‘ยุทธพร’มองผลคดีคลิปเสียง‘นายกฯ’ 50:50 ออกได้ทั้ง 2 ทาง เหตุกฎหมายเขียนกว้าง

‘ยุทธพร’มองผลคดีคลิปเสียง‘นายกฯ’ 50:50 ออกได้ทั้ง 2 ทาง เหตุกฎหมายเขียนกว้าง

วันพฤหัสบดี ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2568, 14.25 น.

‘ยุทธพร’มองผลคดีคลิปเสียง‘นายกฯ’ 50:50 ออกได้ทั้ง 2 ทาง เหตุกฎหมายเขียนไว้กว้าง อยู่ที่‘ศาลรัฐธรรมนูญ’วินิจฉัย ชี้ หากได้ไปต่อยังมีโจทย์ใหญ่รอให้แก้อยู่ทั้งการเมือง-เศรษฐกิจ

28 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา นายยุทธพร อิสรชัย อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ให้สัมภาษณ์ถึงการประเมินสถานการณ์ ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญจะมีการอ่านคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงสนทนา ของ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี วันที่ 29 สิงหาคมนี้ ว่า 50:50 สามารถออกไปได้ทุกทาง เพราะเรื่องกฎหมายมีการเขียนไว้กว้าง อย่างคำว่าซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์หรือไม่ หรือคำว่าจริยธรรมร้ายแรงหรือไม่นั้น ก็สามารถวินิจฉัยออกมาได้ทั้งหมด เพราะคงไม่มีใครตอบได้ชัดเจนว่า ซื่อสัตย์สุจริตหมายถึงอะไร ขณะเดียวกันมาตรฐานจริยธรรม ก็เป็นประเด็นที่ถูกจับขึ้นมาเหมือนกัน อยู่ที่ศาลว่าจะรับพิจารณาทั้ง 2 ประเด็นดังกล่าวหรือไม่ และนายกฯ ก็ต้องผ่านพ้นทั้ง 2 ประเด็น จึงจะสามารถไปต่อได้ หากติดประเด็นใดประเด็นหนึ่งจะไปต่อไม่ได้


นายยุทธพร กล่าวต่อว่า ดังนั้น เรื่องนี้เป็นเรื่องของกฎหมายที่เขียนไว้กว้าง ความหมายแตกต่างกัน ขณะเดียวกันก็เป็นข้อเท็จจริง ซึ่งต้องมีการพิสูจน์ ในคำวินิจฉัยของศาลว่า จะฟังข้อเท็จจริงอย่างไร ทั้งคำชี้แจงของนายกรัฐมนตรี หรือคำร้องของผู้ร้อง รวมถึงการแถลงปิดคดีของทั้งสองฝ่าย และเรื่องการไต่สวนพยาน 2 ปากสำคัญ คือตัวนายกฯ และนายฉัตรชัย บางชวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ ก็ต้องอยู่ที่ว่าศาลจะวินิจฉัยไปในทางใด

นายยุทธพร กล่าวอีกว่า หากมองในแง่ข้อกฎหมาย การวินิจฉัยให้พ้นจากความเป็นรัฐมนตรี หรือถึงขั้นตัดสิทธิ์ทางการเมืองก็ดีนั้น สิ่งเหล่านี้ต้องมีความเด็ดขาด เพราะเป็นผลที่เกิดขึ้นต่อบุคคล สำหรับข้อ 27 นั้น ไม่ได้ถือว่าเป็นมาตรฐานจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ หรือจริยธรรมร้ายแรง ซึ่งต้องดูเรื่องเจตนา พฤติการณ์ และความร้ายแรงของความเสียหาย ซึ่งคำชี้แจงของ นายกฯ ก็มีการอธิบายทั้ง 3 ประเด็นดังกล่าวแล้ว นอกจากนี้ เมื่อคำชี้แจง ประกอบกับการไต่สวนพยาน ศาลจะรับฟังหรือไม่ อยู่ที่ดุลพินิจศาล จึงให้โอกาสเป็น 50:50 ออกได้ทั้งสองฝั่ง

“วันที่ 29 สิงหาคมไม่ว่าผลจะออกมาเป็นคุณกับนายกฯ หรือไม่ แง่ที่เป็นคุณ นายกฯ อาจจะได้ไปต่อ คือสามารถบริหารงานต่อ แต่ในแง่ความชอบธรรมทางการเมือง หรือการแก้โจทก์ต่างๆ ก็ยังมีอยู่อีกหลายอย่าง รวมถึงสัญญาณทางคดีก่อนหน้านี้ ทั้งคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี คดี นายกฯ เอง และคดีชั้น 14 นอกจากสัญญาทางคดีแล้ว แม้นายกฯ จะได้ไปต่อ ยังมีสัญญาณทางการเมืองที่จะต้องแก้อีก คือจะทำอย่างไรให้เสถียรภาพทางการเมืองกลับมา การที่เสียงปริ่มน้ำ หรือสภาฯ ล่ม และชิงปิดประชุมสภาบ่อยครั้ง สิ่งเหล่านี้ต้องไม่ทำให้ภาพเกิดขึ้น เพราะจะส่งกระทบความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและรัฐบาล ซึ่งเป็นโจทย์ใหญ่ที่ต้องแก้ต่อไป” นายยุทธพร กล่าว

นายยุทธพร กล่าวต่อว่า ขณะที่มาตรา 5 และมาตรา 144 ที่อาจจะสามารถเซตซีโร่ สส.ได้กว่าครึ่งสภาฯ ก็ต้องเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาต่อว่าจะส่งผลต่อการเมืองอย่างไร แม้กระทั่งการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ภายหลังหากผลเป็นคุณต่อ นายกฯ ก็ยังเป็นสิ่งที่ต้องรอดู เพราะอาจจะปะทุกลับขึ้นมาอีกตอนไหน ส่วนสัญญาณทางเศรษฐกิจ ก็ต้องเร่งฟื้นฟูให้กับประชาชนในระยะสั้น ซึ่งทั้งหมดเป็นสิ่งที่รอ หรือหากผลวินิจฉัยเป็นไปในเชิงลบ นายกฯ ไปต่อไม่ได้ ท้ายที่สุดแล้ว จะไปต่อได้หรือไม่ ก็เป็นสิ่งที่น่ากังวลเช่นเดียวกัน ถึงจะมีการเลือกนายกฯ คนใหม่ได้ นายกฯ คนใหม่ก็ต้องเผชิญ โจทย์การเมืองและเศรษฐกิจ ดังที่กล่าวไปด้วยเช่นเดียวกัน

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top