‘พล.ท.นันทเดช’ฟาดเดือด! โกหกของ‘เขมร’ร้ายกว่ากับระเบิด เลคเชอร์วิธีดัดหลัง
14 สิงหาคม 2568 พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก “พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์” ระบุว่า...
โกหกของเขมร นั้น ร้ายกว่ากับระเบิด
+ ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ประเทศไทย ถูกเขมรบุกรุกตามแนวชายแดน เข้ามาทีละเล็กทีละน้อย จนถึงขั้นสร้างหมู่บ้าน สร้างวัด สร้างบังเกอร์ถาวร ฯลฯ แม้เราจะประท้วงนับร้อยครั้ง แต่เขมรก็ไม่ได้สนใจ รัฐบาลไทย หลายชุดที่ผ่านมา ก็ดูจะไม่สนใจเช่นกัน
จนกระทั่งเกิดเหตุ 2 ตระกูลทะเลาะกันขึ้นมา จนนำมาสู่สงคราม 5 วันระหว่างไทยกัมพูชา ทหารไทยจึงยึดพื้นที่ ซึ่งถูกกัมพูชาบุกรุกไปเอากลับคืนมาได้ ทั้ง 11 จุด เว้นที่ปราสาทตาควายซึ่งเราได้มาไม่ครบเท่านั้น
+ กัมพูชา ซึ่งในขณะนั้น กำลังอยากจะยุติการรบให้เร็วที่สุด เพราะ ศูนย์เสียกำลังพลละลายไปในสนามรบ หลายกองพันแล้ว จึงจำใจยอมรับพื้นที่ ที่ทหารไทยยึดไว้ได้ ในที่ประชุม GBC ที่มาเลเซียมีสาระให้ยุติการหยุดยิง แต่เขมรก็ดูเหมือนทั้งเสียหน้า ทั้งยังเสียดายอยู่ จึงลักลอบเข้ามาก่อกวนต่างๆนาๆชนิด โดยเฉพาะการเข้ามาลอบวางกับระเบิดในพื้นที่ของไทย ซึ่งเป็นการก่อกวนที่ได้ผลมากที่สุด
ที่สำคัญ คือ หากเรื่องชายแดนยุติลง ฮุนเซน ก็จะถูกประชาชนของตัวเองเล่นงาน ถึงตายแน่ๆ ดังนั้น ฮุนเซนจึงต้องเดนหน้าต่อไปครับ
+ ไทยกับกัมพูชาเป็นสมาชิก อนุสัญญาออตตาวา ว่าด้วยการห้ามวางกับระเบิด ห้ามมี และผลิต ฯลฯ ดังนั้น การลอบวางระเบิดของกัมพูชา จึงผิดแบบ1000% ไทยมีหลักฐานทุกอย่างครบถ้วน การเล่นงานกัมพูชาในเรื่องนี้ ไทยทำได้สบายๆ แต่ก็ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อกัมพูชามากนัก
เพราะอนุสัญญาดังกล่าวก็เหมือนกับเสือกระดาษตัวหนึ่ง
เนื่องจากไม่มีประเทศมหาอำนาจเป็นสมาชิกอยู่เลย อย่างไรก็ตามยังพอมีวิธีแก้ไขอยู่บ้าง เพราะผลของการลงนามในอนุสัญญานี้ ทำให้กัมพูชาได้รับเงินบริจาคสำหรับการเก็บกู้กับระเบิดจากประเทศทั้งที่เป็นสมาชิกและไม่เป็นสมาชิกอย่างต่อเนื่อง ปีละกว่า 30 ล้านเหรียญสหรัฐ ทุกปีติดต่อกันมาร่วม 5 ปีแล้ว ซึ่งถ้ากัมพูชาละเมิดอนุสัญญา เงินจำนวนนี้ ก็จะหายไปจากกระเป๋าแบบง่ายดาย
+ กรณีนี้จึงเป็นแง่คิด สมมุติว่ากัมพูชา ลอบเข้ามาวางกับระเบิดอีก เราจะโจมตีกัมพูชาเพื่อป้องกันตัวเองทันทีก็ย่อมทำได้ แต่กัมพูชาก็จะกลับมาอีก แล้วโกหกโจมตีไทยผ่านโซเชียลมีเดียได้อีกสารพัดแบบซ้ำๆจนผู้คนเริ่มหวั่นไหวว่าเป็นเรื่องจริงหรือไม่(ว่า ถ้าไม่จริง ทำไมกัมพูชาถึงหน้าด้านพูดอยู่ได้) ซึ่งเราคงมานั่งแก้ข่าวทุกๆวันไม่ได้แน่ๆ นานไปทหารไทยคงอยู่ในภาวะที่ลำบากยิ่งขึ้น
ดังนั้น การฟ้องกัมพูชาต่อชาวโลก ว่าละเมิดอนุสัญญาออตตาวา จึงเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องทำ และจะต้องทำควบคู่ไปกับกิจกรรมหลายอย่าง เพื่อเอาชนะการโกหกของกัมพูชาให้ได้ ดังเช่น การที่กองทัพ และ กต. ต้องเชิญผู้สื่อข่าวต่างประเทศเข้ามาดูในพื้นที่จริง รวมทั้งการใช้คนไทยในต่างประเทศออกมาช่วยกระจายข่าวควบคู่ไปด้วย
หรือ การว่าจ้าง ทำคลิปสั้นๆ 4-5 คลิปออกเผยแพร่เป็น foot print ไว้ในยูทูป เอาคลิ๊ปโกหกของกัมพูชาที่มีมากมายออกมาแฉซ้ำอีก
โดยเฉพาะคลิปเรื่องไทยปล่อยควันพิษ ที่มีผู้ใหญ่ของกัมพูชาหลายคน นำออกมาเผยแพร่ ให้ต่างชาติดู (T PBSรวมรวมไว้อย่างเป็นระบบแล้ว)
+ ถ้าเราทำแบบนี้แล้ว กัมพูชาลักลอบเข้ามาวางกับระเบิดอีก ทหารไทยก็มีข้ออ้างในการเปิดยุทธการรุกเข้าไปยึดพื้นที่กัมพูชาไว้สัก 400-500 เมตร โดยอ้างว่าเป็นพื้นที่กันชน เพื่อป้องกันไม่ให้ ทหารกัมพูชาบุกเข้ามาลอบวางกับระเบิดอีก ซึ่งถ้ากัมพูชาอยากได้คืน
ก็ต้องมาตกลงกันว่า “จะไม่เข้ามาลอบวางกับระเบิดอีก”
นี่จึงเป็นวิธีที่ป้องกัน การเข้ามาลอบวางระเบิดของทหารกัมพูชา อย่างยั่งยืน และก็เป็นหลักนิยม ที่ทหาร ทั่วโลกเขาใช้กัน
+ เรื่องดีๆแบบนี้ ว่าแต่รัฐบาลท่าน จะเห็นด้วยหรือไม่เท่านั้นครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี