ทำได้แค่เห็นชอบหรือไม่เท่านั้น! ‘วิสุทธิ์’ดักคอ‘วุฒิสภา’ไม่มีสิทธิ์โหวตคว่ำ‘งบ69’ ยักไหล่ไร้ปัญหา อย่างไรก็ต้องจบในเดือนหน้า แจงไม่ได้ปิดประชุมหนี‘องค์ประชุมล่ม’ อ้างมีสส.ต้องประกอบ‘ศาสนกิจ’ เลยเดินไปขอเอง
21 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีที่มีกระแสข่าววุฒิสภาเตรียมโหวตคว่ำร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569ว่า ตนทราบจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรว่า มีการนำเสนอไปสู่วุฒิสภา เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งวุฒิสภามีหน้าที่พิจารณาให้เสร็จสิ้นภายใน 20 วัน โดยใน 20 วันนี้วุฒิสภาก็ต้องมีการพิจารณาให้จบ มีหน้าที่เห็นด้วย หรือไม่เห็นด้วยเท่านั้น ไม่มีสิทธิ์ไปแปรญัตติ หรือเปลี่ยนแปลงใดๆ ทั้งสิ้น และหากครบเวลา 20 วัน วุฒิสภายังพิจารณาไม่แล้วเสร็จ ก็ถือว่าวุฒิสภาเห็นชอบตามสภาผู้แทนราษฎร
นายวิสุทธิ์ กล่าวต่อว่า หากวุฒิสภามีการให้ความเห็นชอบก็ทูลเกล้าฯ แต่ถ้าไม่เห็นชอบก็จะส่งกลับมายังสภาผู้แทนราษฎร ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 143 วรรค 4 ซึ่งจะสามารถบรรจุลงระเบียบวาระให้สภาผู้แทนราษฎรได้โหวตอีกครั้งหนึ่ง และหากผลการโหวตเกินกึ่งหนึ่งของสภาผู้แทนราษฎร ก็ถือว่างบฯ นั้น ได้ผ่านการพิจารณาแล้ว สามารถทูลเกล้าฯ เพื่อลงพระปรมาภิไธย และประกาศเป็นกฎหมายได้ ดังนั้น จึงไม่ได้กังวลในเรื่องนี้ เพราะวุฒิสภามีหน้าที่นำไปพิจารณา อย่างไรในเดือนหน้าก็ต้องจบตามหลักการ ไม่ได้มีปัญหาอะไร เพราะมีแนวทางการปฏิบัติของทั้งสองสภาอยู่แล้ว สำหรับแนวโน้มไม่เห็นด้วยนั้น ก็ไม่เป็นไร วุฒิสภาไม่มีสิทธิ์โหวตคว่ำอะไร ส่วนกังวลว่าจะเป็นเกมการเมืองถูกนำไปอภิปรายโจมตีหรือไม่นั้น วุฒิสภามีหน้าที่แค่ให้ความเห็นชอบกับการพิจารณาหรือไม่ จะเปลี่ยนแปลงแก้ไขใดๆ ทั้งสิ้นไม่ได้เลย
เมื่อถามถึงการประชุมสภาฯเมื่อวันที่ 20ส.ค.ที่ผ่านมา หลายคนมองว่าเป็นการชิงปิดประชุมก่อนเพื่อป้องกันองค์ประชุมล่ม ประธานวิปรัฐบาล กล่าวชี้แจงว่า เมื่อเช้าตนฟังข่าวก็ตกใจ เพราะมีการเขียนว่ารองประธานสภาคนที่หนึ่งปิดหนีการนับองค์ประชุม แต่เมื่อวานนี้ ไม่มีการนับองค์ประชุม เพราะเราได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง ซึ่งทุกคนได้เห็นแล้วว่า มีกว่า 165 มาตรา และมีการลงมติตลอดเวลา
“เมื่อวานนี้ (20 ส.ค.68) สภาฯทำงานกันหนักมาก ไม่ว่าจะฝ่ายค้านหรือรัฐบาล ทุกคนทั้งทุ่มเทกันเต็มที่ ปัญหาคือบางมาตรามีคนแปรญัตติ ขณะที่บางมาตรา ไม่มีการแปรญัตติ และมีคนอธิบายเพียง 1-2 คนเท่านั้น เหนื่อยกันมาก แทบจะหาทางออกไปทานข้าวไม่ได้ บางคนที่ไปห้องน้ำก็บ่นว่า กลับมาแทบไม่ทัน เพราะมีการกดออดตลอด” นายวิสุทธิ์ กล่าว
นายวิสุทธิ์ กล่าวอีกว่า เมื่อจบการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การขนส่งรางไป เราก็มองว่าเยอะแล้ว เพราะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วมอีก ไปไกลมากแล้ว แต่ทุกคนยังสู้อยู่ ก็สงสารว่าทุกคนเหนื่อยมาก พิจารณาไปถึง 39 มาตราจาก 54 มาตรา ตนจึงเดินไปบอกกับประธานในที่ประชุมว่า ขออนุญาตปิดการประชุม เพราะวันนี้ทำงานหนักมากแล้ว นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่สส.มุสลิม จะต้องประกอบศาสนกิจ หรือการละหมาด จึงขออนุญาตตนว่า ต้องออกไปตั้งแต่ 17.00 น. ตนจึงขอไว้ว่า ขอให้ถึง 18.00 น. แต่เมื่อถึงเวลากว่า 18.40 น. ก็ยังพิจารณาไม่เสร็จ ดังนั้น จึงมองว่าเขาควรประกอบศาสนกิจ ซึ่งได้ทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้ว
“จึงเดินไปบอกประธานเองว่า ขอปิดการประชุม ให้ทุกคนได้พักบ้าง เพราะหนักกันมาทั้งวัน ขอบคุณฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ การปิดประชุมเมื่อวานนี้ ไม่ใช่เพราะประธานอยากปิด แต่ผมเป็นคนไปร้องขอ เพราะหากขาด สส.มุสลิมไป 30-40 คน ก็จะเป็นปัญหาเรื่ององค์ประชุมอีก แม้ว่าฝ่ายค้านอยากจะให้พิจารณาต่อ แต่ทุกคนก็เห็นว่า เราทำงานทุ่มเทอย่างเต็มที่ ไม่ใช่ชิงปิดกันองค์ประชุมไม่ให้ล่ม ผมมองว่าผลลัพธ์นั้น คุ้มค่า ย้ำว่า ไม่มีการเล่นการเมือง ฝ่ายค้าน และรัฐบาลไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน” ประธานวิปรัฐบาล กล่าว
เมื่อถามว่า หากรอบหน้าฝ่ายค้านชิงขอนับองค์ประชุมก่อนเวลาช่วงเย็น จะเป็นปัญหาหรือไม่ นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เชื่อว่า ฝ่ายค้านคงไม่ได้เล่นเกมอะไร ทุกคนปฏิบัติหน้าที่ เมื่อวานนี้ มีการลงคะแนนร้อยกว่าครั้งถือว่าหนักที่สุดแล้ว เราทำกันอย่างเต็มที่ เพราะอยากให้กฎหมายตั๋วร่วมไปถึงพี่น้องประชาชน ให้ได้ใช้ 20 บาทตลอดสาย และเป็นความหวังของประชาชนรากหญ้า ที่จะใช้รถไฟฟ้า
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี