วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 เฟซบุ๊กเพจ สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม โพสต์ภาพพร้อมข้อความ เกี่ยวกับประวัติศาสตร์การอพยพของชาวกัมพูชาในปี 1979 ที่อพยพมายังประเทศไทย หลบหนีกลุ่มเขมรแดง โดยข้อความระบุว่า “จากคนที่หนีตาย… สู่คนที่หันปากกระบอกปืนกลับมา เมื่อ ‘เขมร’ ลืมทุกอย่างที่ไทยเคยมอบให้”
“ปี 1979 … ชาวกัมพูชานับแสน นับล้าน วิ่งหนีตายจากนรกบนดินที่ชื่อว่า “เขมรแดง” ข้ามพรมแดนมายังไทย ในสภาพหมดเรี่ยวแรง หิวโหย และเกือบสิ้นลมหายใจ คนไทย…เปิดประตูให้เขาพักพิง”
“ตอนนั้น… ประเทศไทยไม่ได้เป็นเพียง “เพื่อนบ้าน” แต่กลายเป็น “ที่พึ่งสุดท้าย” เราส่งอาหาร เราเปิดค่ายพักพิง เราช่วยเหลือทั้งในนามรัฐบาล องค์กรพัฒนาเอกชน และแม้แต่ชาวบ้านธรรมดา ๆ ที่ยอมแบ่งข้าวเพียงคำเดียวให้ผู้ลี้ภัยชาวกัมพูชา”
“การอพยพที่ไม่มีแผนที่ เริ่มตั้งแต่ต้นปี 1979 จนถึงต้นยุค 1980s มีชาวกัมพูชาจำนวนมหาศาล บางแหล่งบอกว่ารวมกันถึง 6 แสนถึง 8 แสนคน อพยพอย่างไร้ทิศทาง บางคนเดินเท้าเป็นร้อยกิโลเมตรจากกลางประเทศกัมพูชา หลายคนไร้เอกสาร ไม่มีอาหาร ไม่มีเป้าหมาย”
“จุดหมายเดียวที่หวังพึ่งได้ คือ ชายแดนฝั่งตะวันออกของประเทศไทยโดยเฉพาะบริเวณ อรัญประเทศ, ช่องจอม, กาบเชิง, ปราจีนบุรี, ศรีสะเกษ”
“ค่ายผู้ลี้ภัยบนผืนดินไทย ไทยตั้ง “ค่ายพักพิง” หลายแห่งเพื่อรองรับชาวเขมรที่หนีตาย ในฐานะประเทศเพื่อนบ้าน ต้อนรับด้วยความระวัง เพราะสถานการณ์ยังปะทุอยู่ แต่เราก็ยัง “ยื่นมือ” ให้พวกเขา… โดยไม่ลังเล ค่ายผู้ลี้ภัยจึงถูกตั้งขึ้นชั่วคราว เช่น ค่ายคลองลึก ค่ายเขาอีด่าง ค่าย Site Two และ Site B
“บางคนมาไทยในร่างเปลือยเปล่า แต่กลับจากไทยในสภาพพร้อมจะยืนได้อีกครั้ง… มีเด็กกัมพูชาหลายพันคนโตขึ้นในค่ายผู้ลี้ภัยบนแผ่นดินไทย บางคนเรียนหนังสือที่ครูไทยสอน บางคนรอดชีวิตจากวัณโรค เพราะหมอไทยรักษา บางครอบครัวเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นี่ ก่อนย้ายไปแคนาดา อเมริกา หรือกลับเขมรในเวลาต่อมา”
สำนักโฆษกกระทรวงกลาโหม ทิ้งท้ายว่า “แต่ใครจะคิดว่า… เพียงไม่กี่สิบปีต่อมา เขมรกลับลืมทุกอย่าง!!!”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี