20 ส.ค. 68 กรมกิจการพลเรือนทหารบก Directorate of Civil Affairs โพสต์เฟซบุ๊กระบุข้อความว่า "จบสงครามเขมรแล้วมีคนไทยกี่คนจะรู้ว่า …
.
1. ทั่วโลกยกย่องการจัดการสนามรบของไทยว่า เต็มเปี่ยมประสิทธิภาพ แม่นยำ รวดเร็ว และใช้เทคโนโลยีที่บางชาติในนาโตยังกำลังวางแนวคิด แต่ไทยใช้จริง (การใช้โดรนร่วมกับเครื่องบินโดยการสื่อสารยุทธวิธี T Link) เป็นบูรณาการจากฟ้าสู่ดิน จากเรื่องจักร สู่การกวาดล้างทหารราบ ทำลาย ถอนกำลัง และ ตั้งแนวปลอดภัย (แม้แต่สวีเดนที่เป็นผู้ผลิตกริฟเพนยังทึ่งและไม่คิดว่าเครื่องบินที่ตัวเองผลิตเพื่อให้มีบทบาทขับไล่สกัดกั้นทางอากาศจะทำการบินโจมตีสนับสนุนเป้าหมายภาคพื้นได้ดีขนาดนี้)

2. ทางการทหารโลกยกย่อง ยุทธวิธีทหารไทยว่า เร็ว ชัดเจน และ ปิดจบการรบที่ ใช้เวลาแค่ 6 ชั่วโมง ด้วยการรุก

3 ระลอก โจมตีจุดยุทธศาสตรสั่งการ ทำลายอำนาจการยิง และ ล้มล้างระบบส่งกำลังบำรุง ที่ทำให้กองทัพทหารเขมรกว่าสามหมื่นนาย หมดอำนาจการทำสงคราม สูญเสียการบังคับบัญชา และการสื่อสาร ขวัญเสีย และไม่รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป ด้วยเวลาแค่ 6 ชั่วโมง โดยไม่ทำให้เกิดความเสียหายต่อพลเมืองเขมร

4. ประเทศไทย จัดการหลังแนวรบ ด้วยวิธีการที่แยบยล มีมนุษยธรรม ค่ายผู้อพยพไทยถูกยกย่องว่า มีระเบียบ เพียงพอ และ ปลอดภัยที่สุดในโลกในการจัดการในสภาพสงคราม

นี่คือเรื่องดี ๆ ที่ คนไทย น่าจะมีแค่ 1 หรือ 2 เปอร์เซนต์ได้รับรู้ เพราะ ที่ผมติดตามข่าวมา ทั้ง อินฟูเอนเซอร์ ที่ ครีเอเตอร์มือใหม่ และ สื่อมวลชนไทย ได้ออกข่าว เขียนข่าว ทำสกรู๊ป คือ ขยะ ที่ ผมเรียกว่า ขยะเปียกที่เป็นขยะพิษ ยัดใส่สมองคนไทย

เรื่องดีๆ แบบนี้ ผมต้องไปหาอ่านจาก CNN อัลจาเซียร่า ดิการ์เดี้ยน หรือว่า นักข่าวไทยอ่านภาษาอังกฤษไม่เก่ง ฟังไม่รู้เรื่อง เลยไม่รู้กับเขา หรือว่าเขาไม่สนใจ หรือว่า ผมคิดไปเอง

ทหารไทยมีไว้ทำอะไร ยุทธศาสตร์ที่ชายแดนเขมร ลึกซึ้ง ฉลาด รวดเร็ว และแม่นยำ

ระดับวงการทหารทั่วโลก ยกให้เป็นกองทัพที่เก่งระดับ อิสราเอล และ สหรัฐอเมริกา โดยใช้ เงินน้อยกว่ามากมาก มันมากเกินกว่าคนที่ถามว่า #ทหารมีไว้ทำไม จะเข้าใจ และรู้ได้ เพราะ สติปัญญามันแตกต่างกัน"

.-008