‘พิชิต’ย้ำข้อเรียกร้อง ‘อิ๊งค์’ต้องลาออก เซ่นปมคลิป‘อังเคิลฮุน’ กระตุกพรรคร่วมรัฐบาลเห็นใจทหารแนวหน้า แสดงจุดยืนทิ้งรัฐบาล ประณามเขมรเป็น‘อาชญากรสงคราม’ จับตา‘จตุพร’ประกาศท่าที ยกระดับม็อบขยับค้างคืน ใกล้ทำเนียบรัฐบาล
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 2 ส.ค.68 ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ให้สัมภาษณ์ถึงการจัดชุมนุมของกลุ่มรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิบไตยไทย เพื่อแสดงพลังห่วงใยสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่า การชุมนุมในวันนี้เป็นกิจกรรมต่อเนื่องจากครั้งก่อน แต่ข้อเรียกร้องเดิมคือ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ต้องรับผิดชอบต่อกรณีคลิปเสียงหลุด เพราะผลของคลิปหลุดทำให้เกิดสงครามระหว่างประเทศ สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ประชาชนได้รับความเดือดร้อนจากการสู้รบ ทหารได้รับการบาดเจ็บเป็นจำนวนมาก
นายพิชิต กล่าวว่า อิทธิพลที่ น.ส.แพทองธารพูดว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ไม่ใช่พวกเรา ทำให้กัมพูชาได้ใจ มีความฮึกเหิมจนทำให้เกิดการสู้รบ น.ส.แพทองธารปฏิเสธความรับผิดชอบนี้ไม่ได้ จึงต้องลาออกจากตำแหน่งทันที ขอส่งเสียงไปถึงพรรคร่วมรัฐบาล โดยตั้งคำถามว่าจะต้องประคองรัฐบาลชุดนี้ต่อไปหรือ ควรเห็นใจทหารแนวหน้าประชาชนที่เสียชีวิต เด็กน้อยที่ต้องถูกระเบิดในร้านสะดวกซื้อ พรรคร่วมรัฐบาลจะประคองระบอบชินวัตรไปถึงไหน จึงขอให้แสดงจุดยืนโดยการลาออกจากพรรคร่วมรัฐบาลโดยทันที
นายพิชิต กล่าวว่า พวกเราต้องการสื่อสารไปถึงรัฐบาลกัมพูชา ขอประณามการกระทำโดยเฉพาะทหารกัมพูชาที่ยิงปืนใหญ่ไปสู่เป้าหมายพลเรือน ซึ่งผิดขั้นตอนการรบ เป็นการทำลายประชาชน การกระทำเช่นนี้ถือเป็นอาชญากรสงคราม ส่วนรัฐบาลไทยที่ไปเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ทำให้ไทยเสียเปรียบเป็นอย่างมาก เหตุใดถึงไม่ยื่นเงื่อนไขให้กัมพูชามาเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ของไทยเสียก่อน ทหารไทยทำงานลำบาก เนื่องจากกัมพูชาผิดอนุสัญญาออตาวาวางระเบิดทุ่นระเบิดเป็นจำนวนมาก แต่รัฐบาลกลับเจรจาให้หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ทั้งที่ควรยื่นเงื่อนไขให้กัมพูชาต้องมาถอนทุ่นระเบิดออกไปให้หมด ฉะนั้น การกระทำของรัฐบาลเป็นการปกป้องประเทศไทย หรือปกป้องผลประโยชน์ของใครกันแน่
เมื่อถามว่า รัฐบาลมีความเห็นว่าการจัดชุมนุมครั้งนี้ไม่ใช่เวลาที่จะมากดดันรัฐบาล นายพิชิต กล่าวว่า ความรับผิดชอบจะต้องมีตลอดเวลา เราพูดมาก่อนการจะมีสงคราม เราไม่ได้ขัดขวางการสู้รบของทหารตามแนวชายแดน แต่ต้องการมาสื่อสารและบริจาคสิ่งของเพื่อส่งไปชายแดน ซึ่งเราต้องจัดการไส้ศึกของเราด้วยเช่นกัน
นายพิชิต กล่าวว่า การที่ น.ส.แพทองธาร พูดกับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา เสมือนให้กำลังใจกัมพูชา เหมือนเป็นไส้ศึก จุดอ่อนทางความมั่นคงคือรัฐบาล กัมพูชาถือไพ่เหนือกว่า มีคลิปเสียงที่สามารถข่มขู่รัฐบาลไทยได้ ดังนั้นจุดอ่อนของความมั่นคงของประเทศเป็นรัฐบาล ไม่ใช่กองทัพและประชาชน เพื่อให้ประเทศเดินหน้าได้จะต้องกำจัดจุดอ่อน ด้วยการที่นางสาวแพทองธารต้องลาออก
เมื่อถามถึงกรณีที่ น.ส.แพทองธาร ระบุว่าปัญหาที่เกิดขึ้น ไม่ได้เกิดจากสองตระกูล แต่เป็นเรื่องการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นายพิชิต กล่าวว่า เราไม่เคยเห็นปรากฏการณ์ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่เป็นรูปธรรมในกัมพูชา ไฟฟ้าและอินเทอร์เน็ตยังไม่ตัด การอ้างถึงการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และคลิปหลุดที่ถามถึงความต้องการของสมเด็จฮุนเซนแสดงว่าความสัมพันธ์ส่วนตัวในตอนนั้นยังดีอยู่ ไม่ได้ทะเลาะกัน
“ผมว่าเป็นข้ออ้างเอาสงครามมาเป็นนโยบายของตนเอง แปลกประหลาดมาก สู้รบกันแทนที่รัฐบาลจะรับผิดชอบกลับไปเคลมว่าเป็นผลงานปราบคอลเซ็นเตอร์ของรัฐบาล กลายเป็นว่านางสาวแพทองธารยืนอยู่บนซากศพของทหารและประชาชน โดยอ้างว่าเป็นผลงานของตนเอง ภูมิใจขนาดไหนที่กล้ายืนบนเลือดของพี่น้องประชาชนที่เสียชีวิต” นายพิชิต กล่าว
นายพิชิต กล่าวต่อว่า น.ส.แพทองธารต้องออกมาขอโทษ ไม่ใช่เกิดการสู้รบแล้วอ้างว่าเป็นผลงานเด่นของรัฐบาล นี่คือความอัปยศที่สุดที่นางสาวแพทองธารทำต่อประชาชนคนไทย อย่างไรก็ตามการชุมนุมในวันนี้คาดว่าประชาชนจะเดินทางเข้ามาเต็มพื้นที่เหมือนการชุมนุมครั้งที่ผ่านมา โดยไฮไลต์สำคัญคือการปราศรัยและจะมีการประกาศทิศทางโดยนายจตุพร พรหมพันธุ์ วิทยากรคณะหลอมรวมประชาชน เราหารือกันอยู่ว่าจากนี้ไปจะต้องมีการขยับชุมนุมที่ใกล้ทำเนียบรัฐบาล หรือการพักค้าง
นายพิชิต กล่าวว่า ในวันที่ 4 สิงหาคมนี้ ที่จะมีการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (GBC) เราไม่เห็นด้วยกับการที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี บินไปเจรจาหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไขที่ประเทศมาเลเซีย ขณะที่ทหารไทยรบได้เปรียบและกัมพูชาวางทุ่นระเบิด แต่ไทยกลับไปเจรจาหยุดยิงเท่ากับยอมรับว่าทุ่นระเบิดนั้นถูกกฎหมาย เราเห็นด้วยการเจรจาทวิภาคี แต่ไทยจะต้องเป็นผู้นำและเจ้าภาพในการเชิญกัมพูชามาพูดคุย เราไม่เห็นด้วยที่จะให้ประเทศอื่นเป็นตัวกลางในการเจรจา เพราะไทยต้องแสดงศักยภาพในเรื่องนี้
นายพิชิต กล่าวว่า ส่วนที่ น.ส.แพทองธาร ระบุว่าเรื่องปัญหาคนในประเทศให้รอก่อน ขอเคลียร์ กับคนนอกประเทศก่อนนั้น นายพิชิต ย้ำว่าปัญหาภายในประเทศก็รุนแรงเช่นกัน เพราะการสู้รบครั้งนี้เกิดจากคลิปเสียง การสู้กับข้าศึกภายนอกประเทศเป็นหน้าที่ของทหารไทย แต่การจัดการไส้ศึกภายในก็เป็นหน้าที่ของประชาชน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี