‘เรืองไกร’ร้องกกต.  ยุบพรรค‘เพื่อไทย’  หลังศาลรธน.เชือด  คดี‘อิ๊งค์’คุย‘ฮุนเซน’

‘เรืองไกร’ร้องกกต. ยุบพรรค‘เพื่อไทย’ หลังศาลรธน.เชือด คดี‘อิ๊งค์’คุย‘ฮุนเซน’

วันอังคาร ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

“เรืองไกร”ร้องกกต.นำคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ยื่นยุบ“เพื่อไทย”ชี้อาจเข้าข่ายฝ่าฝืน พ.ร.ป.พรรคการเมือง ม.92 (2)“แพทองธาร”เป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครอง ขณะที่“สนธิญา”ยื่นกกต.ตรวจสอบ ปม “ทักษิณ-ธนาธร” ดีลโหวตนายกฯ เพื่อไทย เข้าข่ายคนนอกพรรคครอบงำจัดตั้งรัฐบาล เสี่ยงถูกยุบพรรค

เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2568 นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ อดีตวุฒิสภา เปิดเผยว่าวันนี้ได้ส่งหนังสือทางไปรษณีย์ EMS เพื่อขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นำคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 29 ส.ค. 2568 ที่ให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร พ้นจากนายกรัฐมนตรี นั้น ในคำวินิจฉัยมีประเด็นที่อาจเกี่ยวข้องกับการกระทำของ น.ส.แพทองธาร ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ที่อาจเข้าข่ายเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) พรรคการเมือง 2560 มาตรา 92 (2) รวมอยู่ด้วย โดยนำมาถือเป็นหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคเพื่อไทย โดย น.ส.แพทองธาร ได้กระทำการอันอาจเป็นปฏิปักษ์ต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อันเป็นการฝ่าฝืนพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 (2) หรือไม่ ทั้งนี้ กกต. สามารถอ้างสรรพเอกสารในคำวินิจฉัยดังกล่าวต่อศาลได้ ไม่จำต้องให้นายทะเบียนดำเนินการตามมาตรา 93 แต่อย่างใด


“เมื่อศาลได้อ่านคำวินิจฉัยแล้ว ย่อมเป็นเด็ดขาด มีผลผูกพันต่อ กกต. แต่ศาลมิอาจสั่งยุบพรรคการเมืองได้ เนื่องจากคำร้องไม่ได้มาจาก กกต. ซึ่งเป็นองค์กรที่มีอำนาจตามกฎหมาย กรณีนี้จึงต้องร้องขอให้ กกต. เป็นผู้ดำเนินการยื่นเรื่องร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยตามมาว่าพรรคเพื่อไทยมีเหตุต้องถูกยุบเพราะกระทำการฝ่าฝืน พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 92 (2) หรือไม่”นายเรืองไกร กล่าว

นายเรืองไกร กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ตนไม่ได้นำเอกสารคำร้องมาเปิดเผยต่อสื่อมวลชน เนื่องจากคำวินิจฉัยฉบับจริงยังไม่มีการเผยแพร่ จึงนำสรุปคำวินิจฉัยของสื่อมวลชนมาประกอบคำร้อง พร้อมทั้งสำเนาคำวินิจฉัยคดียุบพรรคไทยรักษาชาติ (บางส่วน) ส่งให้ กกต.เพื่อนำไปยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งสรรพเอกสารต่างๆ ศาลรัฐธรรมนูญมีอยู่และรู้เองอยู่แล้ว

วันเดียวกัน ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสนธิญา สวัสดี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อขอให้ติดตาม ตรวจสอบ ดำเนินคดีกับพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน ที่ยอมให้นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรค และเป็นนักโทษ รวมถึงเป็นผู้ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ชี้นำครอบงำการจัดตั้งรัฐบาล เข้าข่ายขัดมาตรา 28 และมาตรา 29 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 และเป็นเหตุให้สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคตามมาตรา 92(3) ของกฎหมายเดียวกันได้

นายสนธิญากล่าวว่า การที่นายทักษิณ และนายธนาธร ซึ่งบุคคลที่ไม่ใช่เป็นพรรคการเมือง รวมถึงถูกตัดสิทธิทางการเมือง นัดพูดคุยเจรจาเพื่อให้พรรคประชาชนเข้าร่วมรัฐบาล และสนับสนุนนายกรัฐมนตรีที่มาจากพรรคเพื่อไทย ซึ่งหากช่วงเย็นวันนี้พรรคประชาชนยืนยันเข้าร่วมรัฐบาลกับพรรคเพื่อไทย ก็จะถือว่าเป็นไปตามเงื่อนไข และข้อตกลง ที่นายทักษิณ และนายธนาธร ได้ตกลงกันจนเป็นผลสำเร็จ ซึ่งคนทั้งประเทศทราบดีว่าทั้งสองคนเป็นบุคคลที่ชี้เป็นชี้ตายของพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชน จึงเข้าข่ายพรรคการเมืองยอมให้บุคคลซึ่งไม่ใช่สมาชิกพรรคชี้นำครอบงำการดำเนินกิจการของพรรค ผิดพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง เป็นเหตุให้ถูกยุบพรรค โดยถ้ามีการตัดสินใจเช่นนี้จริงในสัปดาห์หน้าตนก็จะมายื่นต่อกกต.เพื่อให้พิจารณาส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบทั้ง 2 พรรคการเมือง แต่ถ้าหากพรรคประชาชนไม่อยากมีความผิดต้องไปตอบรับข้อเสนอในการจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคภูมิใจไทยเลย เนื่องจากพรรคภูมิใจไทยได้ส่งหัวหน้าพรรคซึ่งเป็นสมาชิกพรรคเข้ามาติดต่อพูดคุย

นายสนธิญา กล่าวอีกว่า 3 เงื่อนไขที่พรรคประชาชนได้เสนอร่วมโหวตนายกรัฐมนตรีให้กับฝ่ายใดนั้น โดยมีเงื่อนไขของการจัดทำประชามติและแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับแล้วให้มีการยุบสภาภายใน 4 เดือนนับแต่รัฐบาลใหม่แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น กรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญพรรคประชาชนมีเจตนาที่จะแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 ที่เกี่ยวข้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์ด้วยใช่หรือไม่ รวมทั้งการแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ที่ตนได้ยื่นต่อร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติให้ดำเนินการกับ 44 สส.ของอดีตพรรคก้าวไกล ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญได้มีคำวินิจฉัย ว่าการให้เสนอแก้ไขกฎหมายดังกล่าวในสภาเข้าข่ายเป็นการล้มล้างการปกครอง ซึ่งพรรคประชาชนมีเจตนาที่จะต้องการให้มีการนิรโทษกรรมบุคคลที่กระทำผิดเกี่ยวกับการแก้ไขกฎหมายฉบับนี้ด้วยใช่หรือไม่ จึงเห็นว่าข้อเสนอของพรรคประชาชนในการที่จะสนับสนุนฝ่ายใดเป็นนายกรัฐมนตรี ไม่ได้เป็นประโยชน์ต่อประชาชนเลย เพราะวันนี้ประเทศกำลังเผชิญปัญหาสำคัญคือเรื่องความขัดแย้งระหว่างชายแดนไทย-กัมพูชา และปัญหาเศรษฐกิจปากท้อง

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top