‘วุฒิสภา’ถกงบฯปี69 ‘พิชัย’แจง 4 กรอบสำคัญ ยันดำเนินการตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล
1 กันยายน 2568 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายบุญส่ง น้อยโสภณ รองประธานวุฒิสภา คนที่2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณพ.ศ.2569 จำนวนเงิน 3.78 ล้านล้านบาท โดยนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง แถลงรายงานต่อที่ประชุมว่า การจัดทำงบประมาณพ.ศ.2569 มีหลักการและแนวทางที่สำคัญ ดังนี้
1.ดำเนินการตามนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลทั้งนโยบายเร่งด่วน นโยบายระยะกลาง และนโยบายระยะยาวให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยเรื่องความมั่นคงแห่งชาติ รวมทั้งน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเป็นแนวทางในการจัดสรรงบประมาณโดยพิจารณาตามความจำเป็นและภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ แผนพัฒนาตามความต้องการในพื้นที่ของประชาชนและเพิ่มความร่วมมือระหว่างราชการส่วนกลางและส่วนท้องถิ่นในการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล ตลอดจนคำนึงถึงสถานะทางการคลังเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศ รวมทั้งให้ความสำคัญกับหน่วยรับงบประมาณภายใต้หลักธรรมาภิบาล สุจริต โปร่งใสและเป็นธรรมเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและโปร่งใสต่อประเทศชาติและประชาชน
2.จัดทำงบประมาณที่สนับสนุนการพัฒนาประเทศโดยมุ่งแก้ไขปัญหาเร่งด่วน พร้อมสร้างความเสมอภาคและโอกาสทางเศรษฐกิจและสังคมต่อภาคการผลิต และเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน เพื่อส่งเสริมการวางรากฐานสู่การพัฒนาประเทศในอนาคตพร้อมทั้งวางยุทธศาสตร์ให้ประเทศ เป็นศูนย์กลางการผลิต ภาคการเกษตร และอุตสาหกรรมเป้าหมาย ตลอดจนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อขยายโอกาสการดูแลคุณภาพชีวิตและความมั่นคงเพื่อให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีและมีสวัสดิการที่เหมาะสม รวมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินการภาครัฐโดยการใช้นวัตกรรม เทคโนโลยีดิจิทัลให้เกิดประโยชน์สูงสุด
3.เพิ่มประสิทธิภาพการจัดทำงบประมาณโดยพิจารณาลำดับความสำคัญตามความจำเป็น และเร่งด่วนที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน รวมทั้งพิจารณาทบทวนเพื่อชะลอปรับลดหรือยกเลิกการดำเนินโครงการที่หมดความจำเป็นหรือมีความสำคัญในระดับต่ำ เช่น โครงการที่เกี่ยวข้องกับการฝึกอบรมสัมมนา การใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศชั่วคราว ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยคำนึงถึงการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า ประหยัด มีประสิทธิภาพ และประสิทธิผล รวมถึงศักยภาพในการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณในปีที่ผ่านมา ตลอดจนการจัดทำงบประมาณให้ครอบคลุมทุกแหล่งเงินทั้งเงินงบประมาณและเงินนอกงบประมาณ โดยให้หน่วยรับงบประมาณพิจารณานำเงินนอกงบประมาณ เช่น เงินรายได้ เงินสะสมคงเหลือมาดำเนินภารกิจของหน่วยรับงบประมาณ เป็นอันดับแรกและพิจารณาเงินงบประมาณอื่นมาดำเนินโครงการภาครัฐ ไม่ว่าจะเป็นเงินกู้หรือความร่วมมือระหว่างภาครัฐกับภาคเอกชนเพื่อลดภาระงบประมาณของประเทศ
4.ดำเนินให้เป็นไปตามบทบัญญัติรัฐธรรมนูญพ.ศ. 2560 พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐพ.ศ. 2561 พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณ พ.ศ.2561 รวมถึงกฎหมายมติและระเบียบของคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ทั้งนี้สภาผู้แทนราษฎรได้ลงมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2569 ตามที่คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2569 พิจารณาปรับลดเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณโดยให้ความสำคัญเป็นพิเศษกับความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงานความซับซ้อนในการดำเนินงานและผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ภารกิจที่สำคัญที่สนับสนุนการกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ การรองรับมาตรการกีดกันทางการค้า การแก้ไขปัญหาความเป็นอยู่ของประชาชนและประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ รวมถึงสนับสนุนให้เศรษฐกิจเติบโตและมีความเข้มแข็งเพื่อรองรับทั้งปัจจัยภายในและภายนอกประเทศอย่างมีเสถียรภาพ ตลอดจนความเหมาะสมและจำเป็นเพื่อให้เพียงพอต่อการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยรับงบประมาณ
“ผมขอถือโอกาสนี้ขอบคุณสมาชิกวุฒิสภาผู้ทรงเกียรติทุกท่านที่จะพิจารณา ร่างพ.ร.บ.งบประมาณ พ.ศ.2569 สำหรับข้อคิดเห็นคำแนะนำข้อเสนอรวมถึงความห่วงใยที่สมาชิกได้เสนอแนะไว้ตลอดระยะเวลาที่จะมีการประชุมรัฐบาลขอรับไว้ด้วยความขอบคุณและจะนำไปประกอบการพิจารณาปรับปรุงการดำเนินงานของหน่วยรับงบประมาณเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืนต่อไป” นายพิชัย กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี