‘อดีตรองอธิการบดี มธ.’ยก 3 เหตุผล ทุบเปรี้ยง‘อิ๊งค์’ไม่รอดและไม่อาจให้รอดได้
20 สิงหาคม 2568 รศ.หริรักษ์ สูตะบุตร อดีตรองอธิการบดีฝ่ายบริหารบุคคล มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Harirak Sutabutr ระบุว่า...
พรุ่งนี้รู้สึกคอการเมืองกำลังทายกันจ้าละหวั่นว่า คุณแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะไปรับการไต่สวนของศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่ ในขณะเดียวกัน ในวันที่ 29 สิงหาคม ก็จะเป็นวันที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยว่า นายกรัฐมนตรีจะต้องพ้นจากตำแหน่งด้วยข้อหา กระทำการที่แสดงว่า ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริต และขัดกับมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงหรือไม่
ข่าวลือหนาหูในเวลานี้คือ ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาว่า นายกรัฐมนตรีจะรอดด้วยคะแนน 5 : 4 เพราะมีการตกลงกันเรียบร้อยแล้ว
บางข่าวบอกให้ดูว่านายกรัฐมนตรีจะลาออกหรือไม่ หากไม่ลาออกแสดงว่ารอดแน่ๆ เพราะรู้ล่วงหน้าแล้วว่าจะรอด
ข่าวลือทั้งหมดนี้ ขอบอกว่า มีความเป็นไปได้น้อยมากกระทั่งเป็นไปไม่ได้เลย เหตุผลเพราะ
1.หลักฐานที่เป็นคลิปเสียง ที่ประชาชนได้ฟังกันทั้งประเทศถ้าไม่ใช่ทั้งโลก ประชาชนส่วนใหญ่ ยกเว้นคนในพรรคเพื่อไทย ล้วนเห็นว่าการกระทำของนายกรัฐมนตรี ไม่ว่าจะแก้ตัวอย่างไร ไม่อาจให้ความไว้วางใจให้บริหารประเทศต่อไปได้ ผลการสำรวจของนิด้าโพลล่าสุด ยิ่งยืนยันความจริงข้อนี้
2.ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญแต่ละท่าน เป็นผู้ที่มีชื่อเสียงในทางที่ดีซึ่งสั่งสมมาทั้งชีวิต ล้วนเป็นที่ยอมรับในสังคม ทั้งท่านที่มาทางสายรัฐศาสตร์และที่มาทางสายนักกฎหมาย ที่อยู่ในวงการยุติธรรมมาจนเป็นที่รู้จักกันในวงกว้าง ไม่มีทางที่ท่านจะทำอะไรที่ต้องแลกด้วยความมัวหมองของชื่อเสียงที่สั่งสมมาทั้งชีวิต ทั้งยังอาจถูกสาปแช่งจากประชาชน และอาจทำให้เกิดการประท้วงและลุกลามบานปลาย จนต้องจารึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่า คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นสาเหตุหลักของความวุ่นวายดังกล่าว
3.คนส่วนใหญ่สิ้นหวังกับนักการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน ถึงกับบอกว่า จะไม่เลือกคนเหล่านี้เข้ามาอีกแล้ว บ้านเมืองจึงต้องการการเปลี่ยนแปลงโดยเร็ว และเปลี่ยนแปลงแบบถอนรากถอนโคน ไม่ใช่เพียงเปลี่ยนตัวนายกรัฐมนตรีแต่ที่เหลือยังเหมือนเดิม การอนุญาตให้นายกรัฐมนตรีได้ปฏิบัติงานต่อไปได้ เท่ากับไปทำให้การเปลี่ยนแปลงที่บ้านเมืองต้องการเกิดได้ช้าลง และอาจช้าเกินไป
ดังนั้นจึงเชื่อว่า นายกรัฐมนตรีจะไม่รอดและไม่อาจให้รอดได้
คำถามต่อไป คือ แล้วใครจะมาเป็นนายกรัฐมนตรีคนต่อไป กระแสที่แรงไม่แพ้กระแสที่ว่า นายกรัฐมนตรีจะรอด ก็คือ นายกรัฐมนตรีคนต่อไปควรจะเป็น พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผลการสำรวจของนิด้าโพลก่อนหน้านี้ พลเอกประยุทธ์มีคะแนนนำแคนดิเดตคนอื่นๆที่ประชาชนอยากให้มาเป็นนายกรัฐมนตรี
ขอย้ำคำว่า “แคนดิเดต” เพราะคำถามของนิด้าโพลให้เลือกเฉพาะคนที่เป็นแคนดิเดต มิได้ให้เลือกใครก็ได้อย่างใด ดังนั้นพลเอก ประยุทธ์จึงเป็นตัวเลือกจากกลุ่มคนที่เป็นแคนดิเดตอยู่แล้วเท่านั้น
ถามว่า พลเอกประยุทธ์ควรรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีหรือไม่หากโอกาสมาถึง ตอบได้เลยว่าไม่ควร
เหตุผลคือ มีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี หากยังมีพรรคการเมืองเดิมๆร่วมรัฐบาล นักการเมืองหน้าเดิมๆเป็นรัฐมนตรี แม้จะดีกว่าเดิมบ้างแต่ไม่เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงประเทศให้พ้นจากปากเหวได้
ถามว่า ถ้างั้นเลือกแคนดิเดตคนใดคนหนึ่งเป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้นให้ยุบสภาฯเลือกตั้งใหม่เลยดีหรือไม่
ตอบว่า หากยุบสภาเลือกตั้งใหม่จะยิ่งแย่กว่าเดิม เหตุผลเพราะประชาชนจำนวนมากกำลังสิ้นหวังกับนักการเมือง ระบบการเมือง คนที่มีความรู้แทบไม่อยากไปเลือกตั้ง ผลที่คาดได้ว่าจะเกิดตามมาก็คือ นักการเมืองหน้าเดิมๆจะได้รับเลือกเข้ามาน้อยมาก แต่คนที่จะได้รับเลือกเข้ามาแม้จะเป็นหน้าใหม่ๆ แต่จะเข้ามาได้จากการซื้อเสียงเป็นส่วนใหญ่ เพราะคนที่จะไปลงคะแนนเสียงเลือกตั้งส.ส.ส่วนใหญ่จะมีแรงจูงใจอย่างอื่นที่นอกเหนือจากการอยากได้คนดีเข้ามาเป็น ส.ส.จะกลายเป็นว่า ใครให้เงินมากว่าก็เลือกคนนั้น
ถามว่า แล้วจะทำอย่างไรถึงจะได้คนดีเข้ามาบริหารประเทศ
คำตอบคือ ไม่มีวันจะได้คนดีเข้ามาหากระบบการเมืองยังคงเป็นแบบปัจจุบัน จะเลือกตั้งกี่ครั้งก็ได้คนแบบเดิม ดังนั้นนอกจากการทำรัฐประหาร พวกเราต้องหาวิธีอื่นที่จะไม่ต้องเป็นการเลือกตั้งทั่วไปที่ทุกคนมีคนละเสียง แต่ต้องมีการเลือกตั้งทางอ้อมในทำนองเดียวกันกับประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน
นั่นคือคนที่จะมีสิทธิเลือกตั้งได้ต้องเป็นคนที่มีคุณสมบัติขั้นต่ำที่เหมาะสม แต่จะทำอย่างไรจึงจะไปถึงจุดนั้นได้ มีทางเดียวคือประชาชนต้องพร้อมใจกันแสดงจุดยืน ว่าเราไม่ต้องการระบบการเมืองแบบเดิม ต้องมีการเปลี่ยนแปลงอย่างถอนรากถอนโคน ประเทศจึงจะรอดได้
ส่วนจะแสดงจุดยืนด้วยวิธีใด พวกเราช่วยกันคิดด้วยครับ
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี