‘สว.’ ยกคณะลงพื้นที่ ‘สระบุรี’ รับฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนจากสารพัดปัญหา ‘สิ่งแวดล้อม -สุขภาพ’ ไปจนถึง ‘ที่ดิน-โครงสร้างพื้นฐาน’ ยันพร้อมเป็นสื่อกลางขับเคลื่อนแก้ไขปัญหายั่งยืน พร้อมตรวจ ‘บ่อขยะ’ ส่งกลิ่นเหม็น เร่งคลายเดือดร้อนชาวบ้าน
เมื่อวันที่ 20 ก.ค.2568 ที่ศาลากลางจังหวัดสระบุรี จ.สระบุรี นายชีวะภาพ ชีวะธรรม สมาชิกวุฒิสภา(สว.) ในฐานะหัวหน้าคณะกรรมการขับเคลื่อนโครงการสมาชิกวุฒิสภาพบประชาชนกลุ่มภาคกลาง (ตอนบน) นำคณะ สว. ลงพื้นที่รับฟังปัญหา และความทุกข์ร้อนจากทั้งประชาชนและหน่วยงานราชการในพื้นที่ โดยมี นายบัญชา เชาวรินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, นายเลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี, หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และภาคประชาชน เข้าร่วมให้ข้อมูลและแสดงความคิดเห็นอย่างกว้างขวาง เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
นายชีวะภาพ กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้มุ่งหวังให้ สว. ทำหน้าที่เป็น สื่อกลางในการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างบูรณาการและยั่งยืน ซึ่งในการประชุม ชาวบ้านและหน่วยงานได้นำเสนอประเด็นปัญหาสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตในหลายด้าน ได้แก่ ปัญหาสิ่งแวดล้อม: ทั้งเรื่องน้ำเสียส่งกลิ่นเหม็น และปัญหาขยะมูลฝอยที่จัดการได้ไม่เต็มที่ ปัญหาด้านสาธารณสุขและสังคม กรณีการเก็บศพจำนวนมากในสำนักสงฆ์ ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขอนามัยและทัศนคติของชุมชน, ปัญหาพื้นที่ทับซ้อนระหว่างป่าไม้กับ ส.ป.ก. ในพื้นที่ลำพญากลาง อำเภอมวกเหล็ก ที่ส่งผลกระทบต่อการทำกินของประชาชน ปัญหาโครงสร้างพื้นฐานและผลกระทบจากโครงการพัฒนา อาทิ ผลกระทบจากโครงการโครงข่ายไฟฟ้าแรงสูงในหลายอำเภอ, การคัดค้านโครงการก่อสร้างโรงงานแปรรูปไก่ (สยามเซนทาโก) ในอำเภอเมืองสระบุรี ที่ประชาชนกังวลเรื่องผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ, ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งและรุนแรงจากรถบรรทุก และปัญหาด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานทั้งไฟฟ้า ประปา และถนน ในหมู่ที่ 6 ตำบลห้วยแห้ง อำเภอแก่งคอย
นายชีวะภาพ กล่าวต่อว่า คณะกรรมการฯ ได้เน้นย้ำให้หน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องเร่งลงพื้นที่ติดตามและรับฟังปัญหาของประชาชนอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงและสามารถขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด นอกจากนี้ ยังเสนอแนะให้มีการสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการต่างๆ ของจังหวัดให้ประชาชนรับทราบอย่างทั่วถึง รวมถึงส่งเสริมการ บูรณาการแก้ไขปัญหาร่วมกับทุกภาคส่วน และเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหา เพื่อให้การแก้ไขปัญหามีประสิทธิภาพและยั่งยืนอย่างแท้จริง ยืนยันว่า สมาชิกวุฒิสภาพร้อมที่จะเป็น สื่อกลางในการขับเคลื่อนทุกข้อคิดเห็นและปัญหาความเดือดร้อน ที่อยู่นอกเหนือขอบเขตความรับผิดชอบของจังหวัด เพื่อผลักดันให้เกิดการแก้ไขที่เป็นรูปธรรมภายใต้หน้าที่และอำนาจของวุฒิสภาต่อไป
จากนั้นนายชีวะภาพ ได้นำคณะ สว. อาทิ พล.ท.สุกิจ ทั่งทอง นายจำลอง อนันตสุข นายนิทัศน์ อารีย์วงศ์สกุล ลงพื้นที่เร่งด่วน ที่บ่อขยะสูง ตำบลกุดนกเปล้า อ.แก่งคอย จ.สระบุรี เพื่อติดตามและสำรวจสภาพปัญหาหลังจากประชาชนร้องเรียนเรื่องกลิ่นเหม็นและน้ำเสียที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมาเป็นเวลานาน โดยมี นายเลิศชัย สกลเสาวภาคย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องและประชาชนเข้าร่วม ซึ่งการลงพื้นที่ครั้งนี้เกิดขึ้นจากเสียงสะท้อนของชาวบ้านในพื้นที่ตำบลกุดนกเปล้า ที่ได้รับความเดือดร้อนจากกลิ่นเหม็นรุนแรงและปัญหาน้ำเสียจากบ่อขยะสูง ซึ่งส่งผลกระทบต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิตของพวกเขามายาวนาน จึงได้ร้องขอให้คณะกรรมการฯ ช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน
ภายหลังการสำรวจ นายชีวะภาพ กล่าวว่า คณะกรรมการฯ พบว่าบ่อขยะสูงมีกลิ่นขยะรุนแรงจริง และแสดงความห่วงใยอย่างยิ่งต่อสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ จึงได้ขอความร่วมมือให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งหาแนวทางแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วนที่สุด พร้อมทั้งยืนยันความพร้อมของคณะกรรมการฯ ในการให้ความร่วมมือและเป็นสื่อกลางในการสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนไปสู่การแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม ภายใต้กลไกการดำเนินงานของวุฒิสภา เพื่อเป้าหมายสูงสุดคือการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีและปลอดภัยของประชาชนทุกคน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี