กฤษฎีกาสนับสนุนการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจที่แข่งขันได้ แข็งแรง และยั่งยืน ด้วยแนวคิดการมีกฎหมายที่ดี
การประชุมวิชาการประจำปี 2025 ของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา จัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2025 ภายใต้หัวข้อ "Better Regulation for Better Thailand: Towards A Sustainable and Digital Ready Economy" หรือการพัฒนากฎหมายเพื่อยกระดับคุณภาพกฎหมายเพื่อสังคมและเศรษฐกิจดิจิทัลที่ยั่งยืนของประเทศไทย
การจัดประชุมในครั้งนี้ กฤษฎีกาชูแนวคิดด้านกฎหมายและการพัฒนาที่ว่า การพัฒนากฎหมายเป็นพหุศาสตร์ กล่าวคือ การจัดทำนโยบายด้านกฎหมายหรือการยกระดับคุณภาพกฎหมายของประเทศไม่สามารถทำได้ หากนักกฎหมายกฤษฎีกาและผู้ที่เกี่ยวข้องปฏิเสธที่จะเรียนรู้ถึงบริบทของการยกร่างกฎหมายแต่ละฉบับ นอกจากนั้น ประเทศไทยเป็นส่วนหนึ่งของระบบสังคมและเศรษฐกิจโลก การดำเนินนโยบายด้านกฎหมายจึงต้องคำนึงถึงความสอดคล้องระหว่างกฎภายในประเทศและความตกลงหรือแนวปฏิบัติในเรื่องนั้น ๆ ของประชาคมโลกด้วย ด้วยเหตุนี้ กฎหมายจึงเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาสังคมและเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน (law as an engine for growth) นั่นเอง
ในปัจจุบันโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและสิ่งแวดล้อม การมีกฎหมายที่ดีไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือในการควบคุม แต่ยังเป็นพลังขับเคลื่อนที่สำคัญในการสร้างสังคมที่ยุติธรรม ยั่งยืน และเหมาะสมสำหรับเศรษฐกิจดิจิทัลที่กำลังเติบโต กฎหมายที่ดีช่วยให้เราสามารถปรับตัวต่อการพัฒนาใหม่ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งเสริมความมั่นคงในสังคม และเพิ่มโอกาสในการสร้างนวัตกรรมที่มีคุณค่า การประชุมวิชาการประจำปีของกฤษฎีกา จึงเป็นเวทีสำคัญที่รวมผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ มาร่วมแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์จากทั่วโลก โดยคาดหวังว่าการสนทนา แนวความคิด และเครือข่ายจากการพบปะพูดคุยในระหว่างการประชุมในครั้งนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นหรือเป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาแนวทางกฎหมายที่สอดคล้องกับความต้องการของยุคดิจิทัลและความมุ่งมั่นในการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
หากพิจารณาบทบาทของกฎหมายเพื่อการพัฒนาสังคมเศรษฐกิจดิจิทัลในประเทศไทย การทำความเข้าใจถึงฉากทัศน์ (landscape) ด้านกฎหมายสังคมเศรษฐกิจดิจิทัลเป็นภาพรวมของโครงสร้างกฎหมายในด้านนี้เป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในโลกที่มีการติดต่อสื่อสารอย่างไร้พรมแดน การพัฒนาแนวคิดด้านกฎหมายร่วมกันโดยยึดคำแนะนำและมาตรฐานด้านกฎหมายขององค์การระหว่างประเทศ เช่น องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) จึงเป็นเรื่องที่ประเทศไทยต้องให้ความสำคัญเพื่อสร้างบทบาทร่วมกำหนดทิศทางการทำงานและการออกคำแนะนำ นอกจากนั้น บทบาทของภาคธุรกิจและความร่วมมือระหว่างประเทศในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลเป็นอีกเรื่องที่จะมองข้ามไม่ได้เนื่องจากการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐจำเป็นต้องได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนและประชาชนเพื่อให้สามารถขับเคลื่อนประเทศไปในทิศทางเดียวกัน
กฎหมายยังมีบทบาทสำคัญที่จะส่งเสริมการพัฒนาเทคโนโลยีสมัยใหม่ โดยเฉพาะการออกแบบและกำหนดนโยบายและธรรมาภิบาลของการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งเป็นเรื่องที่กำลังได้รับการพูดถึงในแวดวงวิชาการ และนโยบายทั้งในระดับประเทศและระดับโลก โดยการประชุมวิชาการประจำปีของกฤษฎีกาในครั้งนี้ ถือเป็นกิจกรรมเสริม (official side event) ของการประชุม UNESCO Global Forum on Ethics of AI ครั้งที่ 3 ซึ่งประเทศไทยรับเป็นเจ้าภาพ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้ประเทศไทยเริ่มต้นบทสนทนาที่มีคุณค่า องค์ความรู้ใหม่ และความร่วมมือที่สามารถสร้างผลกระทบในระดับสากล และขอเชิญชวนทุกท่านใช้โอกาสนี้รับชมการประชุมย้อนหลังได้จากเว็บไซต์และเพจเฟซบุ๊กของสำนักงานฯ https://www.facebook.com/OCS.Krisdika และหวังว่าการประชุมครั้งนี้จะสร้างแรงบันดาลใจให้กับพวกเราในการเดินหน้าสู่เป้าหมายร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี