‘บิ๊กเกรียง’ ติงไทยควรได้เปรียบบนโต๊ะเจรจา ‘เข้มรักษาพื้นที่หัวใจสำคัญ - ยึดแผนที่1:50,000แม่นยำสูง-ทบทวนเอ็มโอยู43-44’ มั่นใจ ‘กองทัพ’ ตรึงจุดยุทธศาสตร์สำคัญ ชิงความได้เปรียบได้ สั่นการสู้รบย่อมสูญเสีย แต่ต้องยืนยันให้ได้ว่าจะไม่เสียเปล่า
29ก.ค.2568 เมื่อเวลา10.00น. ที่รัฐสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่1 ในฐานะอดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวถึงสถานการณ์การปะทะบริเวณพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาที่ยังไม่นิ่งว่า มั่นใจว่า กองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ที่ปฏิบัติการอยู่ตามแนวชายแดนจะสามารถที่จะยึดพื้นที่ของไทยได้ ซึ่งหากไทยมีการยึดพื้นที่ก็ถือว่า จะเป็นข้อได้เปรียบในการพูดคุยเจรจาตกลงทำให้ง่ายขึ้น เพราะฉะนั้นการจะยึดภูมะเขือ หรือยึดประสาทตาควายกลับคืนมา ถือเป็นความจำเป็น เพราะถือเป็นจุดสูงข่ม เพื่อให้เกิดความได้เปรียบในการปฏิบัติการทางทหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้ถูกบรรจุอยู่ในแผนป้องกันประเทศของกองทัพบกอยู่แล้ว
ยอมรับว่า การตอบโต้ไปมา ย่อมมีการสูญเสีย แต่กองทัพไทยมีนโยบายแน่ชัดว่า จะไม่มีการดำเนินการกับพลเรือนของฝ่ายกัมพูชา ไม่เหมือนกับกัมพูชาที่ยิงโดยมีเป้าหมายซ่อนเร้น ทำให้ประชาชนคนไทยได้รับผลกระทบ พร้อมยังชื่นชมการทำหน้าที่ของทหารแนวหน้า ที่ได้เสียสละมาตั้งแต่ต้น
พล.องเกรียงไกร ยังกล่าวถึงการเจรจาระหว่างไทย–กัมพูชา วานนี้(28ก.ค.) โดยมีมาเลเซียเป็นตัวกลางว่า เป็นสัญญาณบวก และแสดงความหวังว่า สถานการณ์จะดีขึ้นเมื่อมีหลายประเทศเข้ามามีบทบาท เช่น สหรัฐฯ และจีน แต่สุดท้ายแล้วทุกสงครามต้องจบที่การเจรจา ไม่ใช่การตอบโต้กันไปมา ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ต่อประชาชน
“ไทยควรได้เปรียบบนโต๊ะเจรจา โดยเฉพาะการรักษาพื้นที่คือหัวใจสำคัญ และใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 ซึ่งมีความแม่นยำสูง และไม่ควรส่งมอบพื้นที่ที่เรายึดคืนกลับไปอีกโดยไม่มีหลักประกันใด ๆ” พล.อ.เกรียงไกร กล่าว
เมื่อถามถึงข้อเสนอของวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภาฯ กล่าวว่า ยืนยันว่าการใช้แผนที่มาตราส่วน 1:50,000 และเรียกร้องให้มีการทบทวน MOU ฉบับที่ 43 และ 44 ซึ่งอาจต้องเข้าสู่กระบวนการเจรจาใหม่ หรือแม้แต่พิจารณายกเลิกหากขัดต่อผลประโยชน์ของชาติ ส่วนท่าทีของสหรัฐฯ ที่ระบุว่าจะไม่เจรจาทางการค้า หากชายแดนไทย–กัมพูชายังไม่สงบนั้น ตนมองว่า เป็นแรงกดดันเชิงนโยบายที่รัฐบาลต้องรับมือ แต่หน้าที่ของทหารในแนวหน้าคือการรักษาอธิปไตย และปกป้องประเทศจากการรุกราน แม้จะต้องสูญเสีย ต้องเจ็บปวด แต่ต้องยืนยันให้ได้ว่า การสูญเสียจะต้องไม่เสียเปล่า
พล.อ.เกรียงไกร กล่าวด้วยว่า ในวันนี้ (29 ก.ค.) ตนได้ตรวจเยี่ยมการบริจาคเลือด ภายหลังสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้เชิญชวนสมาชิกวุฒิสภา บุคลากรรัฐสภา ร่วมบริจาคโลหิต เพื่อนำไปช่วยเหลือทหารกล้า เจ้าหน้าที่และพี่น้องประชาชน ผู้ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ความไม่สงบชายแดนไทย – กัมพูชา ซึ่งหลายรายอยู่ในภาวะวิกฤตจำเป็นต้องได้รับโลหิตอย่างเร่งด่วน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี