง โดย ชินภัสร์ กล่าวว่า ตนเกิดปี 2525 ถือเป็น “คนเจนวาย (Gen – Y)” ส่วนที่ถูกตั้งข้อสังเกตว่าเป็นคนแบบ “ขวาใหม่” หมายถึงคนรุ่นใหม่ที่มีมุมมองทางการเมืองแบบฝ่ายขวา จากการแสดงความคิดเห็นในลักษณะฝั่งตรงข้ามกับ “ฝ่ายซ้าย” อย่าง “ด้อมส้ม” กลุ่มผู้สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่ จนต่อมาคือพรรคก้าวไกลและพรรคประชาชน ตามลำดับ

“จริงๆ ผมไม่ได้จงใจนะ ผมคิดว่าตอนนั้นกระแสทุกคนอวย ทุกคนบูชาพิธา (พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล) หมดเลย ซึ่งผมก็ว่าเวอร์เกินไป ขนาดสื่อก็ไม่มีใครกล้าแตะพิธา ผมก็เลยเล่นเขา แค่นั้นจริงๆ มันไม่ได้มีอะไรลึกซึ้งไปกว่านั้น เขาไม่ใช่เทพ เขาก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ทำไมทุกสื่อต้องอวยเขา เขาไมได้สมบูรณ์”


ส่วนจะให้มองสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ที่ผ่านมาก็มีคนพูดเรื่องนี้กันเยอะแล้ว ส่วนตนเองก็เป็นประชาชนคนหนึ่งที่ไม่อยากเห็นอำนาจนอกกติกาเข้ามา โดยส่วนตัวอยากให้มีการยุบสภาโดยเร็ว เพราะการไปต่อของรัฐบาลชุดปัจจุบันเหมือนกับการดิ้นรน หากการไปต่อแล้วไม่สามารถแก้ปัญหาได้ก็สู้ยุบสภาแล้วให้รัฐบาลชุดใหม่เข้ามาจัดการดีกว่า โดยเฉพาะสิ่งที่รับไม่ได้คือคลิปเสียงที่ไปบอกว่าแม่ทัพของฝ่ายไทยเป็นฝ่ายตรงข้าม ในสถานการณ์ความขัดแย้งไทย – กัมพูชา

เช่น ลองคิดถึงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา หากมีคลิปเสียงพูดแบบเดียวกันกับประธานาธิบดีจีน บอกว่าหน่วยงานความมั่นคงของสหรัฐฯ เป็นฝ่ายตรงข้าม บอกว่าอยากได้อะไรพร้อมจะจัดให้ แบบนี้คงโดนถอดถอนออกจากตำแหน่งแถมยังถูกดำเนินคดีอีกต่างหาก เพราะฝ่ายความมั่นคงของสหรัฐฯ จะซีเรียสมากว่าประธานาธิบดีได้ให้ข้อมูลไปมาก – น้อยเพียงใด หรือที่ออสเตรเลีย หากเกิดเรื่องแบบเดียวกันก็จะมีปฏิกิริยาแบบนี้เช่นกัน ซึ่งตนก็ไม่เข้าใจว่าเหตุใดในประเทศไทยจึงยังมีการแย่งอำนาจหรือยื้อเวลากันอยู่

และหากให้วิจารณ์การทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีของ แพทองธาร ชินวัตร ก่อนเดินมาถึงวันที่มีปัญหาคลิปหลุดเสียงสนทนากับ ฮุน เซน อดีตนายกฯ กัมพูชา ก็ต้องบอกว่า “แพทองธารยังไม่พร้อมเป็นนายกฯ” ไม่ว่าจะมาเพราะแรงกดดันจากครอบครัวหรือความตั้งใจของตนเองก็ตาม “ตำแหน่งนายกฯ ไม่ใช่สนามเด็กเล่นหรือสถานที่ฝึกงาน” ส่วนบทบาทของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องบอกว่าในอดีต 10 – 20 ปีก่อน การเมืองไทยมีเพียง 2 พรรค คือพรรคไทยรักไทย (ต่อมาคือพรรคพลังประชาชนและพรรคเพื่อไทย ตามลำดับ) กับพรรคประชาธิปัตย์

ซึ่งต้องบอกว่าในเวลานั้นตนตื่นเต้นทุกครั้งกับการปราศรัยแสดงวิสัยทัศน์ของนายทักษิณ แต่ ณ วันนี้สถานการณ์เปลี่ยนไป นายทักษิณไม่สามารถขายฝันได้แบบเดิมอีก ให้ไปฟังซีอีโอของบริษัทเทคโนโลยีดังๆ เช่น NVidia หรือ Tiktok ยังดีกว่า เพราะสิ่งที่นายทักษิณพูดก็นำมาจากเมืองนอก ลอกเลียนบ้างดัดแปลงบ้าง “ทักษิณยังคิดว่าชื่อของตนเองขายได้” จากที่เคยชนะใจคนต่างจังหวัดโดยเฉพาะเกษตรกรในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นั่นทำให้การกลับมาครั้งนี้จึงมาด้วยความเชื่อว่าตนเองเป็นพระเอกจะมากอบกู้เศรษฐกิจ เชื่อว่าจะทำให้กลับไปเป็นเหมือนสมัยยุคพรรคไทยรักไทยได้

แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้ว จะเรียกว่าตกยุคก็ได้ หากตนเป็นนายทักษิณคงหยุดเล่นการเมืองไปแล้ว นายทักษิณควรภูมิใจที่หลายคนในตระกูลได้เป็นนายกฯ และมีชื่อเสียงเงินทองมากแล้ว อย่างตนก็ตามสื่อของสิงคโปร์ ความเห็นจากชาวสิงคโปร์ที่ติดตามข่าวการเมืองไทยก็มองเหมือนกับตนว่าหากเป็นนายทักษิณคงปล่อยมือจากการเมืองและอยู่สบายๆ ไปแล้ว นี่คือความเห็นของคนทั่วไปที่ไม่ได้เสพติดอำนาจ จบแบบสวยดีกว่าการเสนอตนเองเข้ามาแล้วบอกจะมาแก้ปัญหา แต่กลับกลายเป็นตัวสร้างปัญหาด้วย อย่างตนอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ การเมืองตอนนี้ก็ไม่เหมือนเดิม     

“ตอนเล่นสงกรานต์ ทีมทักกี้ (ทักษิณ) ไป กับทีมพิธา ทีมเท้ง (ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน) ไป คนละบรรยากาศเลย ตอนนั้นผมยังดูนะ รู้สึกผมยังโพสต์เลยว่าก็ต้องชมบ้างว่าทีมส้มไปแล้วมันมีสีสัน มีความสนุกสนาน มีความเป็นกันเอง แต่พอทักกี้ไปมันไม่ใช่ มันเหมือนกับหลงยุคด้วย เหมือนกับจะไปเอากระแสวัยรุ่นแต่วัยรุ่นเขาไม่เอา วัยรุ่นเขาไม่สนใจ”

อย่างเลือกตั้งครั้งล่าสุด จ.เชียงใหม่ มี 10 เขต พรรคก้าวไกลได้ไปเกือบทั้งหมด และในการเลือกตั้งครั้งหน้าก็เชื่อว่าพรรคประชาชนจะได้รับความนิยม โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.เมือง “โซนในเมืองเป็นของพรรคส้มทั้งหมดไม่ใช่เฉพาะเชียงใหม่” และพฤติกรรมการลงคะแนนเสียง ตนมองว่าคนเชียงใหม่คล้ายกับคนกรุงเทพฯ กล่าวคือ “คนเมือง ผู้มีการศึกษา ชนชั้นกลาง จะคิดวิเคราะห์ด้วยตนเอง” นอกจากนั้น “พลังของแบรนด์ (Branding)” ชื่อเสียงของสินค้า บริษัทหรือพรรคการเมือง ก็มีความสำคัญมากกับผู้บริโภคหรือผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

เช่น เราอาจไม่รู้ว่าใครเป็นซีอีโอของแบรนด์ชุดกีฬาอย่าง Nike หรือ Adidas แต่เราจำแบรนด์เหล่านี้ได้ ไม่ต่างกับปรากฏการณ์ที่เกิดกับพรรคก้าวไกล แม้จะไม่รู้จักผู้สมัครรับเลือกตั้งแต่ก็มีคนจำนวนมากพร้อมจะลงคะแนนให้เพราะอยู่กับพรรคดังกล่าว หรืออย่างที่ในอดีตเคยเกิดกับพรรคประชาธิปัตย์ในพื้นที่ภาคใต้ จนเป็นที่มาของคำพูดที่ว่า “ส่งเสาไฟฟ้าลงคนก็เลือก” เพราะคนใต้ตัดสินใจเลือกจากพรรค

ส่วนที่มีผลโพลออกมาเมื่อเร็วๆ นี้ ว่าหาก น.ส.แพทองธาร ลาออกจากตำแหน่งนายกฯ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่อยากเห็น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กลับมาเป็นนายกฯ ตนเห็นผลโพลนี้แล้วก็ตกใจเหมือนกัน หากให้วิเคราะห์ก็มองว่าอาจเป็นเพราะขณะนี้ไทยมีปัญหากับกัมพูชา ประชาชนบางส่วนจึงต้องการผู้นำที่แข็งแกร่งเป็นนักรบนักสู้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ ฮุน เซนคงไม่กล้ากร่าง หรืออาจเป็นอีกเหตุผลหนึ่งคือเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ ที่สามารถเป็นนายกฯได้ในขณะนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ดูสะอาดที่สุดและมีความเป็นนักการเมืองน้อยที่สุด

ส่วนข้อสังเกตว่ามีกลุ่มตัวอย่างตอบว่าไม่มีใครที่เหมาะสม ซึ่งมีสัดส่วนมากเป็นอันดับ 2 ตนมองว่าคนที่ตอบแบบนี้น่าจะรู้สึกเบื่อหน่าย ไม่เชื่อว่าจะมีนักการเมืองคนใดเข้ามาแก้ปัญหาให้ตนเองได้ “และหากจะเกิดทางตันในทางการเมืองในอนาคตก็ไม่ได้มาจากประชาชน แต่มาจากทักษิณและรัฐบาลชุดปัจจุบัน” ดูเสียงสะท้อนจากผลโพลที่ส่วนใหญ่เรียกร้องนายกฯ แพทองธาร หากไม่ลาออกก็ยุบสภา และต้องย้ำว่า แม้คนไทยจะไม่สนับสนุนทักษิณหรือรัฐบาลแพทองธาร แต่ก็ไม่เอาด้วยกับฮุน เซน ที่มาปั่นกระแสอยู่ตลอดในขณะนี้

“ฮุน เซนเป็นซูเปอร์บ้านใหญ่ แล้วผมก็เชื่อว่าลึกๆ แล้วคุณทักษิณอยากเป็นซูเปอร์บ้านใหญ่ คำว่าซูเปอร์บ้านใหญ่ก็คือมีบ้านใหญ่แต่ละจังหวัดก็มาอยู่ใต้พีระมิดแล้วเขาก็คือยอดของซูเปอร์บ้านใหญ่ ผมเคยไปเสียมราฐ (เสียมเรียบ) ทุกอย่างขึ้นอยู่กับตระกูลฮุน เซนหมดเลย เขาคุมตำรวจ คุมสภาบน สภาล่าง คุมสื่อ ลูกๆ เขาก็ไปสายเอกชน คุมเกือบทุกอย่างหมดเลย ตั้งแต่สภาบน สภาล่าง ไปยันท้องถิ่น คุมแบบเบ็ดเสร็จ”

กับคำถามว่าสถานการณ์เวลานี้จะนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงอะไรหรือไม่? เป็นเรื่องที่ตนก็ไม่กล้าคาดเดา เพราะมีหลายปัจจัย เช่น พรรคประชาชนจะถูกยุบหรือไม่ นายกฯ จะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตหรือไม่ รวมถึงมีการปั่นข่าวต่างๆ ออกมาตลอดเวลา แต่หากถามว่าเป็นห่วงอะไรก็บอกว่า “อยากให้รัฐบาลมีเสถียรภาพ (ซึ่งตอนนี้ไม่มี)” ที่บอกว่ารัฐบาลปัจจุบันมีเสียง สส. ในสภาฯ ปริ่มน้ำ แต่เมื่อไปถามชาวบ้านก็ได้รับคำตอบว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ที่เสียง สส. ก็ปริ่มน้ำเหมือนกัน กลับยังดูมีเสถียรภาพยิ่งกว่า

จากเรื่องของอดีตนายกฯ ทักษิณ นายกฯ แพทองธาร และรัฐบาลพรรคเพื่อไทย คำถามต่อไปคือ “อยากให้มองพรรครวมไทยสร้างชาติ ว่าขณะนี้เป็นอย่างไร?” เพราะถูกเรียกว่าเป็น “พรรคอกแตก” จำนวน สส. จาก 36 คน แบ่งออกเป็น 2 ฝ่าย ซึ่งก็มีฝ่ายละ 18 คน หารครึ่งพอดีอีก ประเด็นนี้ตนมองว่าตนเองตัดสินใจถูกที่ลาออกมาก่อนได้ประมาณ  1 ปีครึ่ง และเวลานั้นก็มีคนรุ่นใหม่ในพรรคที่มาบอกว่าไม่มีความสุขในพรรคแล้วเช่นกัน แต่ยังไม่ได้ลาออกเพราะกำลังรอดูโค้งสุดท้าย เผื่อจะมีพรรคการเมืองอื่นเกิดขึ้นที่ดูมีอนาคตกว่านี้แล้วค่อยย้ายออก

“ปัญหาภายใน ไม่มีระบบข้างใน ต้องเข้าใจว่าถ้าข้างในพรรคไม่มีระบบมันจะกลายเป็นอำนาจหรือดุลพินิจอยู่กับที่ผู้บริหารกับหัวหน้า มันก็เกิดการวิ่งเต้น คุณอยากได้อะไร อยากทำโครงการอะไร มีไอเดียอะไร ถ้ามันไม่มีระบบคือใครมือยาวก็สาวไป ใครเส้นใหญ่กว่าก็เข้าถึงง่ายกว่า ผมยกตัวอย่างง่ายๆ นะ พรรคการเมืองเหมือนกับทีมฟุตบอล แต่พรรครวมไทยสร้างชาติที่ผมรับรู้มาแล้วก็เข้าไปทำงานด้วย มันเหมือนกับทีมที่ตารางซ้อมก็ไม่มี พอวันซ้อมคนก็ไม่มาบ้าง อุปกรณ์การซ้อมทุกคนต้องดูแลตัวเอง ตัวใครตัวมัน

โค้ชก็ไมได้เอาจริง แทนที่จะเห็นว่านักเตะคนนี้มีแววเดี๋ยวจะปั้น คนนี้เหมาะกับกองหน้า คนนี้เก่งเป็นผู้รักษาประตู แทนที่จะมีการปั้นบุคลากรการเมือง โค้ชไม่สนใจ แล้วผู้เล่นหลายคนกลับไปใช้เวลาประจบ ไปอวยผู้จัดการสโมสร นี่คือระบบที่ผมเห็น แล้วถ้าทีมฟุตบอลเป็นแบบนี้คิดว่าจะไปแข่งกับทีมอื่นที่มีระบบที่นักเตะของเขาซ้อมทุกวันจันทร์ – เสาร์ อาจหยุดแค่วันอาทิตย์ คิดว่าเราจะชนะไหม? แพ้สิเห็นภาพไหม?”

ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พรรครวมไทยสร้างชาติได้ สส. บัญชีรายชื่อมา 13 คน เพรากระแสของ พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นเลือกตั้งครั้งหน้าที่ไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ อีกทั้งนักการเมืองก็มาจากหลายสาย เช่น สายพรรคพลังประชารัฐ สาย กปปส. สายพรรคประชาธิปัตย์ มาอยู่ร่วมกัน การที่พรรครวมไทยสร้างชาติไม่มี พล.อ.ประยุทธ์ ก็เหมือนกับบ้านที่ไม่มีหลังคา เมื่อฝนตกฟ้าผ่าก็คือเตรียมแตก อุดมการณ์ก็ไม่มีแล้ว ดูเหมือนไร้ทิศทาง

อย่างเมื่อเทียบกับพรรคเพื่อไทย มุมหนึ่งตนไม่เห็นด้วยกับการแจกเงินดิจิทัล แต่อีกมุมหนึ่งอย่างน้อยพรรคเขาก็มีนโยบายเรือธงออกมา แล้วถามว่านโยบายหลักของพรรครวมไทยสร้างชาติคืออะไร หรือตลอด 2 ปีที่ผ่านมาเมื่อพูดถึงพรรครวมไทยสร้างชาติแล้วนึกถึงนโยบายอะไรได้บ้าง คือที่ผ่านมาเกาะกระแส พล.อ.ประยุทธ์ แต่เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ไปแล้วพรรคก็ไม่มีสินค้าจะขาย ลองดู Apple ที่ตอนแรกคนรู้จักเพราะสตีฟ จ็อบส์ แต่แม้จ็อบส์จะเสียชีวิตไปแล้ว Apple ในฐานะบริษัทก็ยังอยู่ต่อไปได้เพราะมีการพัฒนา มีสินค้าใหม่ๆ ออกมาขายต่อเนื่อง

และต้องขอย้ำว่าตนไม่มีเจตนาเผาบ้านหลังเก่า แต่หากจะให้แนะนำ 1.เปลี่ยนหัวหน้าพรรค 2.หยุดโหน พล.อ.ประยุทธ์ 3.ยืนด้วยนโยบายของตนเองและแก้ปัญหาให้ประชาชน ไม่เช่นนั้นก็จะเป็นแบบบางพรรคการเมืองที่ถูกมองว่าเตรียมตัวสูญพันธุ์!!!

หมายเหตุ : สามารถรับชมรายการ “สีสันการเมือง แบบ เด้งเด้ง” ดำเนินรายการโดย บุญระดม จิตรดอน ทางช่องยูทูบ “แนวหน้าออนไลน์” ทุกวันอังคาร-พฤหัสบดี เวลา 11.00-12.00 น. โดยประมาณ           

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘5 นิทาน’ซ้ำซาก จากปาก‘ทักษิณ ชินวัตร’ ‘5 นิทาน’ซ้ำซาก จากปาก‘ทักษิณ ชินวัตร’
  • เปิด 6 ข้อตอบจะๆ โต้จุกๆถึง‘เสมียนประเทศ’ เปิด 6 ข้อตอบจะๆ โต้จุกๆถึง‘เสมียนประเทศ’
  • ตีปี๊บไอเดีย\'เสมียน\'ประเทศ! \'เพื่อไทย\'ชูไอเดีย\'ทักษิณ\'เป็นฉากๆ ตีปี๊บไอเดีย'เสมียน'ประเทศ! 'เพื่อไทย'ชูไอเดีย'ทักษิณ'เป็นฉากๆ
  • ‘ทักษิณ’เป็นประธานเททองหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุด ที่โคราช 19 ก.ค.นี้ ‘ทักษิณ’เป็นประธานเททองหล่อหลวงพ่อคูณองค์ใหญ่ที่สุด ที่โคราช 19 ก.ค.นี้
  • \'อภิสิทธิ์\'แฉละเอียดยิบ!!! ปม\'ฮุน เซน\'ทิ้งบอมบ์แฉ\'ทักษิณ\'เคยส่งเอกสารลับ 'อภิสิทธิ์'แฉละเอียดยิบ!!! ปม'ฮุน เซน'ทิ้งบอมบ์แฉ'ทักษิณ'เคยส่งเอกสารลับ
  • ‘ศิริกัญญา’จี้‘อิ๊งค์’แจง‘กมธ.มั่นคงฯ’ปมคลิปเสียงหลุด ดื้อแพ่งอาจเจอ‘กม.อำนาจเรียก’ แจงที่ประชุมสภาฯแทน ‘ศิริกัญญา’จี้‘อิ๊งค์’แจง‘กมธ.มั่นคงฯ’ปมคลิปเสียงหลุด ดื้อแพ่งอาจเจอ‘กม.อำนาจเรียก’ แจงที่ประชุมสภาฯแทน
  •  

Breaking News

ยิ่งไต่สวนยิ่งชัด!‘ราชทัณฑ์’ขังนักโทษโดยชอบได้อย่างไร เมื่อไม่มีหลักฐาน‘วงจรปิด’ชั้น14

'นายกวันชัย'ดึงหน่วยงานบูรณาการจัดหาแหล่งน้ำดิบสำรองผลิตประปาแก้ปัญหาน้ำกกเชียงราย

ชัดแล้ว! ผลตรวจพิสูจน์80%เป็น‘ทุ่นระเบิดใหม่’ จี้‘กัมพูชา’โชว์หลักฐานถ้าไม่ได้ทำ

'ยูเนสโก' เชิดชูพระเกียรติ 'เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี' ถวายเหรียญสดุดีพระกรณียกิจรักษามรดกวัฒนธรรม

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved