ยก 7 ข้อฝาก‘ภูมิธรรม’ ไทยถือไพ่เหนือกัมพูชา เจรจาต้องไม่เสียเปรียบ
28 กรกฎาคม 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์คลิป พร้อมข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “ไทยถือไพ่เหนือกัมพูชา เจรจาต้องไม่เสียเปรียบ” ระบุว่า...
ไทยถือไพ่เหนือกัมพูชา เจรจาต้องไม่เสียเปรียบ
หลังจากมีกระแสข่าวที่ยืนยันได้ว่าประธานาธิบดี โดนัล ทรัมป์ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้โทรศัพท์พูดคุยกับนายฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา และได้พูดคุยกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เพื่อต้องการให้ทั้ง2ประเทศยุติการสู้รบกัน โดยใช้เงื่อนไขเรื่องการเจรจากำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกาเป็นข้อต่อรอง ถ้าหากทั้ง2ประเทศไม่สามารถยุติการสู้รบได้ ก็จะไม่มีการเจรจาเรื่องกำแพงภาษี หรือจะมีผลต่อการเจรจากำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกาแน่นอน
หลังจากนั้นมีกระแสข่าวยืนยันว่า นายภูมิธรรม และนายฮุน มาเนต จะเดินทางไปประเทศมาเลเซีย เพื่อพูดคุยเจรจาสงบศึกยุติการสู้รบ โดยมีนายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียนเป็นคนกลาง
อยากจะฝากความเห็นไปยังนายภูมิธรรม ในฐานะตัวแทนประเทศไทยว่าการไปเจรจากับผู้นำกัมพูชาครั้งนี้ ต้องให้ยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศชาติ และต้องมีการยืนยันที่ชัดเจนว่าการเจรจาจะไม่มีการกลับกลอก บิดพลิ้ว หรือหักหลังกัน การเจรจาต้องตั้งอยู่บนผลประโยชน์ของประเทศชาติ ไม่ใช่ผลประโยชน์ของบุคคลใดบุคคลหนึ่ง ต้องคำนึงถึงความสูญเสียของพี่น้องประชาชน ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน ให้คำนึงถึงความสูญเสียของทหารที่ได้รับการบาดเจ็บและเสียชีวิตไป การเจรจายุติการสู้รบในสถานการณ์เช่นนี้ ประเทศไทยไม่ได้เสียเปรียบประเทศกัมพูชาเลย
ผมอยากจะตั้งข้อสังเกตให้นายภูมิธรรมได้ตระหนักว่าการไปเจรจากับนายฮุน มาเนต ขอให้ตระหนักถึงการได้เปรียบของประเทศไทยในสถานการณ์สู้รบครั้งนี้ คือ
1.จุดเริ่มต้นของปัญหาความขัดแย้งและการสู้กัน มาจากกองทัพกัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดประเด็น และใช้ความรุนแรง ใช้อาวุธยิงมาก่อน
2.กระแสจากประชาคมโลกเห็นเป็นที่ประจักษ์ว่า กองทัพกัมพูชาได้ใช้อาวุธยิงไปในพื้นที่ฝ่ายพลเรือน ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ โรงพยาบาล โรงเรียน บ้านเรือนของประชาชน ทำให้มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตไปจำนวนหนึ่ง
3.การชี้แจงข้อเท็จจริงและสถานการณ์ที่เกิดขึ้นต่อองค์การสหประชาชาติหรือยูเอ็น การทำหน้าที่ของทูตไทยประจำยูเอ็น ได้แถลงและชี้แจงข้อมูลได้ชัดเจนกว่าของประเทศกัมพูชา
4.ความน่าเชื่อถือหรือเครดิตของผู้นำกัมพูชา คือสมเด็จฮุนเซน ขาดความน่าเชื่อถือในสายตาของผู้นำในประชาคมโลก
5.ศักยภาพของกองทัพและกองกำลังพล ของประเทศไทยมีเหนือกว่ากัมพูชาหลายเท่า ถือว่ามีการได้เปรียบทางกองกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์
6.ในการสู้รบที่เกิดขึ้น กองทัพของกัมพูชามีความสูญเสียทางด้านกำลังพลและกองทัพเสียหายมากกว่ากองทัพไทย
7.ความเสียหายทางระบบเศรษฐกิจของประเทศและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในกัมพูชาได้รับผลกระทบเป็นจำนวนมาก
โดยเงื่อนไขทั้งหมด 7 ข้อนี้ น่าจะเป็นประเด็นให้นายภูมิธรรมได้นำไปพิจารณา เมื่อเราถือไพ่เหนือกว่า ได้เปรียบกว่าในทุกด้าน การเจรจายุติสงครามหรือการใช้ความรุนแรง ก็ต้องได้เปรียบ เป็นต่อประเทศกัมพูชา อย่าให้ประเทศไทยต้องเสียประโยชน์ในการเจรจาต่อรองกันระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชา
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี