วันที่ 25 กรกฎาคม 2568 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า ตัวปัญหา ฮุน กับ ชิน
ปัญหาความขัดแย้งระหว่างกัมพูชา กับไทย จนเกิดการปะทะกันด้วยอาวุธสงครามนั้น มีข้อควรห่วงใย ดังนี้
1.ต้นเหตุจริงๆของการสู้รบระหว่าง 2 ชาติ นั้น เป็นผลมาจากผลประโยชน์ของ 2 ตระกูล (ฮุน-ชิน) ไม่ได้มาจากมูลเหตุความขัดแย้งระหว่าง 2 ชาติแต่อย่างใด ดังนั้นการไปทำร้าย หรือ ดุด่าด้อยค่า แรงงานกัมพูชาในไทยจึงไม่ควรทำอย่างเด็ดขาด แต่ก็มีแรงงานกัมพูชาบางคนทำปากดี ด่าไทย ทั้งที่อยู่ในไทย ทาง ตม.จะต้องหาตัวส่งกลับไปทันที
2.ความเดือดร้อนของ ฮุนเซน ที่ก่อเรื่องทะเลาะกับ ตะกูลชิน แล้วหาทางลงไม่ได้ จึงส่งผลให้ ราษฎรกัมพูชาเอง เดือดร้อนมากขึ้น บ่อนการพนันก็ต้องปิด ฮุนเซน จึงพยายามยั่วยุให้ ฝ่ายไทยเริ่มยิงก่อน แต่พี่ไทยรู้ทัน อดทนกว่า ทำให้ ฮุนเซน อดทนต่อไปไม่ไหว จึงหาทางลงด้วยการก่อเหตุ ”ยิงฝ่ายไทยก่อน“ เนื่องจากทราบดีว่า “ถ้าสู้กันยาว กัมพูชาแพ้แน่ แต่ถ้าสู้กันสั้นๆไทยจะต้องเดือดร้อนมากกว่า“ ฮุนเซนจึงเจตนาสั่งยิงแบบหนักๆก่อน ไปที่ชุมชนและเป้าหมายพลเรือนต่างๆในไทย เพื่อกดดันให้ไทยตอบโต้ และหันมาเจรจาด้วย พร้อมกับ ร้องแร่แห่กระเณอด้วยถ้อยคำโกหลตอแหลไปยังนานาชาติว่า“ไทยยิงก่อน เขมรโดนรังแก” ซึ่งก็มักเป็นไปแบบนี้ทุกครั้ง ทุกปี
3.ทหารไทยนั้นสู้รบโจมตีแต่เฉพาะเป้าหมายทางทหาร ส่วนทางกัมพูชานั้นยิงเละเทะไปหมด และ ยังเอาอาวุธหนักไปซุกไว้ตามชุมชนเขมร ทำให้ทหารไทยรุกลำบากกว่า ดังนั้น แม้ว่าขีดความสามารถของทหารไทยจะสูงกว่า ก็รุกต่อลำบากพราะก็ต้องห่วงหน้า (ชุมชนที่ทหารกัมพูชาไปแอบซุกอยู่) และพะวงหลัง (ท่าทีไม่แน่ชัดของฝ่ายการเมืองไทย) ทหารไทย จึงรุกได้ไม่เต็มที่
4.การต่อสู้ระหว่างทหารไทย กับ กัมพูชานั้น เหมือนกับเครื่องมือต่อรองอำนาจ ของ 2 ตระกูล ฮุน-เซน (ดูจากการโพสท์ ขอเวลาสั่งสอนฮุนเซนของคุณทักษิณ) ดังนั้น ขอให้ประชาชนช่วยกันเป็นกำลังใจให้ทหาร
มากๆ พร้อมกับช่วยกันสื่อสารต่อประชาคมโลก ว่า ทหารไทยนั้นรบอย่างมืออาชีพ เคารพต่อกฏหมายระหว่างประเทศ เพื่อรักษาอธิปไตยของชาติ ไม่ได้ทำเพื่อตระกูลไหนทั้งสิ้น
5.ส่วนพื้นที่ ที่เรายึดคืนมาได้นั้น เป็นแผ่นดินของไทยมาแต่โบราณกาล เราจึงมีความชอบธรรมที่จะครอบครองรักษาไว้ กัมพูชาไม่สามารถอ้างมั่วๆว่าเป็นของเขาได้ ที่ผ่านมาเป็นเพราะเราอะลุ่มอะหล่วยด้านสิทธิมนุษยชน เขาเลยเหมาเคลม(ตามสันดาน) ดังนั้น เมื่อยึดคืนกลับมาได้ ก็ต้องรักษาไว้ อย่าไปยอมมันอีก ความคิดที่ว่าจะคืนให้กัมพูชาง่ายๆ ไม่ควรเกิดขึ้นอย่างเด็ดขาด เพราะไม่ใช่ของมัน แม้กระทั้งพื้นที่รอบ ปราสาทพระวิหาร ถ้ายึดครองพื้นที่ได้ ก็ต้องทำ และจะต้องมีการเจรจาพูดคุยอย่างจริงจังให้รู้เรื่อง ต้องยืนหยัดและไม่ยอมอีก ต้องไม่มีพื้นที่ทับซ้อน (อย่างที่ รัฐบาลนี้ชอบพูด) ไม่เช่นนั้นปีหน้าก็จะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมาอีก ไม่มีจบ ตราบใดที่ ตระกูลฮุนในกัมพูชา และ ตระกูลชิน ในไทย ยังครองอำนาจอยู่
5. เปลี่ยนตัว รมว.กต ได้แล้ว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี