“นพดล” เสนอ 5 แนวทางแก้ปัญหาไทย-กัมพูชา ย้ำการทูตต้องรวดเร็ว ตอกย้ำความชอบธรรมของไทยบนเวทีโลก
เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 68 นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย (พท.) ฐานะอดีตรมว.การต่างประเทศ กล่าวถึงการหยุดยิงระหว่างไทยและกัมพูชา ตลอดจนแนวทางการนำสันติภาพกลับมาสู่ชายแดนว่า ภายหลังการหยุดยิง เป้าหมายและยุทธศาสตร์ที่จะดำเนินไปในการเจรจาเพื่อนำสันติสุขกลับมาบริเวณชายแดนนั้น ตนขอเสนอดังนี้
1.ต้องเน้นการพูดที่กระชับรวดเร็ว Diplomacy of speed โดยเน้นการสื่อสารทางการทูต จุดยืนกฎหมายระหว่างประเทศและท่าทีของไทยให้รวดเร็วมากขึ้น และต้องรวดเร็วและแม่นยำกว่ากัมพูชา ซึ่งเรื่องนี้ข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศมีศักยภาพที่จะทำได้
2.ต้องเน้นยุทธศาสตร์สร้างความชอบธรรมให้ประเทศไทยในเวทีโลกอย่างเข้มข้น เเข็งขันต่อเนื่อง เพราะเราเป็นประเทศมหาอำนาจขนาดกลาง ต้องเน้นกฎหมายระหว่างประเทศและความชอบธรรมเป็นหลังพิง แต่ก่อนอาจมีคำกล่าวว่า Might is right ก็คือพลังอำนาจคือความถูกต้อง แต่ปัจจุบันตนคิดว่า Right is might ความถูกต้องเป็นพลังอำนาจ
นายนพดล กล่าวต่อว่า 3.ทางการทูตต้องตอกย้ำความชอบธรรมของไทยใน 5 ประเด็นอย่างต่อเนื่องคือ 1)ไทยมุ่งแก้ปัญหาโดยสันติวิธีด้วยการเจรจาทวิภาคีตามกรอบเอ็มโอยู 2543 ไม่ประสงค์ที่จะให้มีการยกระดับไปเวทีนานาชาติ แต่กัมพูชาไม่ทำตามข้อผูกพัน 2)กัมพูชาเป็นฝ่ายวางกับระเบิดละเมิดอนุสัญญาออตตาวา 3)กัมพูชาเป็นฝ่ายเปิดฉากรุกรานไทย ฝ่าฝืนกฎบัตรสหประชาชาติ ไทยเพียงใช้สิทธิป้องกันตนเอง 4)กัมพูชายิงระเบิดใส่เป้าหมายทางพลเรือน เช่นโรงพยาบาล ร้านสะดวกซื้อ ละเมิดอนุสัญญาเจนีวา 5)กัมพูชาเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงหยุดยิงที่มาเลเซียจัดขึ้น ซึ่งทั้ง 5 ประเด็นนี้จำเป็นจะต้องตอกย้ำในทุกเวทีอย่างต่อเนื่องให้ประชาคมโลกได้ทราบ
นายนพดล กล่าวอีกว่า 4.ในการเจรจาทวิภาคีระหว่างไทยและกัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นเวทีจีบีซีในวันที่ 4 ส.ค. หรือเจบีซีในเดือนก.ย. หรือในเวทีอื่นๆก็ตาม ไทยซึ่งมีความสุจริตใจ good faith ในการเจรจาเพื่อระงับข้อพิพาทด้วยสันติวิธี ต้องเรียกร้องสิ่งนั้นจากกัมพูชาให้เข้มข้นมากยิ่งขึ้น เพราะจะมาที่โต๊ะเจรจาจะต้องพกความจริงใจมาด้วย มิฉะนั้นโอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะยากขึ้น 5.รัฐบาลควรจัดระบบการสื่อสารให้มีประสิทธิภาพและเอกภาพมากยิ่งขึ้น เปิดใจฟังคำวิจารณ์แล้วปรับปรุงอย่างจริงจัง จุดสำคัญคือความรวดเร็วและความไม่กระจัดกระจายของการให้ข่าว นอกจากนั้นศูนย์ต่อต้าน Fake News ควรทำงานให้รวดเร็วมากขึ้น
”ผมเห็นว่าปัญหาไทย-กัมพูชามีความซับซ้อน และคงต้องใช้เวลาในการแก้ไข ผมเชื่อมั่นในการปกป้องอธิปไตยของกองทัพ ถ้าการทูตไทยสามารถรักษาความชอบธรรมในเวทีโลก เน้นการสื่อสารให้ข้อมูลข้อเท็จจริงกับประชาชนอย่างทันท่วงที ไม่มีเฟกนิวส์ เชื่อว่าปัญหาจะคลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ซึ่งผมขอเอาใจช่วยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบและรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาต่อไป“ นายนพดล กล่าว.
012
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี