‘ปชน.’อัดรัฐบาล! สะดุดขาตัวเอง ทำเกิดโรคเลื่อนนโยบาย 20 บาท

‘ปชน.’อัดรัฐบาล! สะดุดขาตัวเอง ทำเกิดโรคเลื่อนนโยบาย 20 บาท

วันพุธ ที่ 27 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 17.51 น.

"ปชน."ยันหนุนค่าโดยสารร่วม ไม่ใช่แค่"ตั๋วร่วม" ชี้ต้องครอบคลุมไปยัง"รถเมล์" อัดรัฐบาลสะดุดขาตัวเอง ควรรับผิดชอบวางแผนผิดพลาด ทำเกิดโรคเลื่อนนโยบาย 20 บาท

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา สส.พรรคประชาชน (ปชน.) นำโดย นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม.พรรคประชาชน ร่วมแถลงข่าวหลังสภาผู้แทนราษฎรผ่านร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งทางราง จำนวน 3 ฉบับ ประกอบด้วย ร่าง พ.ร.บ.การขนส่งทางราง , ร่าง พ.ร.บ.การบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม และ ร่าง พ.ร.บ.การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย


โดย นายสุรเชษฐ์ กล่าวว่า ช่วงแรกที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล เคยประกาศจะทำนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ภายใน 3 เดือน ต่อมาเลื่อนเป็นภายใน 2 ปี จะเริ่มวันที่ 1 ต.ค.2568 แต่ล่าสุดก็เลื่อนอีก การพิจารณากฎหมายทั้ง 3 ฉบับของสภาผู้แทนราษฎรถือว่าดำเนินไปได้อย่างรวดเร็ว เริ่มที่ร่าง พ.ร.บ.ขนส่งทางราง ผ่านฉลุย ข้อเรียกร้องต่างๆ ที่มีในร่างของพรรคประชาชน ก็ได้ใส่เข้าไปในร่างที่ผ่านสภา ถือเป็นความสำเร็จร่วมกันของสภาผู้แทนราษฎร ต่อมาคือร่าง พ.ร.บ.ตั๋วร่วม ในภาพรวมพรรคประชาชนสนับสนุน นี่คือสิ่งที่ดี และถ้าถามว่า พ.ร.บ.ฉบับไหนสำคัญที่สุด เกี่ยวเนื่องกับการดำเนินนโยบายเรือธงของรัฐบาล ก็คือ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม เพราะจะทำให้ทุกคนได้รับความสะดวกสบายในการเดินทาง

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า โดยหลักการที่สำคัญคือใช้บัตรใบเดียวได้กับทุกขนส่งสาธารณะ ไม่ต้องถือหลายใบ ไม่ต้องลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชัน ส่วนอีกคำที่แตกต่างและมีนัยสำคัญอย่างยิ่งคือ “ค่าโดยสารร่วม” ซึ่งมีความเห็นต่างกันในเชิงนโยบาย ทางรัฐบาลโฆษณานโยบายตั๋วร่วม 20 บาทตลอดสาย แต่ความจริงสิ่งที่รัฐบาลจะทำคือค่าโดยสารร่วม 20 บาทตลอดทางเฉพาะรถไฟฟ้า ส่วนพรรคประชาชนจะทำ “ค่าโดยสารร่วม 8-45 บาทตลอดทาง รถไฟฟ้าร่วมกับรถเมล์” ซึ่งโดยโครงสร้างของ พ.ร.บ.ตั๋วร่วม รองรับการทำทั้งตั๋วร่วมและค่าโดยสารร่วมแบบที่พรรคประชาชนเสนอ

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วน พ.ร.บ.สุดท้าย คือ พ.ร.บ.รฟม. เป็นร่างที่มีความเห็นแตกต่างกัน โดยมาตรา 8 ถือเป็นแก่นสารหลักที่รัฐบาลไปล้วงกระเป๋า รฟม. ซึ่งพรรคประชาชนไม่เห็นด้วย จึงลงมติไม่เห็นชอบ อย่างไรก็ตามรัฐบาลครองเสียงข้างมาก จึงผ่านไปได้ทั้งสามฉบับ ดังนั้นตอนนี้ถือว่ารัฐบาลมีเครื่องมือครบ ซึ่งที่จริงต้องการเพียงสองฉบับแรก ส่วนฉบับที่สามแค่บอกว่าจะเอาเงินมาจากไหน ซึ่งพรรคประชาชนไม่เห็นด้วยกับวิธีการล้วงกระเป๋า รฟม. เสี่ยงต่อการผิดวินัยการเงินการคลัง

นายสุรเชษฐ์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่ต้องดูต่อไปคือ 1.นโยบายเรือธงของรัฐบาลจะเลื่อนไปถึงเมื่อไร เพื่อจะดำเนินการตามที่หาเสียงไว้ และ 2.จะดำเนินการตาม พ.ร.บ.ทั้งสามฉบับหรือไม่ เพราะถ้าดำเนินการตามทั้งสามฉบับ เป็นสิ่งที่ดีที่ประชาชนจะได้ใช้บัตรใบเดียวแตะเข้า-ออก มีส่วนลดค่าโดยสารทั้งรถเมล์และรถไฟฟ้า

ด้าน นายศุภณัฐ กล่าวว่าในฐานะตัวแทน สส.กทม.ของพรรคประชาชน ยืนยันว่าเราเห็นด้วยกับการอุดหนุนค่าโดยสารให้พี่น้องประชาชน เห็นด้วยกับการทำตั๋วร่วมและค่าโดยสารร่วม ที่ผ่านมาหลายประเด็นในร่างตั๋วร่วมของ ครม.ที่เสนอมาไม่ครบถ้วน ก็ต้องอาศัยร่างตั๋วร่วมของพรรคประชาชนทำให้ครบถ้วนมากขึ้น โดยเฉพาะประเด็นการครอบคลุมรถเมล์ ส่วนประเด็นที่ไม่เห็นด้วยมีอยู่เรื่องเดียว คือวิธีการหรือช่องทางในการใช้เงิน คือการไปใช้เงินของ รฟม. แต่ยืนยันว่าสิ่งเหล่านี้ไม่ได้เกิดจากพรรคประชาชน เราเข้าร่วมประชุม กมธ.ทุกครั้งและพยายามให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ต่อรัฐบาล ความล่าช้าเกิดจากการวางนโยบายของรัฐบาลที่ผิดพลาด เพราะ กมธ.ตั๋วร่วม ประชุมเสร็จตั้งแต่เดือน เม.ย.รัฐบาลเพิ่งจะมาประชุม พ.ร.บ.รฟม.ในเดือน พ.ค.หมายความว่าก่อนหน้านี้ที่มีเวลาเกือบสองปีรัฐบาลไม่ได้วางแผนว่าจะใช้เงินจากช่องทางไหน เพิ่งมาคิดได้หน้างาน จึงยื่นร่าง พ.ร.บ.รฟม.เข้ามา ทำให้เกิดความล่าช้าในการผลักดันนโยบาย สรุปแล้วรัฐบาลสะดุดขาตัวเอง ไม่ใช่ใครอื่น

นายศุภณัฐ กล่าวต่อว่า ดังนั้นความล่าช้าเหล่านี้ไม่ได้เกิดขึ้นจากพรรคประชาชน แต่รัฐบาลคือผู้ที่ต้องรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นขณะนี้ บางผู้ประกอบการยกเลิกตั๋วเหมาตั๋วรายเดือน ทำให้ประชาชนที่เคยได้ใช้ของราคาถูกได้รับผลกระทบ ทั้งที่รัฐบาลต้องคิดให้ได้เองว่าไทม์ไลน์ต่างๆ ควรจะเสร็จเวลาไหน รัฐบาลควรคำนวณได้เพราะเป็นเจ้าของเสียงข้างมาก ยืนยันว่าพรรคประชาชนพยายามผลักดันตั๋วร่วมและค่าโดยสารร่วมมาโดยตลอด แต่เราคัดค้านเกี่ยวกับช่องทางการใช้เงินที่มีปัญหา หลังจากนี้หวังว่ารัฐบาลจะพยายามยึดตามกลไกตั๋วร่วม ทำให้เกิดบัตรโดยสารใบเดียวที่ใช้ได้กับทุกผู้ประกอบการ ไม่ใช่สองใบแบบที่เป็นอยู่ ดึงรถเมล์ รถโดยสารต่างๆ และเรือ เข้ามาอยู่ในระบบตั๋วร่วมด้วยหรือไม่ ต้องฝากประชาชนและสื่อมวลชนช่วยกันติดตามต่อไป

- 006

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top