‘อดีตสว.สมชาย’ชี้‘หมอมิ้ง-ภูมิธรรม’โทษหนักผิด ม.157 ปมดื้อดึงทูลเกล้าฯ‘ยุบสภา’

‘อดีตสว.สมชาย’ชี้‘หมอมิ้ง-ภูมิธรรม’โทษหนักผิด ม.157 ปมดื้อดึงทูลเกล้าฯ‘ยุบสภา’

วันพฤหัสบดี ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2568, 08.35 น.

‘อดีตสว.สมชาย’ชี้‘หมอมิ้ง-ภูมิธรรม’โทษหนักผิด ม.157 ปมดื้อดึงทูลเกล้าฯ‘ยุบสภา’

4 กันยายน 2568 นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก หัวข้อ “ทูลเกล้ายุบสภา ผิดกฎหมาย ม.157” ระบุว่า...


#ทูลเกล้า #ยุบสภา

#ผิดกฎหมาย #ม157

นายภูมิธรรม ทูลเกล้ายุบสภาโดยไม่มีอำนาจ มีการทักท้วงจากเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และหน่วยงานที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องแล้ว ยังดื้อดึง จึงต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย เบื้องต้นคงต้องมีความผิดในฐานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐกระทำการโดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา157

และความผิดตามกฎหมายพ.รบปปปช ส่วนผิดกฎหมายอื่นตรวจสอบเพิ่มเติมคงมีตามาอีกแน่นอนครับ

หลังจากที่การข่าวยืนยันตรงกันว่า สำนักองคมนตรี ในฐานะหน่วยงานกลั่นกรองหนังสือและถวายความเห็นประกอบกราบบังคมทูลเพื่อทรงมีพระบรมราชวินิจฉัย และทรงลงพระปรมาภิไธย ได้ส่งคืนร่างพระราชกฤษฎีกา กลับมาให้สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แล้ว

โดยหนังสือนำส่งกลับคืนมาระบุว่า การกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกา

ยุบสภาผู้แทนราษฎร ไม่เป็นไปตามระเบียบการนำเสนอเพื่อขอพระมหากรุณา

เนื่องจากเป็นเรื่องที่มีปัญหาข้อขัดแย้งว่า  กระทำได้หรือไม่

ประกอบกับเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ได้ทำความเห็นประกอบว่า 

รัฐบาลรักษาการ ไม่สามารถกราบบังคมทูลร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาฯ ได้

จึงไม่สามารถกราบบังคมทูล เพื่อทรงลงพระปรมาภิไธยได้

เลขาธิการคณะรัฐมนตรี รายงานให้นายภูมิธรรม ในฐานะผู้กราบบังคมทูล ทราบแล้ว

จึงมีความเห็นทางกฎหมายว่า ผู้ดำเนินการที่เกี่ยวข้องต้องตรวจสอบคือ

 นายภูมิธรรม เวชชยชัย และนายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายก ฯ

โดยน่าจะมีความผิดตามตามกฎหมายได้แก่

ประมวลกฎหมายอาญา

“มาตรา 157 ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”

ซึ่งการกระทำผิดนี้จะมีความเกี่ยวพันกับ พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 (ป.ป.ช.) โดยเฉพาะในกรณีที่ตรวจสอบได้ว่ามีเจตนาทุจริต เพื่อแสวงหาประโยชน์ หรือทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหาย ด้วย

ด้วยเหตุเพราะเลขากฤษฎีกายืนยันแจ้งให้ทราบมาตลอดแล้วว่าทำไม่ได้

อีกทั้งตามระเบียบห้ามนำเสนอหากยังมีปัญหาการขัดแย้งกันอยู่  

ผู้กระทำจึงรู้อยู่แล้วว่าทำไม่ได้แต่ยังขืนทำการทูลเกล้าต่อไป

อันถือเป็นการรบกวนเบื้องพระยุคลบาท 

สมควรได้รับการลงโทษอย่างหนักเพื่อมิให้เป็นเยี่ยงอย่างต่อไปครับ

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top