‘ปลอดประสพ’ โร่แจงชงแนวคิดหักมุม ‘จ่ายเงินชดเชยชาวกัมพูชา’ ที่รุกล้ำอาศัยในไทย อ้างเกิดจากความรักชาติ หวังดีที่จะยุติพิพาทชายแดนโดยเร็ว ชี้หากสถานการณ์ยกระดับเป็นทางการเมืองจพยากต่อการแก้ไข
วันที่ 28 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา นายปลอดประสพ สุรัสวดี อดีตรองนายกรัฐมนตรี กล่าวชี้แจงกรณีที่เสนอให้มีการจ่ายเงินชดเชยแก่ชาวกัมพูชาที่อยู่อาศัยในพื้นที่รุกล้ำเขตแดนไทยว่า ข้อเสนอดังกล่าวเกิดจากความหวังดีและความรักชาติ ไม่ได้มีเจตนาอื่น พร้อมยอมรับฟังทุกความคิดเห็นที่แตกต่าง เพราะเชื่อว่าทุกฝ่ายต่างก็รักชาติเช่นเดียวกัน
นายปลอดประสพ กล่าวต่อว่า พื้นที่บ้านหนองจาน เดิมเคยเป็นป่าสงวนและต่อมาถูกประกาศเป็นป่าเสื่อมโทรม ทำให้เกิดการออกเอกสารสิทธิ ส.ค.1 และ ส.ค.2 แต่ยังไม่ถึงขั้นเป็นโฉนดหรือ น.ส.3 ช่วงปี 2522 มีชาวกัมพูชากว่า1,000–2,000 คน หนีภัยจากเขมรแดงเข้ามาตั้งถิ่นฐาน และบางส่วนยังคงอาศัยอยู่จนถึงปัจจุบัน แม้พื้นที่นี้เป็นดินแดนไทยอย่างชัดเจนตามหลักเขตที่กำหนดไว้ในสัญญากับฝรั่งเศส แต่ก็มีปัญหาการอยู่อาศัยต่อเนื่องของชาวกัมพูชา
นายปลอดประสพ กล่าวอีกว่า การจ่ายเงินชดเชยเป็นวิธีทำให้ไทยได้สิทธิในพื้นที่คืนโดยสมบูรณ์และรวดเร็วที่สุด โดยไม่ต้องแลกด้วยการสูญเสียเลือดเนื้อของทั้งสองประเทศ อีกทั้งยังป้องกันไม่ให้ชาวกัมพูชาบางกลุ่มใช้กฎหมายอ้างสิทธิครอบครองปรปักษ์ หลังอยู่อาศัยและใช้ประโยชน์พื้นที่ต่อเนื่องมานานกว่า 30 ปี
“การจ่ายชดเชยก็ เช่นเดียวกับการเวนคืนที่ดินเพื่อสร้างถนนหรือสนามบิน โดยอ้างอิงราคาประเมินของกรมที่ดินที่อยู่ในระดับไม่สูงนัก ต่ำกว่าหมื่นบาทต่อไร่ และย้ำว่าควรมองผลสำเร็จที่ไทยได้พื้นที่คืน มากกว่าการถือเป็นเรื่องเสียเกียรติยศชาติ” นายปลอดประสพ กล่าว
เมื่อถามว่าชาวกัมพูชาจะยอมรับข้อเสนอรับค่าชดเชยหรือไม่ นายปลอดประสพ กล่าวว่า อาจไม่ใช่เรื่องง่ายที่เขาจะรับข้อเสนอ และควรให้เป็นเรื่องของคนในพื้นที่มากกว่าการเมือง เพราะหากยกระดับเป็นข้อพิพาททางการเมืองจะยิ่งยากต่อการแก้ไข ส่วนการสร้างรั้วชายแดนสามารถทำได้ก็ต่อเมื่อมีการตกลงเขตแดนแล้วเสร็จ เนื่องจากพื้นที่ดังกล่าวอยู่บริเวณหลักเขต 49–50 ซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์
เมื่อถามถึงกระแสเรียกร้องให้ยกเลิกบันทึกความเข้าใจ MOU43 และ MOU44 นายปลอดประสพ กล่าวว่า เอกสารดังกล่าวเป็นเพียงกรอบการเจรจาที่อ้างอิงตามสนธิสัญญากับฝรั่งเศสเมื่อกว่า 100 ปีก่อน หากจะยกเลิกก็สามารถทำได้ แต่ต้องมี MOU ใหม่ขึ้นมาแทน ไม่เช่นนั้นจะไม่มีกลไกสำหรับการเจรจา และหากไทย กัมพูชามีความจริงใจต่อกัน ก็ไม่จำเป็นต้องยึดติดกับการปักปันเพราะหลักเขตมีความชัดเจนอยู่แล้ว
“ข้อเสนอจ่ายเงินชดเชยไม่ใช่การยกดินแดนให้กัมพูชา แต่เป็นทางออกเชิงปฏิบัติที่ทำให้ไทยได้ที่ดินคืนโดยไม่ต้องเผชิญความขัดแย้ง พร้อมเรียกร้องให้ประชาชนเข้าใจเจตนาที่แท้จริง และร่วมกันหาทางออกอย่างสันติ โดยไม่ทำให้เกิดความแตกแยกภายในประเทศ” นายปลอดประสพ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี