วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
'มาริษ'ถก 70 ทูตและผู้แทนไทยทั่วโลก ชื่นชมผล GBC กำชับติดตามประเมินเฟคนิวส์กัมพูชา

'มาริษ'ถก 70 ทูตและผู้แทนไทยทั่วโลก ชื่นชมผล GBC กำชับติดตามประเมินเฟคนิวส์กัมพูชา

วันพฤหัสบดี ที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 21.19 น.
Tag : กัมพูชา เฟคนิวส์กัมพูชา มาริษ
  •  

“มาริษ” ถก 70 ทูตและผู้แทนไทยทั่วโลก ชื่นชมผล GBC กำชับติดตามประเมินเฟคนิวส์กัมพูชา-ชี้ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” ระบุจะเจรจาทางการทูต ต้องเคารพข้อตกลง 13 ข้อ

วันที่ 7 สิงหาคม 2568 นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานการประชุมแบบออนไลน์ ร่วมกับ เอกอัครราชทูตไทย ผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต และคณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศจาก 70 ประเทศ ทั่วโลก และกรมต่างๆ เพื่อชี้แจงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ทั้งผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป General Border Committee หรือ GBC ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมมอบนโยบาย และแนวทางในการดำเนินการของกระทรวงฯ และสำนักงานในต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาสถานการณ์ชายแดนดังกล่าวอย่างบูรณาการร่วมกัน


นายมาริษ กล่าวถึงผลของการประชุม GBC และข้อตกลงที่เห็นพ้องร่วมกันทั้ง 13 ข้อว่า เป็นพัฒนาการ และก้าวสำคัญสำหรับการเจรจาการหยุดยิง บรรลุเป้าหมายที่ต้องการในเบื้องต้น ซึ่งต้องขอบคุณมาเลเซีย สหรัฐอเมริกา และจีน ณ ที่นี้ด้วย โดยกระทรวงฯ พร้อมให้การสนับสนุนกระทรวงกลาโหมในการดำเนินการเจรจาต่อไป ซึ่งที่ผ่านมา ก็ได้สนับสนุนการดำเนินงานของกระทรวงกลาโหม และทำงานร่วมกันอย่างใกล้ ตั้งแต่การเป็นฝ่ายเลขา การร่างเพื่อเสนอกรอบข้อตกลง โดยหลังจากนี้ ไทยพร้อมเปิดรับการเจรจาทวิภาคีผ่านช่องทางทางการทูต เพื่อสนับสนุนภารกิจของกระทรวงกลาโหม ภายใต้เงื่อนไขว่าฝ่ายกัมพูชาเคารพและดำเนินการตามข้อตกลงของการเจรจาหยุดยิงต่อไป 

นายมาริษ ขอบคุณเอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ที่ทำหน้าที่ชี้แจงข้อมูล และนำเสนอความจริงกับประเทศต่าง ๆ และองค์การระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ตามนโยบาย และแนวทางของรัฐบาล ซึ่งกระทรวงฯ พร้อมสนับสนุนการดำเนินการของสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลใหญ่ทุกแห่งต่อไป

นายมาริษ ยังระบุว่า ตนเองได้ย้ำในการบรรยายสรุปเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้แก่คณะทูต และผู้แทนองค์การระหว่างประเทศประจำประเทศไทยว่า ความตึงเครียดระหว่างไทยกับกัมพูชา ไม่ได้เป็นสิ่งที่ไทยต้องการ และไทยไม่ได้รับประโยชน์อะไรจากเรื่องนี้ แต่ในเมื่อฝ่ายกัมพูชาได้เปิดฉากโจมตีไทยก่อน โดยเฉพาะการโจมตีเป้าหมายพลเรือน ซึ่งละเมิดกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างร้ายแรง ไทยจึงหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องดำเนินการตอบโต้ตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และประเทศไทย ไม่เคยละเมิดข้อตกลงหยุดยิง ไม่เคยเผยแพร่ข้อมูลบิดเบือน และรัฐบาลไทย ยังคงยึดมั่นที่จะแก้ไขปัญหาเขตแดนกับกัมพูชาผ่านกลไกทวิภาคีที่มีอยู่ด้วยความจริงใจและสุจริตใจ และหวังว่าฝ่ายกัมพูชาจะตอบสนองในลักษณะเดียวกัน โดยขอให้เอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ ยังคงเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริงกับประเทศเจ้าภาพต่อไป ซึ่งเหล่านี้ เป็นเนื้อหาหลักที่สำคัญในการชี้แจงกับต่างประเทศ ที่ “ความจริงจะชนะทุกสิ่ง” และขอให้เอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศทั่วโลก ดำเนินการเชิงรุกในการเดินหน้าชี้แจงข้อเท็จจริง บนพื้นฐานของหลักฐานเชิงประจักษ์และพิสูจน์ได้ เพื่อย้ำความสุจริตใจ และความน่าเชื่อถือของประเทศไทย และการเป็นประเทศที่มีความรับผิดชอบต่อประชาคมระหว่างประเทศด้วย

ส่วนในเรื่องข่าวปลอม ซึ่งที่ผ่านมากัมพูชาดำเนินการอย่างเป็นระบบในทุกระดับนั้น นายมาริษ ได้กำชับขอให้เอกอัครราชทูต กงสุลใหญ่ และผู้แทนสถานเอกอัครราชทูต คณะผู้แทนถาวรไทยในต่างประเทศทั่วโลก ติดตามข่าวสารในสื่อท้องถิ่น ตลอดจนเครือข่ายต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินว่า ฝ่ายกัมพูชาได้ยุติการโจมตีด้วยข้อมูลที่บิดเบือนตามข้อตกลงแล้วหรือไม่ และรายงานกลับมายังส่วนกลาง และหากยังมีการดำเนินการเช่นนั้นอยู่ จะได้เร่งชี้แจงฝ่ายต่าง ๆ อย่างทันท่วงที พร้อมเน้นย้ำให้ประชาคมโลก อย่าหลงเชื่อข่าวปลอมของฝ่ายกัมพูชา โดยไม่ตรวจสอบข้อมูลกับฝ่ายไทยก่อน 

นายมาริษ ยังขอให้สถานทูต และกงสุลใหญ่ในประเทศที่มีชุมชนชาวกัมพูชาอยู่เป็นจำนวนมาก ติดตามความเคลื่อนไหว ถึงการเผยแพร่ข่าวเท็จที่จะกระทบกับภาพลักษณ์ของไทย และอาจจะเป็นการละเมิดข้อตกลงจากที่ประชุม GBC ด้วย และสำหรับเวทีพหุภาคีต่าง ๆ ทั้งเวทีสหประชาชาติ อาเซียน UNESCO ICRC และคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนฯ หรือ HRC และอื่น ๆ ขอให้เอกอัครราชทูต และกงสุลใหญ่ คงความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ระดับต่าง ๆ และฝ่ายเลขานุการของกลไกนั้น ๆ เพื่อชี้แจงจุดยืนของไทยในเวทีโลก และกรอบสำคัญที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะภายใต้อนุสัญญาต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรักษาท่าที ย้ำบทบาทที่สร้างสรรค์ และแสดงความยึดมั่นต่อพันธกรณีระหว่างประเทศของไทย

สำหรับประเด็นกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศ หรือ IHL นั้น นายมาริษ ย้ำว่า เป็นกรอบสำคัญที่สามารถแสดงให้ต่างชาติเห็นว่า กัมพูชา เป็นฝ่ายละเมิดกฎหมายและหลักสากล โดยไทยดำเนินการตามกรอบกฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศ โดยการประสานงานกับกองทัพบก ได้อนุญาตให้เจ้าหน้าที่ของ ICRC ลงพื้นที่เพื่อตรวจเยี่ยมและสังเกตการณ์สภาพความเป็นอยู่ของทหารกัมพูชาจำนวน 18 คนที่ยังคงถูกควบคุมตัวในฐานะเชลยศึก เพื่อยืนยันถึงความโปร่งใสของการดำเนินการของไทย และการปฏิบัติต่อเชลยศึกที่ยึดมั่นในหลักมนุษยธรรมภายใต้อนุสัญญาเจนีวาและกฎหมายระหว่างประเทศ

นายมาริษ ยังย้ำว่า ไทยยังคาดหวังให้ฝ่ายกัมพูชา ยึดมั่น และดำเนินการตามข้อตกลงอย่างจริงจังและจริงใจ ซึ่งไทยเองก็มีความมุ่งมั่นที่จะเดินหน้าเจรจา เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ ให้สามารถกลับมาเป็นเพื่อนบ้านที่ดีต่อกันได้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน ทั้ง 2 ประเทศ โดยเฉพาะของประชาชนที่อยู่ตามแนวชายแดน และของภูมิภาคอาเซียนโดยรวม

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ‘สส.ปชน.’ แนะ ‘รัฐบาล’ เข้มรับมือสถานการณ์ชายแดน ‘ไทย-กัมพูชา’ ชี้ช่องใช้จังหวะนี้เสริมกำลังบำรุง ‘สส.ปชน.’ แนะ ‘รัฐบาล’ เข้มรับมือสถานการณ์ชายแดน ‘ไทย-กัมพูชา’ ชี้ช่องใช้จังหวะนี้เสริมกำลังบำรุง
  • \'ชาญวิทย์\'อยากเห็นอาเซียน เปิดพรมแดนแบบ EU ชี้แต่\'ผู้มีบารมีคงไม่ยอม\' 'ชาญวิทย์'อยากเห็นอาเซียน เปิดพรมแดนแบบ EU ชี้แต่'ผู้มีบารมีคงไม่ยอม'
  • \'ภูมิธรรม\'รับฟัง ทหารชายแดนใต้ร้องเยียวยาเทียบเท่าเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา\ 'ภูมิธรรม'รับฟัง ทหารชายแดนใต้ร้องเยียวยาเทียบเท่าเหตุชายแดนไทย-กัมพูชา"
  • \'ทูตรัศม์\'เผย สื่อนอกแฉ\'กัมพูชา\'ไม่มีสื่ออิสระ-ลดทอนความน่าเชื่อถือ 'ทูตรัศม์'เผย สื่อนอกแฉ'กัมพูชา'ไม่มีสื่ออิสระ-ลดทอนความน่าเชื่อถือ
  • สองเรื่องสำคัญ! \'นักวิชาการ\'วิเคราะห์พุ่งเป้า\'2 พ่อลูกตระกูลฮุน\' สองเรื่องสำคัญ! 'นักวิชาการ'วิเคราะห์พุ่งเป้า'2 พ่อลูกตระกูลฮุน'
  • \'บิ๊กเล็ก\'ชี้วงถก GBC \'เขมร\' จริงใจระดับ 1 ปัดยกเลิก MOU43 เหตุยังมีประโยชน์ 'บิ๊กเล็ก'ชี้วงถก GBC 'เขมร' จริงใจระดับ 1 ปัดยกเลิก MOU43 เหตุยังมีประโยชน์
  •  

Breaking News

กองปราบ เผย 'หมอบี' เปิดบัญชีรับบริจาค ยอดพุ่ง 200 ล้าน ชี้พฤติการณ์เข้าข่ายมีมูลฉ้อโกง

'แก้ว อภิรดี' ทำศัลยกรรมครบ 3 เดือน ในวัย 59 ปี หน้าเด็กสวยเป๊ะ

สยอง! ผู้ใหญ่บ้านเล่าย้อนสงครามปี 54 คนกัมพูชาจับอึ่งกินศพ มาขายให้ชาวบ้านฝั่งไทย

ชูชีพแห่งความหวัง! เครื่องบินหย่อนอาหาร-ยาช่วยเหลือชาวกาซา หลังเผชิญวิกฤตความอดอยาก

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved