"กมธ.มั่นคงแห่งรัฐฯ"เสนอฟ้อง"ผู้นำกัมพูชา" ฐานก่ออาชญากรสงคราม ด้าน"สมช."รับลูกจ่อศึกษากฎหมายเพิ่ม ยันเจรจาที่"มาเลเซีย"คุยแค่หยุดยิง ขณะ"กสทช."เตือน ปชช.อย่ารับสายเด็ดขาด เบอร์ขึ้นต้น +697 และ +698 เผยปิดเบอร์ผีไปแล้ว 1.7 หมื่นบัญชี อึ้ง"เขมร"ไม่ยอมจ่ายค่าไฟ กฟภ.เลยงดจ่าย 8 จุด
เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ที่รัฐสภา นายปิยรัฐ จงเทพ สส.กทม.พรรคประชาชน (ปชน.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ความมั่นคงแห่งรัฐ กิจการชายแดนไทย ยุทธศาสตร์ชาติและการปฏิรูปประเทศ สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยผลการประชุมคณะ กมธ.ซึ่งนำโดย นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะประธาน
โดยคณะ กมธ.ได้ประชุมพิจารณากรณีความขัดแย้งระหว่างไทย - กัมพูชา ซึ่งส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม การปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และกลไกการพูดคุยผ่าน JBC โดยเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจง
โดยสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ชี้แจงว่า การเจรจาระหว่างผู้นำไทยและกัมพูชา ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 28 ก.ค.68 ที่ผ่านมา เรามุ่งเน้นเรื่องการหยุดยิงเท่านั้น ไม่ได้มีการเจรจาเรื่องดินแดนแต่อย่างใด สมช.ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าหลังเจรจาให้หยุดยิง เมื่อเวลา 24.00 น.กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงก่อน โดยยังมีการยิงต่อเนื่องจนถึงเวลา 08.00 น.ของวันถัดมาจึงสงบลง โดยไทยสามารถเข้าควบคุมพื้นที่ตามเดิมและควบคุมตัวทหารกัมพูชาได้จำนวนหนึ่ง และได้ดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมต่อพวกเขา ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจาเพื่อส่งกลับกัมพูชาต่อไป ขณะเดียวกันนี้รัฐบาลไทยกำลังตรวจสอบสถานการณ์หยุดยิงตามแนวชายแดน จึงขอให้ประชาชนยังคงอยู่ที่ศูนย์อพยพชั่วคราวต่อไปอีกสักระยะเพื่อความปลอดภัย
ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศ ได้ให้ข้อมูลกับกรรมาธิการเรื่องหลักการที่ไทยยึดถือในการเจรจาแบบทวิภาคี โดยมีเหตุผลหลัก 3 ประการ ได้แก่ 1.ยึดตามบันทึกความเข้าใจ MOU ปี 2543 ระหว่างไทย - กัมพูชา 2.ไทยมีกลไกการเจรจาทวิภาคีกับพม่า ลาว มาเลเซีย ซึ่งเป็นแนวทางที่ได้ผล และ 3.ไทยเราไม่ต้องการเปิดเวทีพหุภาคี
กระทรวงการต่างประเทศ ระบุเพิ่มเติมว่า จะมีการพัฒนากระบวนการนำเสนอข้อมูลข่าวสารและคัดกรองข้อมูลก่อนจะสื่อสารเพื่อให้เกิดความถูกต้องและเป็นเอกภาพ
ด้านสำนักงาน กสทช.รายงานว่า มีการตรวจสอบเบอร์โทรจากต่างประเทศ โดยเบอร์ที่ขึ้นต้นด้วย +697 และ +698 ฝากพี่น้องประชาชนต้องระวังในการรับสาย ทั้งนี้ ปัจจุบันมีการปิดเบอร์ต้องสงสัยไปแล้วกว่า 170,000 ซิม พร้อมย้ำว่า หน่วยงานความมั่นคงสามารถแจ้งตัดสายต้องสงสัยได้ทันที และมีการตรวจสอบ IP ผิดกฎหมายอย่างเข้มงวด
ส่วนการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ให้ข้อมูลว่าตั้งแต่วันที่ 13 - 24 มิ.ย.68 กัมพูชาไม่ได้ใช้ไฟฟ้าจากไทยทั้ง 8 จุด เนื่องจากบริษัทในกัมพูชาค้างชำระค่าไฟ โดยทางไทยใช้มาตรการงดจ่ายไฟ แทนการเจรจา หากต้องการใช้แนวทางแบบประเทศพม่า จะต้องมีมติจาก สมช.โดยได้เสนอเรื่องให้ศูนย์ประสานงานชายแดน (ศป.ชด.) พิจารณาเพื่อดำเนินการต่อไปตามมติ
ต่อมา มูลนิธิอิมมานูเอล เปิดเผยกรณีเหยื่อค้ามนุษย์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชา ซึ่งถูกหลอกและกักขัง ก่อนถูกตั้งข้อหาเป็นอาชญากร โดยมูลนิธิกำลังให้ความช่วยเหลือเหยื่อที่แท้จริง ซึ่งเป็นผู้เสียหายจากขบวนการค้ามนุษย์นี้ ส่วนศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ (ศปอส.ตร.) รายงานว่าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในกัมพูชามีจุดปฏิบัติการตามแนวชายแดนไทยถึง 14 จุด ขณะนี้อยู่ระหว่างการสืบสวนและดำเนินคดี พร้อมออกหมายจับ นายก๊ก อาน และพวกอีก 6 ราย โดยตำรวจไทยเร่งปราบปรามอาชญากรข้ามชาติกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง
ภายหลังการรับฟังข้อมูล คณะกรรมาธิการได้ซักถามและแสดงความเห็นเพิ่มเติม ดังนี้ 1.เสนอให้ใช้กลไกศาลอาญาระหว่างประเทศ (ICC) ดำเนินคดีกับผู้นำกัมพูชาในกรณีอาชญากรรมสงครามและการค้ามนุษย์ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่า ต้องผ่านการพิจารณาร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงทุกฝ่าย ขณะที่ สมช. จะศึกษากฎหมายระหว่างประเทศเพิ่มเติม 2.เสนอให้พัฒนาระบบการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพ สมช.รับทราบข้อเสนอ พร้อมประสานงานกับกองทัพเพื่อให้ข้อมูลเป็นไปในทิศทางเดียวกัน 3.เรื่องการควบคุมตัวทหารกัมพูชา 18 นายที่รุกล้ำอธิปไตยไทย สมช.ยืนยันจะดำเนินการตามหลักมนุษยธรรมและกฎหมายระหว่างประเทศ
4.ในวันที่ 1 ส.ค. กมธ.ได้รับแจ้งว่า ทางรัฐบาลได้เชิญคณะทูตจากกว่า 20 ประเทศ อาทิ สหรัฐฯ จีน ญี่ปุ่น ลาว เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส ฯลฯ ลงพื้นที่ชายแดนเพื่อรับฟังข้อมูลข้อเท็จจริง 5.เรื่องการเยียวยาทหารและประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สมช.ระบุว่า กระทรวงมหาดไทยกำลังดูแลเรื่องการเยียวยาประชาชน ส่วนทหารนั้น กระทรวงกลาโหมมีระบบดูแลอย่างเป็นระบบอยู่แล้ว 6.เรื่องการห้ามโดรนบินใน 7 จังหวัด สมช.ชี้แจงว่าตำรวจและทหารกำลังเร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาดังกล่าว 7.เรื่องการตั้ง Monitoring Team เพื่อแสดงศักยภาพไทยในเวทีระหว่างประเทศ คณะกรรมาธิการเสนอให้ตั้งทีมโดยเร็ว พร้อมให้มีตัวแทนทูตร่วมในทีม เพื่อสร้างความเชื่อมั่นใจแก่ชาวโลก
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี