แนวหน้าวิเคราะห์ : เช็คบิล‘เขมร’!แค่‘ประท้วง-ประณาม–ประจานโลก’จะพอหรือ???
เหมือนจะจบแบบแฮปปี้เอ็นดิ้ง
สำหรับข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชา หลังดึงปัญหาขัดแย้งขึ้นโต๊ะประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไป (General Border Committee: GBC) ไทย -กัมพูชา สมัยวิสามัญ เมื่อต้นเดือนสิงหาคม ที่มาเลเซีย
ผลสรุปออกมาสองฝ่ายเห็นพ้องแนวทางการปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิง 13 ข้อระหว่างกัน หลักใหญ่ใจความคือ
1.หยุดยิงอย่างเคร่งครัด ครอบคลุมอาวุธทุกประเภท
2.ทั้ง 2 ฝ่ายคงกำลังในที่ตั้งเดิมและไม่มีการเสริมกำลังเข้าไปเพิ่มเติม
3.ให้มีคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ประกอบด้วย ทูตฝ่ายทหารอาเซียนประจำประเทศไทยและกัมพูชา นำโดยทูตทหารจากมาเลเซีย เข้าไปสังเกตการณ์ในพื้นที่สม่ำเสมอ โดยไม่มีการข้ามแดน
4.หลีกเลี่ยงการกระทำยั่วยุ ทั้งทางทหาร รวมทั้งข้อมูลบิดเบือนหรือข่าวเท็จ
5.จะปฏิบัติตามกฎหมายมนุษยธรรมระหว่างประเทศอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะหน้าจะเก็บร่างผู้เสียชีวิตคืนประเทศอย่างมีศักดิ์ศรี ส่งกลับเชลยศึกทันทีที่ยุติการใช้กำลังระหว่างกันอย่างสมบูรณ์
ทั้งสองฝ่ายจะรักษาช่องทางการพูดคุย และใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่แก้ปัญหา จากนั้นจะนัดประชุม RBC และ GBC ตามลำดับ เพื่อติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานตามที่ได้ประชุมครั้งนี้
อย่างไรก็ตาม มีอีก 2 ประเด็นสำคัญที่ไทยเสนอ แต่กัมพูชาไม่ตอบรับ ขอนำไปหารือรัฐบาลก่อน แล้วจะกลับมาพูดคุยในการประชุม GBC ครั้งต่อไป ได้แก่ ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญนำไปสู่การใช้กำลังระหว่างกัน และความร่วมมือปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติ ออนไลน์สแกมเมอร์ ที่ส่งผลกระทบต่อคนไทยและประเทศในภูมิภาคนี้อย่างกว้างขวาง
การเห็นชอบ 13 ข้อตกลงหยุดยิง หยุดเคลื่อนกำลัง แรกฟังก็ดูเข้าท่า
ทว่า...เมื่อ “กัมพูชา” มี “แต่” กับ 2 ประเด็น” ที่ว่า
จากที่ดูเผินๆเหมือนไทยจะได้เปรียบ กลายเป็นเสมอตัวไปหรือไม่ เพราะนับแต่นั้น “เขมร” ไม่ได้แยแส 13 ข้อตกลง “หยุดยิง-หยุดยั่วยุ” แต่อย่างไร แค่เปลี่ยนจากไม่ยิง มาเป็นแอบมุดรูมาฝัง “ทุ่นระเบิด” ส่ง “โดรน” มาสอดแนมแทบทุกคืน
ชัดเจนเมื่อเกิดเหตุทหารไทยเหยียบกับระเบิดขาขาดซ้ำอีกนาย ขณะปฏิบัติภารกิจลาดตระเวนในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ เมื่อ 12 สิงหาคมที่ผ่านมา เป็นปัญหาซ้ำซากที่สะท้อนว่าเวทีเจรจาทวิภาคีสองประเทศไม่ได้ช่วย!!!
ยิ่งเข้าใจได้ว่า ทำไมเขมรถึงไม่รับเงื่อนไข “ความร่วมมือเก็บกู้ทุ่นระเบิด”
เพราะฝ่ายตัวเองแอบซุกซ่อนหมกเม็ดอะไรไว้หรือไม่ ขืนโอเคไป เดี๋ยวจะเข้าตัว แต่สุดท้ายทุ่นระเบิดก็ทำหน้าที่ “ประจาน” เจ้าของมันเอง ที่แอบมาฝังทิ้งไว้ในเขตประเทศไทย ชนิดที่ฝังเอง ก็ยังจำไม่ได้ว่า ฝังไว้ตรงไหนบ้าง
ตอกย้ำ “กัมพูชาไม่จริงใจที่จะสร้างสันติภาพ เจตนาร้ายมุ่งทำลายชีวิตของคนไทยตลอดเวลา”
เป็นเช่นนี้แล้ว “13 ข้อตกลง” ไทย-เขมรในเวทีประชุมจีบีซี ควรยกเลิกหรือไม่ เพราะดูไร้ประโยชน์ ไม่ได้ช่วยคลี่คลายบรรยากาศความตึงเครียดให้ดีขึ้น เพราะกำลังทหารทั้งสองประเทศก็ยังเตรียมพร้อมในที่ตั้ง ทั้งอาวุธและกำลังพล แล้วการเจรจาทวิภาคีเวทีถัดไป สมควรไปต่อหรือไม่
หนักกว่านั้น เขมรเปิดสมรภูมิใหม่ เล่น “สงครามน้ำลาย” ปล่อยเฟกนิวส์ ตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จ นำทัพโดย “พลโทหญิง มาลี โสเจียตา”
หรือ “มาลี เฟกนิวส์” รายวัน
เลียนแบบศบ.ทก.ไทย นั่งโต๊ะแถลงเสียงแข็ง เล่นเกมบิดเบือนข้อเท็จจริง ยืนยันเขมรไม่ใช้-ไม่มีทุ่นระเบิดใหม่ และพื้นที่เกิดเหตุเป็นเขตอธิปไตยของกัมพูชา
ขณะที่ฝ่ายไทยก็ไล่ตามแก้เกม ยืนหยัดด้วยหลักฐานข้อเท็จจริง เดินหน้าประท้วงเขมรอย่างรุนแรง ประณาม ฟ้ององค์กรระหว่างประเทศ ตั้งแต่ยูเอ็น รัฐภาคีสมาชิกอนุสัญญาออตตาวา จนถึงศาลอาญาระหว่างประเทศ
แผนนี้ รองนายกฯและรมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกฯ “ภูมิธรรม เวชยชัย” ย้ำขึงขังว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งเฉยนะ สั่งหน่วยความมั่นคง ฝ่ายกฎหมาย ยกร่างคำฟ้อง เอาผิดเขมร โดยเฉพาะ “ผู้สั่งการ” ต้องมารับผิด ชดใช้ความเสียหายที่ทำให้เกิดขึ้นกับไทย
การแอคชั่นประท้วงโลก ณ ตอนนี้ ยังบอกผลลัพธ์อะไรไม่ได้ เพราะแต่ละช่องทาง มีขั้นตอนต้องใช้เวลา จึงน่าห่วง เหตุการณ์ทหารเขมรแอบมาซุกระเบิดในเขตไทย หรือการบินโดรนล้ำแดนไทยแทบทุกคืน ทหารไทยที่ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนเผชิญความเสี่ยงสูงทุกวัน พลาดก็เจ็บ เบาะๆก็สาหัส ถ้าหนักอาจเสียอวัยวะหรือถึงแก่ชีวิต
รัฐบาลคิดจะงัดมาตรการปกป้องชีวิตทหารไทย ดินแดนไทย จาก “เขมรอันธพาล” แบบเป็นรูปธรรมได้มากกว่านี้หรือไม่ เพราะที่ผ่านมา ไทยประท้วง - ประณาม – ประจานโลก เขมรไม่รู้สึกรู้สา
ถ้าคิดจะเช็คบิล “เขมร” ลาก “คนสั่งการ” ให้มารับผิดชอบความเสียหาย ทั้งชีวิตทหาร-พลเรือนผู้บริสุทธิ์ บ้านเรือนที่พังยับ แล้วหยุดระรานแบบสนิท น่าจะต้องใช้ยาแรงกว่านี้
ลองไป “ทุบหม้อข้าว” เขมรดูบ้างดีหรือไม่
อย่าไปเสียเวลากับ “สงครามน้ำลาย” วิ่งไล่แก้เกม พวกตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จอยู่เลย
#ทีมข่าวแนวหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี