‘อนุทิน’โต้วุ่น ‘ภูมิใจไทย’คัมแบ๊กร่วมรัฐบาล นายกฯเก่ายังอยู่ไม่พูดถึงคนใหม่

‘อนุทิน’โต้วุ่น ‘ภูมิใจไทย’คัมแบ๊กร่วมรัฐบาล นายกฯเก่ายังอยู่ไม่พูดถึงคนใหม่

วันพุธ ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 06.00 น.

อนทิน’โต้วุ่น

ภูมิใจไทย’คัมแบ๊กร่วมรัฐบาล

นายกฯเก่ายังอยู่ไม่พูดถึงคนใหม่

อนุทิน”ปัดมีสมการใหม่ดึง “ภูมิใจไทย”กลับร่วมรัฐบาล ลั่นนายกฯ เก่า ยังอยู่ ต่างคนต่างทำหน้าที่ “สมชาย” ยื่นศาล รธน.ขอถ่ายทอดสดไต่สวน “นายกฯ-เลขาฯสมช.” ปม “คลิปเสียงฮุนเซน” 21 สิงหาคมนี้ เชื่อ ประชาชน 65 ล้านคนต้องการฟังคำชี้แจง เตือน “เลขาฯสมช.”เป็นขรก.มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงชาติ ด้าน “ทวี” เผยไม่มีแผนสำรองหลังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม ยืนยัน“ประชาชาติ”จะอยู่กับ“เพื่อไทย”ต่อไป ขณะที่ “แพทองธาร” ยกเลิกเข้าประชุมพรรค ทำสส.-มวลชนเก้ออดเบิร์ธเดย์ล่วงหน้า ฟาก “ทักษิณ” โผล่มาพรรคอ้างมาพบแขก ปัดตอบปมคดี 112 บอกแค่เรื่องศาลใครเขาพูดกัน

เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย(ภท.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงสถานการณ์ทางการเมือง หากมีอะไรเกิดขึ้นกับนายกรัฐมนตรี และอาจมีสมการใหม่ที่อาจดึงพรรคภูมิใจไทยกลับไปร่วมรัฐบาล มีแนวโน้มเป็นเช่นนั้นหรือไม่ว่า ไม่มี สมการแปลว่าอะไร ต้องเท่ากันใช่หรือไม่ พรรคภูมิใจไทยมีแค่ 70 เสียง


เมื่อถามว่า ในช่วงรัฐบาลนี้หากมีการเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่ พรรคภูมิใจไทยจะไม่มีทางไปร่วมแล้วใช่หรือไม่นายอนุทิน กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเก่า ยังไม่ไปเลย ยังอยู่ อย่าเพิ่งไปพูดถึงนายกรัฐมนตรีใหม่ ในความเป็นส่วนตัวเราไม่มีอะไรกัน เราก็ทำหน้าที่ของเราในฐานะฝ่ายค้าน ฝ่ายรัฐบาลก็ทำหน้าที่ฝ่ายรัฐบาล

“เขาทำหน้าที่ของเขา เราทำหน้าที่ของเรา เราไม่มีอะไรกัน ไม่นำเรื่องส่วนตัวมาเป็นสาระ มันก็จะทำให้บ้านเมืองสงบสุขได้ ขอให้ทุกคนทำตามหน้าที่ก็พอ” นายอนุทิน กล่าว

นายอนุทิน กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติโยกย้ายข้าราชการกระทรวงมหาดไทย ที่หลายคนมองเป็นการล้างสายสีน้ำเงินว่า คำถามเช่นนี้อย่าถามเลย วันนี้เราไม่มีหน้าที่ในกระทรวงมหาดไทยแล้ว ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ การทำงานของผู้บริหารชุดใหม่แต่ถ้าวันไหนได้มีโอกาสกลับเข้าไป บริหารและมีนโยบายอย่างไร ก็คิดว่าคงไม่มีใครมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของเรา แบบนี้ก็แฟร์ๆ ดีนะ แต่ละคนมีสไตล์การทำงาน ที่ไม่มีทางเหมือนกัน ใครมีนโยบายเช่นไร ก็เป็นสิ่งที่พึงกระทำได้ และยืนยันว่าไม่มีข้าราชการสายน้ำเงิน สายสีแดง พรรคภูมิใจไทยไปจ่ายเงินเดือนข้าราชการหรือไม่ เพราะฉะนั้นทุกคนต้องถือว่าเป็นข้าราชการของประชาชน กินเงินเดือนจากภาษีของประชาชน ใช้เงินของรัฐ ดังนั้นคำว่าสายน้ำเงิน สายแดงหรือสายอะไรต้องไม่มีแล้ว

“ผมออกมาเนี่ย เจอท่านปลัดกระทรวงมหาดไทยกี่ครั้ง ไปถามดูสิ ผมก็ต้องให้เกียรติ โทรไปเดี๋ยวเขาเดือดร้อน ผมไม่เคยโทรไปหาเขา ดังนั้นต้องเลิกคิดเรื่องนี้ได้แล้ว ต้องสบายใจได้แล้ว ผู้บริหารกระทรวงมหาดไทยชุดใหม่ก็สบายใจได้เลย ไม่เคยมีการพบปะกันแบบตั้งใจมาสุมหัว นัดคุยกันคุณทำแบบนี้ให้ผมได้ไหม เจอกันตามงานไม่เกินครึ่งนาทีก็ต้องแยกย้าย เรารู้บทบาท” นายอนุทิน กล่าว

หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย กล่าวถึงกรณีที่ น.ส.ประภา เฮงไพบูลย์ สส.กาฬสินธุ์ พรรคภูมิใจไทย โหวตสวนมติพรรคเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2569 ว่า ก็เป็นที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งเราก็สงสัยในคนๆ นี้มาตลอด และขณะนี้ก็ชัดเจนแล้ว เป็นสิ่งแปลกปลอมในพรรค ส่วนจะมีแนวทางในการดำเนินการอย่างไรนั้น ก็ไม่ได้ให้มาร่วมกิจกรรมของพรรค ขณะนี้มีการสอบสวนอยู่ ผลการสอบสวนเก่ายังไม่เสร็จสิ้น แต่ก็มีพฤติกรรมเช่นนี้อีก ก็คงไม่ต้องสอบสวนอะไรแล้ว

เมื่อถามว่าจะขับพ้นพรรคหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า “ผมว่าอยู่ในนี้ดีแล้ว” เมื่อถามต่อว่าจะสามารถระบุได้เลยหรือไม่ว่ามีการซื้อตัว สส. ในราคา 8 หลัก หรือมีแรงจูงใจอื่นอีก นายอนุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ก็ต้องไปถามเจ้าตัว เมื่อถามว่า จะต้องเชือดไก่ให้ลิงดูหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า “ไม่ต้องเชือดหรอก เดี๋ยวเขาก็ตายเอง”

วันเดียวกัน ที่ศาลรัฐธรรมนูญ ถนนแจ้งวัฒนะ นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา(สว.) นายนิติธร ล้ำเหลือ หรือทนายนกเขา และนายคมสัน โพธิ์คง อดีตสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) ยื่นหนังสือต่อศาลรัฐธรรมนูญขอให้มีการถ่ายทอดสดการไต่สวน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและ รมว.วัฒนธรรม และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ(สมช.) ในคดีคลิปเสียงสนทนากับสมเด็จฮุนเซน ประธานวุฒิสภาแห่งกัมพูชา ในวันที่ 21 ส.ค.นี้ ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนด

นายสมชาย กล่าวว่า สิ่งที่เกิดจากคลิปเสียงก่อให้เกิดผลกระทบเป็นวงกว้าง มีการบาดเจ็บและเสียชีวิตของทั้งทหารและประชาชน และยังส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ จึงเห็นว่าการไต่สวน น.ส.แพทองธาร ควรเปิดเผยต่อสาธารณชน และที่ผ่านมาไม่ใช่ทุกกรณีที่ศาลจะอนุญาตให้มีการถ่ายทอด ในกรณีนี้จึงอยากขอความเมตตาต่อศาล เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน และยังขอศาลที่จะเข้ารับฟังการไต่สวนเพื่อจะได้เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินการต่างๆ เนื่องจากก่อนหน้านี้ได้แจ้งความดำเนินคดี น.ส.แพทองธารไว้ที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง(บช.ก.) ซึ่งขณะนี้ได้สอบสวนเรียบร้อยแล้วและส่งเรื่องไปยังสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) จึงหวังว่าศาลจะเมตตาให้เข้าฟังในวันไต่สวนและในวันวินิจฉัย เพื่อจะได้นำข้อมูลเพิ่มเติมเพิ่มเติมส่งให้ ป.ป.ช.

นายสมชาย กล่าวอีกว่า นอกจากติดตามการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว จะมีการติดตามต่อไปว่าการดำเนินการ ของ ป.ป.ช.มีการดำเนินการคืบหน้าไปอย่างไร ทั้งกรณีการผิดจริยธรรมและกฎหมาย เนื่องจากเห็นว่าเป็นความผิดร้ายแรง ดังนั้น ป.ป.ช.ควรดำเนินการโดยเร็วเพื่อให้ได้ข้อสรุปและส่งต่อไปยังศาลฎีกา แผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองโดยเร็ว

นายสมชาย ยังกล่าวถึงกรณีนายกรัฐมนตรี นำนายฉัตรชัย เลขา สมช.เป็นพยานว่าอยากให้นายฉัตรชัย คิดว่านางสาวแพทองธาร เมื่อมาแล้วก็ไป แต่ตำแหน่งเลขา สมช.ต้องดูแลผลประโยชน์ของชาติ การให้การที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริงก็จะเกิดผลเสียกับตนเอง เพราะเห็นว่าความจริงเท่านั้นเป็นคำตอบที่สังคมอยากรู้ ไม่ใช่การไปซักซ้อมพยานที่จะขึ้นให้การ ซึ่งก็ทราบมาว่าขณะมีการซักซ้อมพยานเพื่อเตรียมให้การต่อศาลรัฐธรรมนูญ อยากฝากท่านเลขา สมช.ท่านเป็นข้าราชการในพระบาทสมเด็จพระเจ้า อยู่หัว มีหน้าที่ดูแลความมั่นคงแห่งชาติ ไม่ใช่ดูแลความมั่นคงของคุณแพทองธาร เรียนว่าถ้าท่านมาศาลท่านต้องมือสะอาด คำให้การต่างๆต้องสะอาด เมื่อถ่ายทอดสดแล้วพี่น้องประชาชนจะได้รับทราบข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวถามว่าประเมินท่าทีนายกรัฐมนตรีอย่างไรจะลาออกก่อนหรือจะอยู่จนถึงวันวินิจฉัย นายสมชายกล่าวว่า ได้เรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีลาออกก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ก่อนแจ้งความดำเนินคดีที่กองบัญชาการสอบสวนกลาง แต่นายกรัฐมนตรีก็ไม่ลาออก อย่างไรก็ตามขณะนี้ก็ถือว่ายังมีเวลาที่นายกรัฐมนตรีจะตัดสินใจลาออกก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยออกมา เพราะตนเห็นว่าการกระทำของนายกรัฐมนตรีเป็นความผิดชัดเจนที่ไม่อาจกล่าวอ้างได้ว่าบกพร่องโดยสุจริต และเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญก็มีข้อมูลอยู่เป็นจำนวนมากที่จะซักถามนายกรัฐมนตรี และเชื่อว่าประชาชนทั้ง 65 ล้านคนที่ได้ฟังคลิปเสียงสนทนาระหว่างนายกรัฐมนตรีและสมเด็จฮุนเซน ก็ต้องการฟังคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรีเช่นกัน อย่างไรก็ตาม เชื่อว่านายกรัฐมนตรีจะไม่ลาออก และจะเดินทางมาเข้าสู่กระบวนการไต่สวนด้วยตัวเอง ตนจึงขอที่จะมารับฟังการไต่สวน และขอให้ศาลถ่ายทอดการไต่สวนเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ

พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาชาติ (ปช.) กล่าวถึงการนำ สส.พรรค ปช. เข้าพบเพื่อให้กำลังใจ น.ส.แพทองธาร ที่รัฐสภา ในระหว่างการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย ประจำปี 2569 ว่า ได้เข้าให้กำลังใจ นายกฯ โดยเฉพาะ 3 สส.ชายแดนใต้ นายกฯ มีกำลังใจดี และฝากให้ สส.ช่วยดูแลประชาชน พร้อมลงไปยกระดับการพัฒนาและแก้ปัญหาตามที่แถลงนโยบายไว้

ผู้สื่อข่าวถามว่า นายกฯ มีความกังวลเกี่ยวกับคดี ในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า นายกฯ ไม่มีทีท่ากังวล เพราะเรื่องเข้าสู่กระบวนการศาลรัฐธรรมนูญ ทุกคนต้องเคารพ ไม่ไปวิพากษ์วิจารณ์ และทางการเมืองรัฐธรรมนูญเขียนทางออกไว้อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่า ได้มีการพูดคุยถึงแผนสำรองไว้หรือไม่ หากเกิดอะไรขึ้นในวันที่ 29 ส.ค.นี้ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ยังไม่ได้คุย เรามีความเชื่อมั่นในพรรคร่วมรัฐบาล โดยการนำของพรรคเพื่อไทย (พท.) และทุกวันนี้นโยบายต่างๆ กำลังขับเคลื่อนไป ยืนยันว่าพรรค ปช.จะอยู่กับพรรคเพื่อไทย

เย็นวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคเพื่อไทยว่า ในการประชุมพรรคประจำสัปดาห์ เดิมน.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรค จะเดินทางมาร่วมประชุมพรรค ทำให้บรรดา สส.ได้เตรียมช่อดอกไม้และเค้กมาอวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้า น.ส.แพทองธารในวันที่ 21 ส.ค. แต่ปรากฎว่า น.ส.แพทองธารยกเลิกการเข้าร่วมประชุม ขณะที่มีมวลชนกลุ่มผู้สนับสนุนพรรค เดินทางมาพบและนำดอกไม้พร้อมของขวัญมาให้กำลังใจ และเตรียมอวยพรวันเกิดน.ส.แพทองธารล่วงหน้าเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แต่เป็นที่น่าสังเกตว่านายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ได้เดินทางเข้ามาพรรคเพื่อไทย และเดินทางออกจากพรรคเพื่อไทย เวลา 16.10 น.โดยไม่ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน

เมื่อผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า วันนี้มาพรรคเพื่อไทยมีภารกิจอะไร นายทักษิณ กล่าวเพียงว่า มาเจอแขก เจอเพื่อน เจอฝูง ผู้สื่อข่าวจึงถามต่อกรณีวันที่ 22 ส.ค. ที่ศาลอาญาฯ จะพิพากษาคดี 112 จะไปฟังด้วยตนเองหรือไม่ นายทักษิณ กล่าวสั้นๆ ว่า “เรื่องศาลใครเขาพูดกัน”

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top