วันพฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ต้องเก็บกระสุนไว้ยามจำเป็น! ‘ศิริกัญญา‘ ขอปรับลดงบฯภาพรวมลงอีก 50,000 ล้าน

ต้องเก็บกระสุนไว้ยามจำเป็น! ‘ศิริกัญญา‘ ขอปรับลดงบฯภาพรวมลงอีก 50,000 ล้าน

วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 11.31 น.
Tag : การเมืองวันนี้ ศิริกัญญา หนี้สาธารณะ
  •  

ต้องเก็บกระสุนไว้ยามจำเป็น! ‘ศิริกัญญา‘ ขอปรับลดงบฯภาพรวมลงอีก 50,000 ล้าน ชี้สงครามการค้า ทำชาติตกอยู่ในภาวะ ‘3 เสี่ยง’ ทั้งด้าน ‘รายได้-รายจ่าย-และหนี้สาธารณะ’ 

13 ส.ค. 68 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 วงเงิน3.78 ล้านล้านบาท วาระ 2 - 3 ที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้วเป็นวันแรก โดย น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะกมธ.ฯ อภิปรายว่า ตนขอสงวนความเห็นในมาตรา 4 งบประมาณในภาพรวม ขอให้มีการปรับลดเพิ่มอีก 50,000 ล้านบาท เหลือ 3.73 ล้านล้านบาทซึ่งไม่ใช่เรื่องปกติที่เราอยากตัดลดงบประมาณเพิ่ม ในยามที่ประเทศอาจจะกำลังเผชิญกับวิกฤตคู่ ทั้งด้านเศรษฐกิจและการประทะตามแนวชายแดน และหวังว่าวิกฤตินี้จะจบในเร็ววัน ไม่ยืดเยื้อไปถึงงบสมัยหน้า การขอปรับงบในครั้งนี้ เพื่อให้เก็บกระสุนไว้ใช้ในยามจำเป็น โดยตลอดการอภิปราย คงได้ฟังว่ามีการจัดงบประมาณใดบ้างที่ซ้ำซ้อน ไม่จำเป็น แพง และงบใดที่มีการต้องตัดลดรีดไขมันออกชะลอหรือเลื่อนออกไปก่อนต้องจัดลำดับความสำคัญกันใหม่  จากวิกฤตที่จะเกิดกับสงครามการค้าที่จะมาถึง ที่จะทำให้การคลังของประเทศตกอยู่ในภาวะ 3 เสี่ยงทั้งด้านรายได้รายจ่าย และหนี้สาธารณะ 


น.ส.ศิริกัญญา กล่าวต่อว่า ยกตัวอย่างข้อมูลจากสภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมว่า แนวโน้มเศรษฐกิจในปี 2568 ถึง2569 ที่มีการคาดการณ์ว่าจีดีพี จะโตอยู่ที่ 2.8% แต่ล่าสุดในปลายปี 2569 เหลือเพียงแค่ 1.6% ซึ่งแม้เราจะทราบอัตราภาษีแล้ว แต่ไม่ได้หมายความว่าตัวเลขจะดีขึ้น เพราะหลายวิจัยปรับเพิ่มจีดีพีปี 2568 จริง แต่ไม่มีวิจัยฉบับไหนที่ปรับเพิ่มจีดีพีในปี 2569 ส่วนการประมาณการรายได้ ปี 69 ถ้าจีดีพีปรับลดลง การจัดเก็บรายได้ก็ลดลงด้วย จากการประมาณการของสถิติการคลัง จากนั้น ถ้าจีดีพีลดลง 1.7% จะทำให้รายได้ลดลง 1.45% แต่เศรษฐกิจที่จะเกิดขึ้นเรื่องสงครามการค้าจะส่งผลต่อทุกประเทศทั่วโลก รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลดลงก็จะส่งผลด้วย  ซึ่งจะทำให้เราจัดเก็บภาษีเงินได้ปิโตรเลียม ภาษีมูลค่าเพิ่มจากการนำเข้าน้ำมันลดลง 0.7% แค่ 2 ปัจจัยนี้จะทำให้รัฐจัดเก็บรายได้พลาดเป้าอาจจะเกือบ 64,000 ล้านบาท นี่เป็นเรื่องใหม่ที่อาจจะเกิดขึ้นในปี 2569 มาจากความผันผวนทางเศรษฐกิจจากสงครามการค้า 

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวอีกว่า เรามีปัญหาการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐบาลมาต่อเนื่องอย่างยาวนาน เราจะจัดเก็บภาษีได้15% ของจีดีพี ซึ่งต่ำกว่าหลายประเทศที่เป็นประเทศในกลุ่มเดียวกันกับเรา ปี 2567 รายได้ภาษีตกเป้าเกือบ 80,000 ล้านบาท แต่ท้ายที่สุดก็มีปตท. วายุภักษ์ และกองฉลาก ให้ปันผลได้เพิ่ม จะสังเกตได้ว่ารายได้จากรัฐวิสาหกิจเพิ่มขึ้น25.4% ถือเป็นเดอะแบกที่ทำให้เราสามารถปิดหีบปี 2567 ได้ เช่นเดียวกับในปี 2568 ใน 9 เดือนแรกรายได้ภาษีตกเป้าไป 6.8 หมื่นล้านบาท แม้ว่าจะมีการมีแผนปฏิรูปโครงสร้างภาษี ที่จะประกาศช่วงเดือนกันยายน ซึ่งขณะนี้ยังไม่เห็น ตนเองก็อยากทราบจากประธานกรรมาธิการเหมือนกัน ว่าจะมีแนวทางอย่างไร เพราะปัญหาเดิม ๆ ทั้งการจัดเก็บภาษีรถยนต์ที่มีแนวโน้มลดลงจากการที่คนใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือการจัดเก็บภาษียาสูบ ที่ใช้อัตราใหม่ และไม่สามารถเก็บได้เหมือนเดิมอีกต่อไป ถือเป็นความเสี่ยงสำคัญด้านรายได้ที่เราต้องเจอในปี 2569

น.ส.ศิริกัญญา กล่าวว่า ขณะที่ความเสี่ยงด้านรายจ่ายปี 69 จะต้องมีงบเพื่อฟื้นฟู พยุง และกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ไม่ได้มีการเตรียมการไว้งบกลางในการกระตุ้นเศรษฐกิจ ยังคงอยู่ที่ 25,000 ล้านบาทเท่าเดิม ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงหรือแปรเพิ่มเข้ามาในส่วนนี้ ทั้งที่ในปี 68 ที่ไม่มีวิกฤตดีกว่าเกือบ 200,000 ล้านบาท กองทุน FTA ช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบ ไม่ได้มีการปรับงบแต่อย่างใด และกองทุนส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศได้งบประมาณเพิ่มขึ้น 5 ล้านบาท ซึ่งแทบจะทำไม่ได้ในช่วงที่เกิดวิกฤต ถือเป็นความเสี่ยงด้านรายจ่ายที่จะทำให้เรากดดันให้เราไม่มีงบประมาณเหลือจ่ายไปใช้ในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ส่วนความเสี่ยงด้านหนี้สาธารณะ ขณะนี้กำลังจะชนเพดานอยู่แล้ว พื้นที่ทางการคลังของเราเหลือไม่มากแล้ว ปัจจุบันเหลือแค่ 64% ที่เราคิดว่าน่าจะพอไหว แต่สิ้นปีงบ 68 จะเหลือที่ 66% ส่วน ปี 69 ถ้ากู้ตามที่วางแผนไว้หนี้สาธารณะต่อจีดีพีจะขึ้นไปถึง 69% อันเนื่องมาจากว่าจีดีพีของเราที่กำลังถดถอยลงเรื่อย ๆ ทำให้สัดส่วนที่สาธารณะต่อจีดีพีกำลังจะชนเพดานในปี 2569 จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมเราต้องปรับงบประมาณในส่วนนี้ เพื่อไปเป็นส่วนสมทบในส่วนหน้า และต้องมีการขยายเพดานหนี้สาธารณะให้เกิน 70% ของจีดีพีและอาจจะต้องมีการออก พ.ร.บ. หรือพรก. เงินกู้เพื่อมาพยุงเศรษฐกิจในปี 2569  เพราะถ้าดูจากยอดปรับลดของ ปี69 ในการเกลี่ยงบประมาณใหม่ ไม่ได้เป็นไปตามนั้นเลย ตลอดการพิจารณาที่ผ่านมาปรับงบลดไปได้เพียง 8,900 ล้านบาท และถูกนำไปให้กับงบประมาณที่ควรจะขอมาตั้งแต่เริ่ม ไม่ว่าจะเป็นการใช้หนี้ให้กับรถไฟฟ้าสายสีส้ม การจัดประชุม World Bank IMF  เงินประกันสังคม ซึ่งเป็นเงินที่ควรเตรียมไว้ล่วงหน้าแล้ว 

“ซึ่งงบ ปี 69 ดูไม่รู้สึกรู้สาเหตุเลยว่ามีวิกฤตรออยู่ ต่างจากช่วงวิกฤต โควิด-19 ที่งบเคยไปถึงกว่า 30,000 ล้านบาทดิฉันไม่อยากปรับลดงบประมาณในช่วงที่เกิดวิกฤตเศรษฐกิจ แต่เราจำเป็นที่จะต้องเก็บกระสุน ถ้าการจัดงบประมาณในครั้งนี้ ไม่ได้ตอบโจทย์เพื่อช่วยให้ประเทศรอดพ้นจากสงครามการค้าได้ เราต้องปรับลดงบประมาณในครั้งนี้ เพื่อเก็บพื้นที่ทางการคลังเอาไว้ใช้เมื่อเกิดวิกฤตจริง“ น.ส.ศิริกัญญา กล่าว

.-008

 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • \'สมคิด\'มั่นใจ! อภิปรายงบฯ69 ผ่านสภาฯฉลุย ย้ำใช้งบเกิดประโยชน์สูงสุด 'สมคิด'มั่นใจ! อภิปรายงบฯ69 ผ่านสภาฯฉลุย ย้ำใช้งบเกิดประโยชน์สูงสุด
  • ‘หัวหน้าภท.’ ยันไม่ปิดโอกาสลูกพรรคโหวตงบฯปี69  ชี้ต้องรับฟังเสียง-มติสส. ‘หัวหน้าภท.’ ยันไม่ปิดโอกาสลูกพรรคโหวตงบฯปี69 ชี้ต้องรับฟังเสียง-มติสส.
  • \'อนุทิน\' คาดมีเลือกตั้ง​ปี 69 ​แต่รับสถานการณ์ยังไม่ชัด​ ชี้จะยุบสภาฯก็ไม่ได้​ 'อนุทิน' คาดมีเลือกตั้ง​ปี 69 ​แต่รับสถานการณ์ยังไม่ชัด​ ชี้จะยุบสภาฯก็ไม่ได้​
  • พูดมั่วไปหน่อย! \'อนุทิน\'โต้\'ธีรรัตน์\' โยนบาปลามตั้ง \'ผู้ว่าอุบลฯ\' โยงเบิกจ่ายงบฯอืด พูดมั่วไปหน่อย! 'อนุทิน'โต้'ธีรรัตน์' โยนบาปลามตั้ง 'ผู้ว่าอุบลฯ' โยงเบิกจ่ายงบฯอืด
  • \'อนุทิน\'ยกปม\'เขากระโดง\' ขอแต่ละฝ่ายใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย 'อนุทิน'ยกปม'เขากระโดง' ขอแต่ละฝ่ายใช้สิทธิ์ตามกฎหมาย
  • \'เด็ก พท.\'อ้อน\'ศาล รธน.\' เลื่อนตัดสินคดีนายกฯอิ๊งค์ ออกไปก่อน 6 เดือน 'เด็ก พท.'อ้อน'ศาล รธน.' เลื่อนตัดสินคดีนายกฯอิ๊งค์ ออกไปก่อน 6 เดือน
  •  

Breaking News

พูดไม่เข้าหู! 'ศรราม'จวกแรง! 'หจจ'บอกให้เดินระวังๆ ทหารเหยียบกับระเบิดที่ชายแดน

ทุบเปรี้ยง! เดือน พ.ย.‘อิ๊งค์’ลาออกนายกฯ ก่อน‘ยุบสภา’อาจเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง

‘หญิงพิการขา’สุดท้อลำบากอยู่แล้ว สามียังมาตกต้นไม้พิการอีกคน

‘น่าน’เคาะงบกว่า 100 ล้าน ฟื้นฟู-เยียวยาผู้ประสบภัยพายุ‘วิภา’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved