กลุ่มรวมพลังแผ่นดินฯเดินสายบุก“กองทัพเรือ-สตช.”ให้กำลังใจ“ทหารเรือ-ตชด.ร่วมปกป้องอธิปไตยแนวชายแดนไทย-กัมพูชา “จตุพร”ซัดรัฐบาลไร้ประสิทธิภาพรับมือวิกฤต ย้ำเจรจาต้องฟังเสียงปชช.ซัดรัฐบาลเฮงซวยเจรจาหยุดยิง ไทยเสียปราสาทตาควายปลุกใจร่วมชุมนุมใหญ่ 2 ส.ค.แสดงพลังให้มากที่สุด รวมพลังใจให้ทหารทั้ง3เหล่าทัพ-ตร.ประณามกัมพูชาเรียกร้องความชัดเจนจากรัฐบาล
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ที่หน้ากองบัญชาการกองทัพเรือ ถนนอรุณอัมรินทร์คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย นำโดยนายจตุพร พรหมพันธ์ นายนิติธร ล้ำเหลือ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ เครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.) นายนัสเซอร์ยีหมะ กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศ.ป.ป.ส.) นายใจเพชร กล้าจนและนายแซมดิน เลิศบุศย์ กลุ่มกองทัพธรรมนำกลุ่มมวลชนจำนวนหนึ่งเดินทางมายื่นหนังสือและมอบดอกกุหลาบให้กำลังใจทหารเรือและนาวิกโยธิน ที่ปฏิบัติหน้าที่ในการปกป้องอธิปไตยของชาติบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ฝั่งจ.ตราด จันทบุรี อย่างกล้าหาญ โดยมีน.อ.ชลภู ชูศรี รองเลขานุการกองทัพเรือเป็นผู้แทนกองทัพเรือรับมอบพร้อมขอบคุณทุกแรงสนับสนุนโดยยืนยันว่าทหารเรือจะปกป้องผลประโยชน์ของชาติทั้งทางบกและทางทะเลอย่างเต็มกำลัง
นายจตุพร พรหมพันธุ์ กล่าวว่าได้เดินทางไปให้กำลังใจทหารมาแล้วหลายหน่วย ทั้งกองบัญชาการกองทัพไทย ศูนย์ราชการและกองทัพอากาศ แม้ทหารไทยจะปกป้องดินแดนไทยไว้ได้ แต่รัฐบาลไทยที่ยังดำเนินการทางการเมืองและการทูตล่าช้าไม่สามารถตอบสนองต่อสถานการณ์ได้อย่างทันท่วงทีปล่อยให้กัมพูชาดำเนินการเชิงรุกบนเวทีนานาชาติพร้อมกล่าวหาประเทศไทยอย่างเสียหาย หากกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงซ้ำซาก ประเทศไทยไม่ควรผูกพันตามข้อตกลงฝ่ายเดียวจึงขอเรียกร้องให้ประชาชนคนไทยทั่วประเทศมีสิทธิร่วมตัดสินใจแก้ไขปัญหาไทย-กัมพูชา หากจะมีการเจรจาระหว่างประเทศ ถ้าประชาชนไม่เห็นด้วย ก็ไม่มีใครมีสิทธิ์เจรจาแทนได้
จากนั้นกลุ่มคณะรวมพลังแผ่นดินฯพร้อมคณะได้เดินทางไปยังสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้กำลังใจตำรวจตระเวนชายแดนที่ร่วมกันปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา
โดยนายพิชิตกล่าวว่าประชาชนคนไทย คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ขอส่งมอบแรงใจเพื่อผสานหัวใจความเป็นไทย ให้แก่ทหารไทยทั้ง3เหล่าทัพและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ร่วมกันปกป้องอธิปไตยของประเทศไทยตลอดแนวชายแดนไทย กัมพูชา ด้วยชีวิต ชาติไทยอยู่ในภาวะป้องกันประเทศจากการรุกรานอธิปไตยจากกัมพูชา ด้วยการเปิดฉากยั่วยุ เพื่อสร้างแรงกดดันให้กับทหารไทย นำมาสู่การละเมิดสัญญา ออดตาวา ของทหารกัมพูชาที่ลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลจนทำให้ทหารไทยขาขาด 2 นาย สถานการณ์พัฒนามาสู่ทหารกัมพูชาได้เปิดฉากยิงทหารไทยก่อน เป็นเหตุให้ทหารไทยทั้ง3เหล่าทัพและเจ้าหน้าที่ตำรวจ ต้องทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตยไทย
“เหตุปะทะกันด้วยอาวุธนานาชนิดนั้นเป็นเพียงองค์ประกอบหนึ่งของสถานการณ์โดยรวมของประเทศ เหตุแท้จริงแล้ว คณะรวมพลังแผ่นดินฯเห็นว่าเกิดจากชนวนแห่งผลประโยชน์ทับซ้อนของกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน และความอ่อนแอทางการเมือง การทูตของรัฐบาลไทยเห็นได้จากหลักฐาน กรณีคลิปเสียง สนทนาระหว่าง นายกรัฐมนตรีไทย น.ส.แพทองธาร ชินวัตรกับ สมเด็จ ฮุนเซน แห่งกัมพูชา อันเป็นคลิปเสียงที่กลายเป็นใบเสร็จสำคัญของเหตุการณ์ปะทะกันของทหาร2ฝ่าย นำมาสู่ความสูญเสียของประชาชน พลเรือน ทหารอยู่ในขณะนี้”
นายพิชิตกล่าวอีกว่าเราขอร่วมกับกองทัพไทยประณามรัฐบาลกัมพูชาและทหารกัมพูชาที่ยิงระเบิดมาสู่เป้าหมายพลเรือน ประชาชน โรงพยาบาล บ้านเรือน ประชาชนชาวไทย อันไม่ใช่เป้าหมายทางการทหาร การกระทำเช่นนั้น ถือเป็นอาชญากรสงคราม คณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย ขอส่งแรงใจ แรงสนับสนุน สู่ทหารและตำรวจแนวหน้า ทั้งสิ่งของ ข้าวสาร อาหารแห้ง น้ำดื่ม เครื่องใช้ต่างๆ เพื่อสนับสนุนกองทัพไทย และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่แม้จะมีการหยุดยิง(ชั่วคราว)แต่ยังต้องวางกำลังรักษาอธิปไตย ในการปกป้อง ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน อันเป็นองค์ประกอบหลักของประเทศไทยต่อไป
“ภัยของประเทศมีหลายรูปแบบคณะรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตย มีเจตนาแน่วแน่ที่จะร่วมกับทุกหมู่เหล่า ข้าราชการทุกองค์กรในการสร้างประเทศเข้มแข็ง การเมืองใสสะอาด ปราศจากการคอร์รัปชั่นจะเป็นพื้นฐานการป้องกันการรุกรานจากต่างประเทศได้เป็นอย่างดีเราขอส่งแรงใจกำลังใจเพื่อร่วมกับกองทัพไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการปกป้องประเทศไทยจากหัวใจแนวหลัง สู่แนวหน้า ร่วมใจปกป้องภัย นำประเทศไทยสู้ภัยร่วมกัน”แกนนำคปท.ระบุ
นายจตุพรกล่าวว่าในสมรภูมิไทยกัมพูชาเราจะรู้ว่าทหารบกทำอะไร ทหารอากาศทำอะไร ทหารเรือทำอะไร ทหารผ่านนักรบชุดดำทำอะไรกรณีตำรวจตระเวนชายแดนแทบจะไม่ปรากฏข่าวแต่ก็อยู่ในยุทธภูมิได้รับบาดเจ็บกันเป็นจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรที่อยู่ในพื้นที่เกิดเหตุก็ทำหน้าที่ในการอำนวยการร่วมอพยพดูแลพี่น้องประชาชนวันนี้พวกเรามาให้กำลังใจ สถานการณ์จนถึงวันนี้ก็ไม่ได้เป็นคุณกับประเทศไทยที่จะไว้วางใจอะไรกันได้
นายจตุพรกล่าวว่า ก่อนที่จะมาได้รับฟังการแถลงข่าวของโฆษกกองทัพบกในกรณีปราสาทตาควายฟังด้วยความไม่สบายใจที่สุดเพราะได้ถูกอธิบายด้วยเงื่อนไขเวลา ตลอดระยะหลายวันมานี้ สิ่งที่เราได้ข่าวว่า 11ยุทธภูมิหนึ่งในนั้นคือปราสาทตาควายเราได้ยึดเป็นที่เรียบร้อยจนกระทั่งช่วงเช้าฝั่งกัมพูชาไม่ว่าจะเป็นนักท่องเที่ยวทหารโพสต์ภาพขึ้นไปยังปราสาทตาควาย คนไทยแทบไม่เชื่อสายตาว่ามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร
“ผมเข้าใจการทำหน้าที่ของทหาร แต่ผมไม่เข้าใจการทำหน้าที่ของรักษาการนายกฯว่าคุณไปเจรจาหยุดยิงได้อย่างไรในขณะที่เรายังจัดการไม่เรียบร้อย ในขณะที่กัมพูชาวางระเบิดไว้รอบบริเวณได้เปรียบในยุทธภูมิ แต่รัฐบาลเลือกที่จะไปเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข บัดนี้กัมพูชาเขายึดปราสาทตาควายไปแล้ว คนไทยและทางการไทยไม่สามารถไปที่ปราสาทตาควายได้ ผมไม่รู้ว่านายภูมิธรรมในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี รู้สึกอย่างไรและผมไม่รู้จะเรียกร้องอะไรจากรัฐบาลชุดนี้นายภูมิธรรมไม่รู้ว่าคุณยังมีหัวใจเป็นคนไทยหรือเปล่า ถึงแม้เราจะมีเครื่องบินมีเรือรบแต่เรากลับมีรัฐบาลที่เฮงซวย ต้องทำให้เราเสียเปรียบในยุทธภูมินี้อย่างที่ไม่ควรจะเสีย รัฐบาลเฮงซวยได้แต่ประชาชนไม่มีหน้าที่เฮงซวยตามเราต้องให้กำลังใจทหารและตำรวจให้ทำหน้าที่ ในวันที่ 2 ส.ค.นี้ต้องมาแสดงพลังให้มากที่สุดเพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ”นายจตุพร ย้ำพร้อมจัดการประชุมสรุปการเคลื่อนไหวการชุมนุมใหญ่วันเสาร์ที่2ส.ค.นี้ รวมพลังแรงใจ จากหัวใจแนวหลัง สู่แนวหน้า ร่วมใจปกป้องภัย นำประเทศไทยสู้ภัยร่วมกันโดยแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้เวลา 12.00น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี