วันพฤหัสบดี ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
ศบ.ทก.เผยเตรียมนำผู้ช่วยทูตลงพื้นที่อุบลฯ 14 ส.ค.นี้ เร่งประสาน ARMAC แสดงความจริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด

ศบ.ทก.เผยเตรียมนำผู้ช่วยทูตลงพื้นที่อุบลฯ 14 ส.ค.นี้ เร่งประสาน ARMAC แสดงความจริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด

วันพุธ ที่ 13 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 14.15 น.
Tag : กัมพูชา ชายแดนไทยกัมพูชา ทุ่นระเบิด ไทยกัมพูชา ศบทก
  •  

ศบ.ทก.เผยเตรียมนำผู้ช่วยทูตลงพื้นที่อุบลฯ 14 ส.ค.นี้ เร่งประสาน ARMAC แสดงความจริงใจเก็บกู้ทุ่นระเบิด ระบุ จปช.กต.ประชุมอาร์บีซี 16 ส.ค.นี้ ส่วน ทภ.1-2 คาดปลายเดือน ส.ค. แจงรัฐบาลเร่งรัดจัดงบส่วนกลางจัดหาลวดหนามเสริมภารกิจกองทัพแล้ว ยันดูแลความปลอดภัยแรงงานเขมรในไทยเต็มที่

เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ร.ต.สุรสันต์ คงสิริ รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะโฆษกศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา (ศบ.ทก.) แถลงผลการประชุม ศบ.ทก.ว่า สถานการณ์โดยทั่วไปตามบริเวณชายแดนในห้วงเวลาที่ผ่านมาอยู่ในภาวะปกติ ทั้งนี้ ฝ่ายไทยมีการเฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง โดยสังเกตเห็น หรือสังเกตพบการปฏิบัติของฝ่ายกัมพูชาในเรื่องการเสริมที่มั่นแข็งแรงในพื้นที่ปฏิบัติการตามแนวชายแดน ซึ่งยังอยู่ในเกณฑ์ที่ยอมรับได้ นอกจากนี้ ที่ประชุม ศบ.ทก.ได้หารือเรื่องการปฏิบัติของผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวของอาเซียน ซึ่งเป็นผลมาจากการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (จีบีซี) สมัยวิสามัญ โดยการนำผู้ช่วยทูตทหารของสมาชิกอาเซียน นำโดยผู้ช่วยทูตฝ่ายทหารของมาเลเซียประจำประเทศไทย ลงพื้นที่เพื่อสังเกตการณ์ผลกระทบต่างๆ ในพื้นที่ รวมไปถึงความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบเพื่อแสดงความโปร่งใส ความจริงใจ และยืนยันการปฏิบัติของฝ่ายไทยตามหลักปฏิบัติของสากล


พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า โดยในวันเดียวกัน (13 ส.ค.) จะมีการประชุมที่กองบัญชาการกองทัพไทย ซึ่งมีคณะผู้ช่วยทูตต่างๆ มาร่วมประชุม เพื่อกำหนดแผนงานในการลงพื้นที่ ซึ่งการลงพื้นที่กำหนดไว้ในวันที่ 14 ส.ค.โดยจะลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี และพื้นที่ในส่วนของกองทัพภาคที่ 2 ที่เกี่ยวข้อง และเมื่อลงพื้นที่เสร็จเรียบร้อย ในวันที่ 15 ส.ค.จะมีการสรุปผลการดำเนินการ และทบทวนแผนการปฏิบัติที่จะทำแผนการปฏิบัติต่อเนื่องในห้วงเวลาต่อไปด้วย

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สำหรับเรื่องการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการเสริมสร้างความปลอดภัยในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ทาง ศบ.ทก.โดย พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม ในฐานะผู้อำนวยการ ศบ.ทก.มีความห่วงใยและพยายามเร่งหาแนวทางในการประสานความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่มีการวางในพื้นที่จำนวนมาก แต่ยังไม่ได้รับการตอบรับ หรือความร่วมมือจากกัมพูชาเท่าที่ควร ล่าสุดได้เร่งประสานผ่านกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อขอให้ศูนย์อาเซียนเพื่อความร่วมมือด้านการปฏิบัติการเก็บกู้ทุ่นระเบิดด้านมนุษยธรรม (ARMAC) ซึ่งปัจจุบันผู้อำนวยการบริหารของศูนย์ดังกล่าวเป็นกัมพูชา ซึ่งฝ่ายไทยขอให้ฝ่ายกัมพูชา และ ARMAC แสดงความจริงใจในการสนับสนุนภารกิจการเก็บกู้ทุ่นระเบิดตามแนวชายแดนด้วย เนื่องจากยังพบว่ามีทหารกัมพูชายังลักลอบวางทุ่นระเบิดจำนวนมาก ซึ่งทุ่นระเบิดนั้นๆ ถือเป็นภัยคุกคามที่ไม่ใช่แก่กำลังพลทหาร หรือฝ่ายความมั่นคงเท่านั้น แต่มีผลกระทบและอันตรายต่อพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดนทั้งไทยและกัมพูชาด้วย

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า สำหรับแนวทางการทำงาน จะให้ศูนย์ ARMAC เข้ามาสนับสนุนด้านมนุษยธรรมควบคู่ไปกับการดำเนินการของศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ (TMAC) เพื่อร่วมมือกันในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดให้มากที่สุด และฟื้นฟูพื้นที่ให้มีความปลอดภัยโดยเร็วที่สุด ส่วนเรื่องการลาดตระเวนในพื้นที่ต่างๆ ได้รับการประสานจากกองทัพบก โดยกองทัพภาคที่ 2 ซึ่งการลาดตระเวนต่างๆ อาจต้องมีการปรับแผนในการลาดตระเวน และต้องมีการใช้เทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาเสริมในเรื่องการตรวจพบ ตรวจจับทุ่นระเบิดในพื้นที่ ขอให้พี่น้องประชาชนเชื่อมั่นว่า กองทัพมีการปฏิบัติและแก้ไขปัญหาต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ศบ.ทก. เน้นย้ำว่าภารกิจนี้เป็นการปกป้องชีวิต ความปลอดภัยของประชาชนทุกคน กำลังพลทุกนาย รวมถึงการรักษาอธิปไตยและความมั่นคงของชาติอย่างเต็มความสามารถ

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ทางกองทัพภาคที่ 1 กองทัพภาคที่ 2 และกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) ได้มีการหารือกับทางฝ่ายกัมพูชาอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดทาง กปช.จต.ได้แจ้งมาว่า จะมีการประชุมประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา (อาร์บีซี) ในวันที่ 16 ส.ค.นี้ ในพื้นที่ จ.ตราด ส่วนกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพภาคที่ 2 ยังอยู่ในเรื่องของการกำหนดห้วงเวลาที่ชัดเจน แต่เท่าที่ทราบคือ ช่วงปลายเดือน ส.ค.จะถึงนี้ ซึ่งตอกย้ำอีกเรื่องหนึ่งให้ประชาชนได้สบายใจและมั่นใจว่ากองทัพเองมีการประสานงานกันอย่างต่อเนื่องเพื่อกำหนดเวทีของการประชุมอาร์บีซี และแน่นอนว่า 1 ในหัวข้อที่กำหนดไว้การประชุมอาร์บีซีคือ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเราต้องขอความจริงใจจากฝ่ายกัมพูชาในเรื่องของการให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ระเบิดร่วมกันด้วย

พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า เรื่องการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ กระทรวงมหาดไทยโดยหน่วยงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด และหน่วยงานภายใต้ของกระทรวงมหาดไทยต่างๆ ได้เร่งดำเนินการช่วยเหลือเยียวยาพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ โดยปัจจุบันได้ช่วยเหลือพี่น้องประชาชนแล้วบางส่วนและพิจารณาแนวทางการช่วยเหลืออย่างเต็มที่ ส่วนผู้ที่ยังไม่ได้รับการเยียวยา ทางกระทรวงมหาดไทยกำลังเร่งดำเนินการสำรวจและจะให้การช่วยเหลือต่อไป รวมทั้งภารกิจการเก็บกู้วัตถุระเบิดที่ยังตกค้างในพื้นที่จำนวนมาก หน่วยงานความมั่นคงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นทหาร ตำรวจกำลังเร่งดำเนินการอย่างเต็มที่ ขอให้ประชาชนมั่นใจว่าเราจะช่วยเหลือพี่น้องประชาชนทุกคนอย่างทั่วถึง
พล.ร.ต.สุรสันต์ กล่าวว่า ในเรื่องการขอรับบริจาคลวดหนามให้กับหน่วยงานในพื้นที่ รัฐบาลกำลังเร่งรัดดำเนินการในการใช้งบส่วนกลางในการจัดหาลวดหนามอย่างเร่งด่วน ขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจในเรื่องการดำเนินการดังกล่าวว่าเป็นการสนับสนุนภารกิจกองทัพอย่างเต็มความสามารถ โดยทางรัฐบาลเองพยายามเร่งรัดในเรื่องการดึงงบส่วนกลางมาใช้ ซึ่งปัจจุบันกองทัพกำลังรวบรวมความต้องการในการจัดหายุทโธปกรณ์และอุปกรณ์ทดแทน หรือมาเสริมขีดความสามารถ และทาง รมช.กลาโหม โดยกระทรวงกลาโหมจะเป็นผู้รับผิดชอบในการเร่งรัด รวบรวม ความต้องการของกองทัพเพื่อดำเนินการจัดหายุทโธปกรณ์และสิ่งอำนวยความสะดวก รวมถึงอุปกรณ์ต่างๆ ให้กองทัพ โดยเฉพาะหน่วยงานในพื้นที่ต่อไปอย่างเร่งด่วน อย่างไรก็ตาม ขอขอบคุณธารน้ำใจจากพี่น้องประชาชนทุกๆ คนที่รวมไทยใจเป็นหนึ่งในการช่วยจัดหาลวดหนามในช่วงเวลาที่เร่งด่วน นับว่าเป็นการร่วมกันแสดงออกถึงความรักความสามัคคี การสนับสนุนการปกป้องอธิปไตยของชาติ รวมทั้งความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชนและกำลังพลในแนวหน้าด้วย

ด้าน นางมาระตี นะลิตา อันดาโม รองอธิบดีกรมสารนิเทศน์ และรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ในที่ประชุม ศบ.ทก.ได้หารือถึงกรณีทุ่นระเบิด ซึ่งในช่วงวันหยุดยาวที่ผ่านมา เป็นโอกาสที่พี่น้องประชาชนจะได้ใช้เวลากับครอบครัวและฉลองวันแม่ แต่น่าเสียใจภายในไว้กี่วันได้เกิดเหตุการณ์ทหารไทยเหยียบกับระเบิดถึง 2 ครั้งคือ วันที่ 9 ส.ค.ที่ จ.ศรีสะเกษ และวันที่ 12 ส.ค.ที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งนับรวมเป็น 4 ครั้งที่เกิดเหตุการณ์ในลักษณะนี้ ในนามของกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) ขอแสดงความเสียใจกับพี่น้องและครอบครัวพี่น้องทหารไทยที่รับบาดเจ็บในครั้งนี้ และขอให้ฟื้นตัวโดยเร็ว ทั้งนี้ เกี่ยวกับ 2 เหตุการณ์ล่าสุดนี้ที่ผ่านมา กต.ได้ออกแถลงการณ์ประณามอย่างรุนแรงที่สุดต่อการใช้ทุ่นระเบิดสังหารบุคคลของกัมพูชา เป็นการละเมิดอธิปไตยของไทยที่ขัดต่อหลักการพื้นฐานที่สำคัญของกฎหมายระหว่างประเทศตามที่ระบุไว้ในกฎบัตรสหประชาชาติ อีกทั้งยังเป็นละเมิดพันธะกรณีภายใต้อนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล คือ อนุสัญญาออตตาวาอย่างชัดเจน

นางมาระตี กล่าวว่า นอกจากนี้ กต.ได้มีหนังสือประท้วงไปยังฝ่ายกัมพูชาต่อกรณีทั้งสองด้วยแล้ว เพื่อเรียกร้องให้กัมพูชารับผิดชอบต่อเหตุการณ์ดังกล่าว สำหรับนายเวทีระหว่างประเทศ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครเจนีวา ได้มีหนังสือประท้วงถึงประธานที่ประชุมอนุสัญญาออตตาวาอย่างต่อเนื่องถึงการละเมิดข้อ 1 ของอนุสัญญาออตตาวา ขณะที่เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก กำลังมีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพื่อประท้วงอีกครั้ง และเพื่อติดตามเรื่องที่ไทยได้เรียกร้องขอรับความชัดเจนจากฝ่ายกัมพูชาไปแล้วตามข้อ 8 วรรคสองของอนุสัญญาออตตาวา และกำลังรอคำชี้แจงจากฝ่ายกัมพูชาผ่านเลขาธิการยูเอ็นต่อไป พร้อมกันนี้ ไทยขอเรียกร้องให้ประชาคมระหว่างประเทศ รวมถึงองค์การระหว่างประเทศ หน่วยงานต่างๆ ที่ให้ความช่วยเหลือด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิดกับกัมพูชาเป็นจำนวนมากหลายปี พิจารณาทบทวนความช่วยเหลือต่างๆ โดยคำนึงถึงการกระทำของฝ่ายกัมพูชาที่ละเมิดอนุสัญญาอย่างร้ายแรง

นางมาระตี กล่าวว่า ทั้งนี้ กต.ได้ทำการชี้แจงให้ประชาคมโลกรับทราบถึงข้อเท็จจริงของเรื่องนี้อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด และจะชี้แจงต่อไป โดยวันที่ 15 ส.ค.ทาง กต.จะเชิญรัฐภาคีอนุสัญญาออตตาวา เข้านับฟังการบรรยายการสรุปเพื่ออธิบายข้อเท็จจริงถึงเหตุการณ์ดังกล่าวด้วย โดยเหตุการณ์ 2 ครั้งที่เกิดขึ้นล่าสุดนี้สะท้อนถึงความไม่จริงใจของกัมพูชาในการแก้ไขปัญหาและขัดต่อมาตรการหยุดยิงทั้งสองฝ่ายเพิ่งได้ตกลงกันไว้ในการประชุมจีบีซี เมื่อวัน 7 ส.ค.ที่ประเทศมาเลเซีย ในกรอบนี้ฝ่ายไทยได้ส่งหนังสือประท้วงไปยังคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวที่จัดตั้งขึ้นตามมติของกรอบจีบีซีดังกล่าวแล้วเพื่อพิจารณาเรื่องนี้ด้วย และฝ่ายไทยจะนำคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวลงพื้นที่เร็วๆ นี้ เพื่อพิสูจน์ให้เห็นชัดว่า กับระเบิดในพื้นที่ที่พบเจอ ไม่ได้เป็นมรดกทางประวัติศาสตร์ตามที่ฝ่ายกัมพูชาได้กล่าวอ้างมาโดยตลอด

“ในฐานะประเทศที่มีความรับผิดชอบและยึดมั่นในกฎหมายระหว่างประเทศ โดยเฉพาะมาตรการการหยุดยิง ไทยต้องการให้พื้นที่ชายแดนเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัยสำหรับประชาชนผู้บริสุทธิ์ของทั้งสองฝ่าย ไทยจึงเรียกร้องให้ฝ่ายกัมพูชาให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมตามแนวชายแดนอย่างจริงใจและจริงจังตามที่ฝ่ายไทยได้เรียกร้องมาโดยตลอด ทั้งนี้ ในเวลา 16.00 น.วันเดียวกัน ทางโฆษก กต.จะแถลงข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นการเฉพาะ และเกี่ยวกับการดำเนินการในระยะต่อไป”

นางมาระตี กล่าวว่า ศบ.ทก.ได้หารือกันถึงเรื่องการปฏิบัติต่อแรงงานกัมพูชาในประเทศไทย ตามที่มีกระแสข่าวเกี่ยวกับการเรียกเก็บเงินจากแรงงานกัมพูชาที่ประสงค์จะเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับถูกปฏิบัติไม่เหมาะสมความรุนแรงและการข่มขู่จากกลุ่มหัวรุนแรงในประเทศไทย ขอย้ำว่าไทยยึดมั่นในหลักสิทธิมนุษยชนและความเสมอภาคกับกลุ่มแรงงานทุกสัญชาติมาโดยตลอด โดยคำนึงว่าแรงงานกลุ่มนี้มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจและสังคมไทย ในช่วงเวลานี้ฝ่ายไทยให้ความสำคัญกับการคุ้มครองแรงงานกัมพูชาเป็นพิเศษจากกลุ่มผู้ประสงค์ไม่ประสงค์ดี ด้วยการบังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อให้มั่นใจว่าแรงงานกัมพูชาในประเทศไทยจะดำรงชีวิตในประเทศไทยอยากได้อย่างปกติ ย้ำว่าปัญหาที่เกิดขึ้นในเวลานี้ไม่ได้เป็นปัญหาระหว่างประชาชน แต่เป็นปัญหาระหว่างรัฐบาลที่กำลังเร่งรัดในการแก้ไขอยู่

นางมาระตี กล่าวว่าไทยมุ่งเน้นให้ข้อเท็จจริงทั้งแก่ประชาชนและประชาคมโลก สร้างบรรยากาศที่เอื้อต่อการเจรจาต่อไป จึงขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายยึดตามหลักข้อตกลงจีบีซีที่ผ่านมา โดยเฉพาะเรื่องการป้องกันตอบโต้ และไม่สร้างข้อมูลเท็จ รวมทั้งการไม่เผยแพร่ข่าวปลอม เช่น การควบคุมพื้นที่และกล่าวหาว่าไทยละเมิดอธิปไตยและเงื่อนไขของการหยุดหยิง และตามที่ได้ตกลงในการประชุมจีบีซี ฝ่ายไทยพร้อมร่วมมือร่วมประชุมอาร์บีซีกับฝ่ายกัมพูชา เพื่อให้กองกำลังในพื้นที่ได้ให้หารือกันเกี่ยวกับมาตรการหยุดยิงเพิ่มเติมในแต่ละพื้นที่ที่เกี่ยวข้องโดยเร็ว เพื่อความมั่นคง และชีวิตที่ปกติสุขของพี่น้องประชาชนทั้งสองฝ่าย

- 006

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • ปล่อยผี!‘ภูมิธรรม’ออกประกาศ ยกเว้นข้อห้ามมิให้‘แรงงานกัมพูชา’เข้าไทย เป็นกรณีพิเศษ ปล่อยผี!‘ภูมิธรรม’ออกประกาศ ยกเว้นข้อห้ามมิให้‘แรงงานกัมพูชา’เข้าไทย เป็นกรณีพิเศษ
  • รัฐบาลย้ำสถานการณ์‘7 จังหวัดชายแดน’คลี่คลาย อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หลอกให้อพยพ รัฐบาลย้ำสถานการณ์‘7 จังหวัดชายแดน’คลี่คลาย อย่าหลงเชื่อข่าวปลอม หลอกให้อพยพ
  • ฟาดหน้าผู้นำเขมร! ‘เสธ.หิ’จวกยับหลบหลังกระโปรง‘มาลี’ แหกปากใส่ร้ายไทย ฟาดหน้าผู้นำเขมร! ‘เสธ.หิ’จวกยับหลบหลังกระโปรง‘มาลี’ แหกปากใส่ร้ายไทย
  • ‘พุทธิพงษ์’ฉายภาพปะทะไทย-เขมร สะท้อน‘ผู้บริหาร’ต้องมาพร้อมความกล้าตัดสินใจ-รับผิดชอบ ‘พุทธิพงษ์’ฉายภาพปะทะไทย-เขมร สะท้อน‘ผู้บริหาร’ต้องมาพร้อมความกล้าตัดสินใจ-รับผิดชอบ
  • ‘ปลอดประสพ’กาง 5 ข้อ ประกาศรับซื้อ‘ทุ่นระเบิดเขมร’ เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ‘ปลอดประสพ’กาง 5 ข้อ ประกาศรับซื้อ‘ทุ่นระเบิดเขมร’ เพื่อความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน
  • ‘สุรเดช’แนะรัฐบาลยกเลิกข้อตกลงเวที GBC หลังเขมรละเมิดข้อตกลง ทำทหารไทยต้องขาขาดอีก ‘สุรเดช’แนะรัฐบาลยกเลิกข้อตกลงเวที GBC หลังเขมรละเมิดข้อตกลง ทำทหารไทยต้องขาขาดอีก
  •  

Breaking News

ตร.ลุยสางคดีวัดพระบาทน้ำพุ ‘บิ๊กเต่า’ชี้คาราคาซังนาน30ปี

อัยการแนะรบ.ให้ตั้งงบเยียวยา หากจะเพิกถอน ที่ดินเขากระโดง

ไม่ตั้งใจปราบโกง องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันสับเละ ประเมิน1ปีรัฐบาลแพทองธาร

‘ลุงพล’คอตกนอนคุก ศาลอุทธรณ์พิพากษา โทษหนักจำคุก26ปี ในคดีฆ่า‘น้องชมพู่’

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นายปรเมษฐ์ ภู่โต
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นๆที่เกี่ยวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2025 Naewna.com All right reserved