"ภูมิธรรม"ยันรัฐบาลไม่กดดันกองทัพ ปล่อยตัว 18 ทหารกัมพูชา ให้เจ้าหน้าที่สอบจะได้มีหลักฐานชัด ย้ำอย่ามองรัฐกับทหารแตกกัน ขอให้รอหลังถูกถามแนวทางยึด"ปราสาทตาควาย"คืน พร้อมเรียก 2 ว่าที่อธิบดีปกครอง-สถ.เข้าพบมอบหมายเร่งรัดดูแลเยียวยาประชาชน 7 จังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมระดมนักศึกษาอาชีวะ-ทหาร เร่งซ่อมแซมบ้านเรือนเสียหายใน 1 เดือน หลังหยุดยิง
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ที่กระทรวงมหาดไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกระแสข่าวรัฐบาลกดดันให้กองทัพปล่อยตัว 18 ทหารกัมพูชาที่ถูกจับกุม ว่า ไม่ได้กดดัน โดยให้เป็นไปตามกระบวนการ และได้ชี้แจงตั้งแต่เมื่อเช้าวันที่ 31 ก.ค.แล้ว ว่าทหารกัมพูชา 18 นาย ขณะนี้ให้เจ้าหน้าที่สอบไปว่ามีความเป็นมาอย่างไร เพื่อจะได้มีหลักฐานครอบคลุมชัดเจน พร้อมขอว่า อย่าพยายามตั้งคำถาม หรือมองในแง่ว่ารัฐบาลกับทหารแตกแยกกัน เพราะเราโทรคุยกันทุกเช้า ไม่มีปัญหาอะไร
เมื่อถามถึง กรณีส่วนของปราสาทตาควายจะมีแนวทางยึดคืนมาได้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า เรายึดครองอยู่ตอนนี้ เมื่อถามย้ำว่า หมายถึงตัวปราสาท นายภูมิธรรม กล่าวเพียงสั้นๆ ว่าเดี๋ยวรอ
นอกจากนี้ นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า วันนี้ได้เชิญ นายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร ว่าที่อธิบดีกรมการปกครอง และ ร.ต.ท.ภพชนก ชลานุเคราะห์ ว่าที่อธิบดีกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) มาพบเพื่อที่จะสามารถต่องานได้ทันที เมื่อเข้ามารับหน้าที่ โดยเฉพาะงานที่จะดูแลเยียวยาประชาชน ซึ่งอยู่ในอำนาจของอธิบดีกรมการปกครอง และกรมการปกครองท้องถิ่นจะได้ให้ช่วยกันดูแล โดยขณะนี้ได้มอบหมายให้ 2 ว่าที่อธิบดี ดูแลประชาชนที่อยู่ในศูนย์อพยพในพื้นที่ 7 จังหวัด ซึ่งมีอยู่ 733 แห่ง มีประชาชนทั้งสิ้น 187,974 คน โดยขอให้ดูแลให้ครบถ้วนในเรื่องปัจจัย 4 ส่วนเรื่องที่ประสบปัญหาอยู่ก็ให้เร่งแก้ไข
ขณะที่บ้านเรือนที่ได้รับความเสียหาย ขอให้กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น ตรวจสอบประมาณค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมบ้านเรือน ว่าเป็นการเสียหายทั้งหลังหรือบางส่วน โดยจะให้ใช้จ่ายจากเงินบริจาคที่ประชาชนบริจาคให้ผ่านกองทุนช่วยเหลือผู้ประสบภัย ของทำเนียบรัฐบาล ที่สามารถดำเนินการได้เร็ว รวมถึงให้ประสานงานระดมนักเรียนอาชีวะ ในเขตจังหวัดเข้าไปซ่อมแซมดูแล และจัดเจ้าหน้าที่ทหารส่วนหนึ่งไปช่วยดูแล โดยตั้งเป้าให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน หลังจากที่มีการหยุดยิงเรียบร้อย แม้ว่าขณะนี้จะหยุดยิงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ก็ต้องดูให้มีความแน่นอนและชัดเจนก่อน
ส่วนการให้ความช่วยเหลือในระยะต่อไป มีงบรายการที่ต้องจ่ายในกรณีฉุกเฉิน ซึ่งขณะนี้มีงบตั้งจ่ายอยู่ที่จังหวัดละ 50 ล้านบาท แต่ได้มีการขยายเป็นจังหวัดละ 100 ล้านบาทแล้ว และจะเร่งรัดให้ผู้ว่าราชการจังหวัด ประเมินความเสียหาย หากไม่เร่งรัดจะถือว่าเป็นการปฏิบัติหน้าที่บกพร่อง โดยทั้ง 7 จังหวัดจะต้องดำเนินการทันที พร้อมกล่าวย้ำว่า การใช้งบประมาณในส่วนนี้ สามารถเบิกจ่ายได้ดีกว่าเงินในส่วนของกระทรวงมหาดไทย ส่วนงบประมาณ 100 ล้านบาทที่เพิ่มให้ก็สามารถดำเนินการได้เลย
นายภูมิธรรม กล่าวย้ำว่า รัฐบาลห่วงใยประชาชน และอยากให้ผ่อนคลายในเรื่องราวต่างๆ จึงอยากให้ประชาชนคลายความกังวล
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี