วันพุธ ที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2568
แนวหน้า
  • แนวหน้า
  • หน้าแรก
  • คอลัมน์
    • คอลัมน์วันนี้
    • คอลัมน์ออนไลน์
    • คอลัมน์การเมือง
    • คอลัมน์ลงมือสู้โกง
    • โลกธุรกิจ
    • ผู้หญิง
    • บันเทิง
    • Like สาระ
    • ดูทั้งหมด
  • ข่าวเด่น
  • พระราชสำนัก
  • การเมือง
  • โลกธุรกิจ
  • อาชญากรรม
  • กทม.
  • ในประเทศ
  • เกษตร
  • ต่างประเทศ
  • กีฬา
  • ผู้หญิง
  • บันเทิง
  • ยานยนต์
  • Like สาระ
หน้าแรก / การเมือง
สลาย'ผ่านฟ้า'เดือด/ศรส.ล้อมปราบตาย4 อำมหิต!ฆ่าประชาชน

สลาย'ผ่านฟ้า'เดือด/ศรส.ล้อมปราบตาย4 อำมหิต!ฆ่าประชาชน

วันพุธ ที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557, 06.00 น.
Tag :
  •  

สลาย'ผ่านฟ้า'เดือด/ศรส.ล้อมปราบตาย4
 
อำมหิต!ฆ่าประชาชน
 
กปปส.ถูกยิง3/ตร.ดับ1-เจ็บอื้อ
 
'เทือก'ประกาศยกระดับชุมนุม
 
สั่งขนทุกเวทีบุกกลาโหมล่า'ปู'
 
หน้าปตท.โดนยึด-จับไปกว่าร้อย

ปฏิบัติการยึดคืนพื้นที่ 5 จุด ที่ถูกผู้ชุมนุมคณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตย
ที่สมบูรณ์อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ปักหลักยึดเอาไว้ประกอบด้วย ทำเนียบรัฐบาล กระทรวงมหาดไทย กระทรวงพลังงาน สะพานผ่านฟ้า และศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ

ตามคำสั่งของ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์รักษาความสงบ (ศรส.) เป็นไปอย่างดุเดือด หลังมีการระดมเจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 25,000 นาย พร้อมอาวุธครบมือ บุกเข้าชิงพื้นที่กระทั่งเกิดความรุนแรงตามมาจนทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4 ราย และบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก


ระดมตร.2.5หมื่นถล่มกปปส.

โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 05.00 น. วันที่ 18 กุมภาพันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เคลื่อนกำลังกว่า 25,000 นาย จากกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค (บช.ภ.) 1 ภาค 2 ภาค 5 ภาค 7 ตำรวจควบคุมฝูงชน ตำรวจหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ชุดปฎิบัติการพิเศษอรินทราช 26 พร้อมรถห้องขัง เดินทางมารวมตัวกันที่บริเวณลานพระบรมรูปทรงม้า เพื่อเตรียมปฏิบัติการขอคืนพื้นที่ตามคำสั่งของ ศรส.

กปปส.ตั้งกำแพงมนุษย์เผชิญหน้า

อย่างไรก็ตาม กลุ่มกปปส.นำโดย นายอิสสระ สมชัย นายพุฒพงษ์ ปุณณกันต์ และ นายชุมพล จุลใส ก็ได้นำมวลชนออกมายืนปักหลักอยู่ที่บริเวณแยกมิสกวัน ใกล้แนวลวดหนาม 3 ชั้น และกระสอบทราย 2 ชั้น ห่างแนวตำรวจด้านหน้า ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกวังแดงเพียง 50 เมตร โดยกลุ่มผู้ชุมนุมได้พากันนั่งคล้องแขนเป็นแนวกำแพงมนุษย์ เพื่อเตรียมรับมือกับการบุกเข้ามายึดพื้นที่รอบทำเนียบรัฐบาลของเจ้าหน้าที่

เวทีมหาดไทยเตรียมรถฉีดน้ำต้าน

ขณะที่เวทีกระทรวงมหาดไทย นายสมศักดิ์ โกศัยสุข แกนนำ กปปส. ได้สั่งการให้นำอุปกรณ์ป้องกันแก๊สน้ำตาและให้จัดกำลังป้องกันไว้ที่บริเวณประตู 2-4 รวมทั้งมีการนำรถฉีดน้ำและรถเก็บขยะมาปิดกั้นที่บริเวณสะพานช้างโรงสี เพื่อรอรับมือกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่ฟ้ายังไม่ทันสางเช่นกัน

ประเดิมยึดคืนกระทรวงพลังงาน

แต่ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จุดที่เจ้าหน้าที่นำกำลังบุกยึดคืนเป็นลำดับแรกกลับเป็นที่กระทรวงพลังงาน ในพื้นที่สำนักงานใหญ่บริษัท ปตท จำกัด (มหาชน) โดยเมื่อเวลา 06.30 น. พล.ต.ท.สุเทพ เดชรักษา ผบช.ภ.5 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ไอยศูรย์ สิงหนาถ ผบก.ประจำ ตชด. ได้นำกำลังตำรวจจำนวน 9 กองร้อย บุกเข้าไปภายในพื้นที่การชุมนุม โดยปีนรั้วเข้ามาทางด้านข้างกระทรวงพลังงาน

จับ“นพ.ระวี”พร้อมผู้ชุมนุม

อย่างไรก็ตาม กลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่ดังกล่าว ก็ไม่ได้แสดงความรุนแรงหรือการต่อสู้ขัดขวาง โดยยังคงนั่งปักหลักอยู่ในพื้นที่ของตัวเองอย่างสงบ ทำให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าควบคุมตัว นพ.ระวี มาศฉมาดล แกนนำ พร้อมด้วยผู้ชุมนุมคนอื่นๆ ทั้งหมด ได้อย่างง่ายดาย ก่อนนำตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องขังไปยัง ตชด.ภ.1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ทันที

อ้างเจอปืน-ระเบิด-ยาเสพติดอื้อ

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำกำลังเข้าตรวจค้นพื้นที่ชุมนุม โดยอ้างว่า พบอาวุธปืนลูกโม่ .38 อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ เครื่องกระสุนจำนวนมาก ระเบิดลูกเกลี้ยง ประทัดยักษ์ ปุ๋ยยูเรีย ยาเสพติด หนังสติ๊ก เสื้อเกราะจำนวนหนึ่ง หมวกเล็ก และอุปกรณ์ยุทธภัณฑ์จำนวนมาก จึงได้เก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐานเพื่อดำเนินคดีต่อไป

“หลวงปู่”พลิกเกมเปิดทางบางจุด

ส่วนที่เวทีศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในขณะที่ตำรวจหลายกองร้อยเตรียมกำลังเข้าขอคืนพื้นที่นั้น ปรากฏว่า หลวงปู่พุทธอิสระ แกนนำ กปปส. ได้ปรับแผนการต่อสู้ โดยสั่งให้มวลชนเข้ารื้อแนวบังเกอร์ ยางรถยนต์ กระสอบทราย รวมถึงสิ่งกีดขวางต่างๆ ที่ผู้ชุมนุมนำไปกั้นขวางไว้บนถนนแจ้งวัฒนะ เพื่อเปิดพื้นที่การจราจรออก พร้อมสั่งยุบพื้นที่ชุมนุมให้เหลือเพียงด้านหน้าศาลปกครองไปถึงหน้าอาคารกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เท่านั้น โดยไม่ให้ขวางทางเข้าออกศูนย์ราชการทั้ง 4 ช่องการจราจร ทั้งนี้เพื่อให้รถยนต์สามารถผ่านเข้าออกศูนย์ราชการโดยใช้เส้นทางเบี่ยงเข้าไปด้านข้างและอ้อมด้านหลังศาลปกครอง

ตำรวจยอมถอยไม่เข้าสลาย

จากนั้น หลวงปู่พุทธอิสระ ได้ติดต่อไปยัง พ.ต.อ.อธิป พงษ์ศิวาไพร ผกก.สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อยืนยันตามข้อตกลงเดิมที่คุยไว้กับ พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ ผบช.ภ.1 ว่า หากผู้ชุมนุมยอมเปิดการจราจรและเปิดทางให้ข้าราชการกลับเข้าทำงานในศูนย์ราชการ จะไม่มีเงื่อนไขให้ตำรวจนำกำลังเข้าสลายการชุมนุม ทำให้ท้ายสุด พล.ท.นเรศ ตัดสินใจไม่นำกำลังเข้ายึดคืนพื้นที่แต่อย่างใด

กำนันนำมวลชนสมทบทำเนียบ

ต่อมาเวลา 07.00 น. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ได้นำมวลชนออกเดินทางจากเวทีปทุมวัน เดินทางมาถึงทำเนียบรัฐบาล เพื่อสมทบกับผู้ชุมนุมที่รออยู่ก่อนหน้านี้ โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีการแจกอุปกรณ์ป้องกันแก๊สน้ำตาให้กับมวลชน พร้อมกับเน้นย้ำให้ยึดแนวทางสงบ สันติ อหิงสา ห้ามใช้ความรุนแรงอย่างเด็ดขาด จากนั้น นายสุเทพ ได้เข้าหารือกับบรรดาแกนนำเพื่อรับมือการบุกยึดพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก่อนจะกล่าวปราศรัยที่บริเวณแยกมิสกวันว่า จะขอยืนหยัดต่อสู้เคียงข้างกับประชาชนตลอด และขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจปฏิบัติต่อมวลชน อย่างมีมิตรไมตรีอย่างเช่นพี่น้อง ห้ามไม่ให้มีการทำร้ายประชาชนเด็ดขาด

“เหลิม”โวต้องยึดคืนทั้งหมด

ด้าน ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รมว.แรงงาน ในฐานะ ผอ.ศรส. ให้สัมภาษณ์ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด (บช.ปส.) ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์บัญชาการ ศรส. ว่า เจ้าหน้าที่สามารถยึดคืนพื้นที่กระทรวงพลังงานได้ตั้งแต่เช้า ส่วนพื้นที่อื่นๆ รวมทั้งศูนย์ราชการ ซึ่งแม้จะมีการเปิดเส้นทางให้แล้ว แต่ก็ต้องยึดคืนทั้งหมด ทุกคนต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย

โวส่งกำลังบุกทุกวันไม่หยุด

ใครก็ตามที่ร่วมอยู่ในพื้นที่ ขอให้กลับบ้าน ไม่เช่นนั้นจะมีความผิดตาม พรก.ฉุกเฉิน และขอเตือน นายสุเทพ อย่าหวังว่าตนจะใช้ความรุนแรงหรือเข้าสลายการชุมนุมตอนกลางคืน พวกตนไม่มี หากค่ำจะหยุด พอสว่างจะมาใหม่ หากหน่วยไหนยึดคืนพื้นที่เรียบร้อยแล้ว จะเสริมกำลังไปที่ทำเนียบรัฐบาล แล้วหากวันนี้ยังขอคืนพื้นที่ไม่ได้ จะทำทุกวันแบบไม่มีวันหยุด

ตร.เจรจาเหลว-กปปส.ไม่หลีก

จากนั้นเวลา 08.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเริ่มปฏิบัติการขอคืนพื้นที่บริเวณรอบทำเนียบรัฐบาล โดย พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รอง ผบช.น. รับผิดชอบพื้นที่แยกมิสกวัน จึงได้เข้าเจรจากับแกนนำ กปปส. โดยอ้างว่าต้องการให้เปิดพื้นที่เพื่อให้นักเรียนสามารถใช้เส้นทางไปเรียนได้ แต่ นายนัสเซอร์ ยีหมะ หัวหน้าการ์ดเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) แย้งว่า ตั้งแต่มาชุมนุมนักเรียนก็มาเรียนได้ตามปกติ เราไม่ได้ไปปิดโรงเรียน และไม่ได้ขวางเส้นทางของนักเรียน จึงไม่ใช่สาระสำคัญที่ตำรวจนำเรื่องนี้มาเจรจา

นอกจากนี้ ผู้ชุมนุมเคยยืนยันให้ความร่วมมือเปิดทางระหว่างมีการจัดงานกาชาดที่สวนอัมพร แต่ก็ต้องมาปิดถนนซ้ำอีก เพราะรัฐบาลและศรส.ประกาศจะมาสลายชุมนุม ดังนั้นจึงไม่ยอมตามข้อเสนอเด็ดขาด ทำให้ พล.ต.ต.อดุลย์ ต้องเดินทางกลับออกไปด้วยสีหน้าที่เคร่งเครียด

ขอถกรอบสองยังล่มไม่เป็นท่า

อย่างไรก็ตาม พล.ต.ต.อดุลย์ ได้กลับมาเจรจาอีกครั้งเป็นรอบที่ 2 กับ นายสกลธี ภัททิยกุล และ นายนัสเซอร์ โดยระบุจะขอคืนแค่พื้นที่ถนนราชดำเนินจากแยกลานพระรูปถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ โดยจะไม่ยุ่งกับถนนพิษณุโลก ซึ่ง นายนัสเซอร์ ได้ยื่นเงื่อนไขกลับไปว่า จะยอมคืนถนนราชดำเนินให้ได้ แต่ตำรวจต้องแถลงข่าวอย่างเป็นทางการว่า จะไม่สลายการชุมนุม ไม่เข้าจับแกนนำ และให้ถอยกำลังออกไปอีก 500 เมตร ซึ่ง พล.ต.ต.อดุลย์ ก็ไม่ยอมรับปาก โดยต่างฝ่ายต่างยืนยันในจุดยืนเดิมของตัวเอง ทำให้สุดท้ายจึงมีการพักเจรจา 1 ชั่วโมง เพื่อให้แต่ละฝ่ายไปทบทวนข้อเสนอ ก่อนกลับมาเจรจากันอีกครั้ง

กปท.คืนพื้นที่จราจรบางส่วน

เวลา 10.00 น. ที่บริเวณแยกสะพานผ่านฟ้าลีลาศ จุดชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนำโดย พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ภ.จว.สระแก้ว ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผบช.ภ.2 ซึ่งเป็นผู้ควบคุมปฏิบัติการในพื้นที่ดังกล่าว ให้เข้าเจรจากับ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ แกนนำ กปท. เพื่อขอคืนพื้นที่จราจร ซึ่งกปท.ก็ยินยอมเปิดการจราจรให้รถสามารถวิ่งผ่านได้บางส่วน พล.ต.ต.ยิ่งยศ จึงนำกำลังเดินทางกลับ

ได้คืบเอาศอก-ไล่บี้เปิดเพิ่ม

แต่เวลาต่อมา ร.ต.แซมดิน กลับได้รับการติดต่อกลับมาเพื่อขอเจรจาเพิ่มเติมอีกครั้ง โดยจะขอคืนพื้นที่จากสะพานผ่านฟ้าไปจนถึงสะพานมัฆวานรังสรรค์ทั้งหมด แต่ครั้งนี้ ร.ต.แซมดิน ได้ปฏิเสธที่จะทำตาม โดยระบุว่า ผู้ชุมนุมก็ยอมเปิดทางให้แล้ว แต่ตำรวจได้คืบจะเอาศอก ดังนั้นจึงต้องปฏิเสธไม่ยอมทำตาม

เดือด!ยกกำลังบุกถล่มทันที

จากนั้นเวลา 10.45 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจจากกองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 หลายพันนาย พร้อมโล่ กระบอง แก๊สน้ำตา และอาวุธปืนครบมือ รวมทั้งรถไถ ได้ตั้งแถวดาหน้าเข้าประชิดพื้นที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า จนเกิดการเผชิญหน้ากับกลุ่มผู้ชุมนุม กปท. โดย นายสมเกียรติ พงษ์ไพบูลย์ แกนนำผู้ชุมนุม กปท. ได้พยายามเข้าเจรจากับเจ้าหน้าที่เพื่อให้ถอยออกไป แต่ปรากฏว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ยินยอม ซ้ำยังพยายามผลักดันรุกเข้ามา

จับ“สมเกียรติ”-เริ่มสลายชุมนุม

ทั้งนี้ผู้ชุมนุมพยายามช่วยกันผลักดันต่อต้านเอาไว้ แต่ก็ไม่สามารถสกัดการบุกของเจ้าหน้าที่เอาไว้ได้ รวมทั้งมีการจับกุม นายสมเกียรติ ไปควบคุมตัวเอาไว้ ขณะที่ผู้ชุมนุมที่เหลือซึ่งส่วนใหญ่เป็นผู้หญิงและคนชรา ได้หันมาใช้วิธีการนั่งขวางถนน สวดบทพระพุทธมนต์อิติปิโส แต่ก็ยังไม่วายถูกเจ้าหน้าที่เข้ามาอุ้มตัวไปคุมขังไว้ที่รถควบคุมผู้ต้องหาอีกหลายสิบคน

ประเคนแก๊สน้ำตารุกไล่

จากนั้น เจ้าหน้าที่จึงตัดสินใจนำรถไถเข้าเคลียร์พื้นที่ โดยเกลี่ยกระสอบทรายและแบริเออร์ที่ผู้ชุมนุมนำมาวางขวางถนนเอาไว้ จนกลุ่มผู้ชุมนุมต้องถอยร่นจากบนสะพานผ่านฟ้า แตกกระเจิงไปทางสนามมวยเวทีราชดำเนิน โดยเจ้าหน้าที่พยายามรุกไล่ด้วยการระดมยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยางเข้าใส่อย่างต่อเนื่อง ทำให้ผู้ชุมนุมหลายรายได้รับบาดเจ็บ ขณะที่ สมณะโพธิรักษ์ แกนนำผู้ชุมนุมได้ขึ้นเวทีปราศรัยสั่งมวลชนห้ามตอบโต้เจ้าหน้าที่เด็ดขาด ทำให้ผู้ชุมนุมบางส่วนยังมีการนั่งลงและสวดมนต์อย่างต่อเนื่อง

เจอแซนวิช-งัดเอ็ม16ยิงม็อบ

ทั้งนี้ในระหว่างที่เจ้าหน้าที่การรุกคืบเพื่อเข้าเคลียร์พื้นที่ และรื้อเต็นท์ของฝ่าย กปท. นั้น ปรากฏว่า มีมวลชนกลุ่มหนึ่ง ได้พากันบุกเข้ามาเพื่อให้การช่วยเหลือผู้ชุมนุมที่บริเวณสะพานผ่านฟ้า โดยเข้ามาทางด้านหลังของเจ้าหน้าที่ ทำให้ฝ่ายตำรวจต้องตกอยู่ในสภาพโดนประกบทั้งด้านหน้าและด้านหลัง จึงทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องตัดสินใจฝ่าวงล้อมถอยออกมา ก่อนที่จะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจบางนายใช้อาวุธปืนเอ็ม 16 และ ปืนพกสั้น ยิงใส่กลุ่มผู้ชุมนุมเพื่อเปิดทางให้ตัวเองหนี ทำให้มีผู้ชุมนุมได้รับบาดเจ็บและล้มลงไปหลายราย จนต้องมีการประสานทีมแพทย์อาสาและหน่วยกู้ภัยมาให้ความช่วยเหลือกันอย่างโกลาหล ขณะที่ผู้ชุมนุมบางส่วน ทนไม่ไหว จึงคว้าก้อนหินและขวดน้ำปาเข้าใส่เจ้าหน้าที่เพื่อตอบโต้

เอ็ม79หล่นกลางวงตำรวจ

จากนั้นสถานการณ์ก็เริ่มเลวร้ายขึ้นไปอีก เมื่อภายหลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ลั่นไกยิงใส่ผู้ชุมนุมจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก ก็ได้เกิดเหตุระเบิดซึ่งคาดว่ามาจากอาวุธเอ็ม 79 ขึ้นมาจนเสียงดังสนั่นหวั่นไหวเข้าใส่กลางวงของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บล้มลงนอนเกลื่อนพื้นถนน จนหน่วยกู้ภัยที่อยู่ใกล้เคียงต้องเข้าให้การช่วยเหลือนำส่งโรงพยาบาลอย่างชุลมุนวุ่นวาย ท่ามกลางเสียงปืนที่ยังคงดังอยู่เป็นระยะ

กปท.ยึดคืนผ่าฟ้า-ตร.กระเจิง

ห้วงนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งและการ์ดอาสาเริ่มเกิดความฮึกเหิม จึงพากันวิ่งกรูตีโต้กลับเข้าหาเจ้าหน้าที่ จนฝ่ายตำรวจพลาดท่าต้องพากันถอยร่นกลับไปทางอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยกันอย่างไม่เป็นขบวน และต้องทิ้งยานพาหนะประกอบด้วยรถตู้ของ บช.ภ.2 จำนวน 1 คัน และรถกระบะสังกัดเดียวกันอีก 2 คันกลับไปได้ จึงผู้ชุมนุมทุบทำลายด้วยอารมณ์คับแค้นจน กระทั่งเหตุการณ์ผ่านพ้นไป โดยกลุ่มผู้ชุมนุมสามารถยึดพื้นที่กลับคืนมาได้ตามเดิม จึงช่วยกันทำการซ่อมแซมบังเกอร์และเต๊นท์ชุมนุมทันที

ชายนิรนามบุกช่วย“สมเกียรติ”

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า หลังเหตุชุลมุนสงบลง ปรากฏว่า นายสมเกียรติ ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัวออกไปแล้ว กลับมาปรากฏตัวที่เต็นท์ผู้ชุมนุมบริเวณสะพานผ่านฟ้า โดย นายสมเกียรติ เปิดเผยว่า ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจใส่กุญแจมือคุมตัวไว้ที่รถผู้ต้องขังเป็นเวลา 20 นาที ต่อมามีนายตำรวจระดับผู้บังคับบัญชาได้มาถามว่า ไม่หนีใช่ไหม จึงตอบไปว่า ไม่หนี นายตำรวจผู้นั้นจึงสั่งให้ถอดกุญแจมืออก

“จากนั้นอีก 15 นาที ได้มีชายนิรนามไปช่วยผม เพราะขณะนั้นมีการยิงกันมาก รวมทั้งมีการโยนระเบิด ตำรวจที่เฝ้าผมวิ่งหลบไป มีชายนิรนาม 3 คน เข้ามาช่วย เขาดึงผมออกมาจากรถ บอกว่า รีบมาๆ ผมจึงกระโดดลงมา ระหว่างที่ชายนิรนาม 3 คน พาผมหนีหนึ่งในนั้นก็ถูกยิงขาบาดเจ็บด้วย ซึ่งผมไม่รู้ว่าเขาคือใคร เขามาช่วยผมแล้วก็ไป” นายสมเกียรติ กล่าว

“แซมดิน”มึนไม่รู้ใครช่วย

ขณะที่ ร.ต.แซมดิน เปิดเผยว่า ขณะที่ตำรวจรุกเข้ามาเรื่อยๆ ประชาชนก็ถอยร่นเข้ามาในเวที ขณะนั้นมีผู้ที่อยู่รอบนอกการชุมนุมไม่ทราบว่าเป็นใคร มีทั้งระเบิดอาวุธยิงไปที่ตำรวจ ทำให้ตำรวจบาดเจ็บหลายนาย ส่วนฝั่งผู้ชุมนุมก็มีผู้บาดเจ็บเช่นกัน แต่ยังไม่ทราบจำนวน เราพยายามควบคุมมวลชนของเรา ไม่ให้ไปขว้างปาตำรวจ ประชาชนเราไม่มีอาวุธอะไร เมื่อถูกยิงก็โมโห เอาขวดไปปาตำรวจ เราก็พยายามห้ามปราม

“คนที่ยิงเข้ามานั้นอยู่คนละทางกับผู้ชุมนุม เพราะผู้ชุมนุมจะอยู่ทางเวทีสะพานผ่านฟ้า แต่มีการยิงมาจากทางวัดปรินายก ซึ่งอยู่นอกเขตของเรา ไม่ทราบว่าเป็นใครมาจากฝ่ายไหน” ร.ต.แซมดิน กล่าว

แฉ20ชายฉกรรจ์ปฏิบัติการถล่ม

ทั้งนี้มีรายงานจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจแจ้งว่า เหตุปะทะกันที่เกิดขึ้นนั้น มีผู้พบเห็นชายฉกรรจ์ประมาณ 20 คน สวมชุดเกราะกันกระสุนนั่งรถกระบะมาที่แยกเทวกรรม จากนั้นได้กระจายกำลังออกไป โดยมีการยิงเครื่องยิงลูกระเบิดเอ็ม 79 และใช้สไนเปอร์ซุ่มยิงเข้ามายังจุดที่มีกำลังมีการเผชิญหน้าระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสลายชุมนุมกับกลุ่มกปท. โดยเบื้องต้นคาดว่า จะเป็นฝีมือของกลุ่มมือที่ 3

กปปส.กร้าวล้มโต๊ะเจรจาทันที

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากเหตุการณ์ปะทะกันระหว่าง กปท. กับเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณแยกสะพานผ่านฟ้า ทำให้แกนนำ กปปส. ที่อยู่บริเวณแยกมิสกวันประกาศล้มเลิกการเจรจาที่ยังค้างอยู่กับฝ่ายตำรวจทันที โดย นายพุทธิพงศ์ ปุณณกันณ์ และ นายชุมพล จุลใส ได้ขึ้นประกาศบนเวทีปราศรัยว่า จะไม่ยอมรับข้อเสนอใดๆ จากตำรวจ และปักหลักชุมนุมต่อไป โดยไม่มีการเปิดทางหรือคืนพื้นที่ให้อย่างเด็ดขาด

สุเทพเย้ย“เหลิม”เป็นหมาแล้ว

ขณะที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เลขาธิการ กปปส. ปราศรัยว่า จากนี้ไป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะไม่มีโอกาสได้เข้ามาเหยียบทำเนียบรัฐบาลได้อีก ส่วนการเดินทางมาในวันนี้ มาตามคำท้าของ ร.ต.อ.เฉลิม แต่ ร.ต.อ.เฉลิม กลับไม่กล้ามา จึงถือว่าเป็นหมาแล้ว

จากนั้น นายสุเทพ จึงได้นำมวลชนกลับที่เวทีปทุมวัน โดยที่ทำเนียบรัฐบาลจะมี นายอิสระ สมชัย พร้อมผู้ชุมนุมอีกส่วนหนึ่งปักหลักดูแลต่อไป

ตร.ไม่กล้าบุกมหาดไทย

ส่วนสถานการณ์การขอคืนพื้นที่กระทรวงมหาดไทยนั้น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.20 น. ตำรวจประมาณ 4 กองร้อย ประกอบด้วย ตำรวจตระเวนชายแดนและตำรวจภูธรภาค 6 ได้เคลื่อนขบวนออกจากสนามหลวงมาตรึงกำลังที่บริเวณด้านข้างกระทรวงกลาโหม ซึ่งอยู่ห่างจากกระทรวงมหาดไทย 200-300 เมตร แต่ก็ไม่ได้มีการเข้าไปปฏิบัติการใดๆ กระทั่งเวลา 13.00 น. จึงได้รับคำสั่งให้ถอนกำลังกลับ

สั่งถอนกำลังกลับเรียบวุธ

ขณะที่เวลา 14.00 น. พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. เปิดเผยว่า ตำรวจชุดปราบปรามจราจลที่ตรึงกำลังบริเวณใกล้แยกสวนมิสกวันและรอบๆ ทำเนียบรัฐบาล ได้ถอนกำลังกลับเข้า บช.น. ตามที่กลุ่มผู้ชุมนุมร้องขอแล้ว ส่วนการเจรจาขอคืนพื้นที่นั้น ต้องรายงานข้อเสนอของกลุ่มผู้ชุมนุมในเบื้องต้นก่อน หลังจากนั้นจึงค่อยมีการประสานกันอีกครั้ง เพื่อหาข้อสรุป

“ริต”มั่วอ้างยึดศูนย์ราชการได้

ด้าน นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีดีเอสไอ และ กรรมการ ศรส. แถลงว่า เจ้าหน้าที่สามารถยึดคืนพื้นที่สำเร็จ 2 ที่ คือ กระทรวงพลังงาน และศูนย์ราชการ พร้อมกับจับกุม 2 แกนนำ คือ นพ.ระวี มาศฉมาดล และ นายทศพล แก้วทิมา พร้อมการ์ดรวมทั้งผู้ร่วมกระทำผิดรวม 144 คน เป็นชาย 96 คน และหญิง 48 คน เป็นความผิดซึ่งหน้าฝ่าฝืน พรก.ฉุกเฉิน

โยนบาปม็อบยิงเอ็ม79-ตร.เจ็บ17

สำหรับพื้นที่อื่นๆอีก3พื้นที่อยู่ระหว่างดำเนินการทั้งการเจรจา การลาดตระเวนกดดัน และการใช้ยุทธวิธีต่างๆโดยจะไม่ใช้วิธีสลายการชุมนุมอย่างแน่นอนอีกทั้งน่าเสียใจเจ้าหน้าที่ หลีกเลี่ยงการใช้กำลัง เจรจาตามขั้นตอนอย่างเปิดเผย แต่ผู้กระทำผิดใช้อาวุธร้ายแรงยิงอาวุธสงครามเอ็ม 79 และอาวุธปืน ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจถูกยิงที่ศีรษะ 1 นาย บาดเจ็บรวม 17 นาย และขอยืนยันตำรวจไม่ได้ใช้อาวุธร้ายแรง

สรุปปะทะตาย4เจ็บ64

เย็นวันเดียวกัน ศูนย์เอราวัณ สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร ได้รายงานสรุปยอดเหตุปะทะที่สะพานผ่านฟ้า มีผู้เสียชีวิต 4 คน เป็นผู้ชุมนุม 3 ราย ตำรวจ 1 ราย ประกอบด้วย ด.ต.เพียรชัย ภารวัตร มีบาดแผลที่หน้าอก นายสุพจน์ บุญรุ่ง อายุ 52 ปี มีบาดแผลถูกยิงที่ศีรษะ นายธนูศักดิ์ รัตนคช มีบาดแผลถูกยิงที่หน้าอกซ้าย อีกรายเป็นชายไทยไม่ทราบชื่อ มีบาดแผลใต้ราวนม ส่วนผู้บาดเจ็บมีทั้งสิ้น 64 ราย

“ไอ้ตู่”อ้างเสื้อแดงตายมากกว่าเยอะ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำกลุ่มเสื้อแดง กล่าวว่า ขณะนี้ นายสุเทพ พยายามจะยื้อเวลาชุมนุมต่อไปเรื่อยๆ แม้มีคนชุมนุมเหลือน้อยหวังรอเวลาให้องค์กรอิสระเข้ามาจัดการรัฐบาล แต่หากจะจบได้ ก็มีทางเดียวคือ ร.ต.อ.เฉลิม จะต้องจับตัว นายสุเทพ ให้ได้ เพราะไม่มีทางออกอื่นแล้ว ส่วนเหตุการณ์ปะทะในการขอคืนพื้นที่ เป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เป็นการทำตาม พรก.ฉุกเฉิน ซึ่งการกระทบกระทั่งที่เกิดขึ้นที่สะพานผ่านฟ้าถือว่า เล็กมาก หากเทียบกับการสลายคนเสื้อแดงปี 2553 ที่มีคนบาดเจ็บล้มตายจำนวนมาก

“ทนาย”รุดช่วยผู้ชุมนุมถูกจับ

บ่ายวันเดียวกัน ที่กองบังคับการตำรวจตระเวนชายแดน ภาค 1 ต.คลองห้า อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี นายสำนวน ประพิณ ตัวแทนทนายความของกลุ่ม กปปส. ได้เดินทางเพื่อขอเข้าเยี่ยมกลุ่มผู้ชุมนุมที่ถูกควบคุมตัวหลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมในการขอพื้นที่หน้ากระทรวงพลังงาน โดยยืนยันว่า การเข้าสลายชุมนุมครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดคำสั่งศาลเพ่งที่เคยมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวกลุ่มผู้ชุมนุม แต่ตำรวจกลับทำการอย่างรุนแรง

“ถาวร”ลุ้มศาลสั่งล้มพรก.

ขณะที่ นายถาวร เสนเนียม แกนนำ กปปส. กล่าวถึงกรณีศาลแพ่งนัดฟังคำพิพากษากรณีขอให้เพิกถอน พรก.ฉุกเฉิน ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ ว่า ไม่ว่าคำพิพากษาผลเป็นอย่างไรก็พร้อมยอมรับ แต่ขอฝากรัฐบาล หากผลไม่เป็นที่พอใจ อย่านำมวลชนคนเสื้อแดงมาปิดล้อมศาล ส่วนกรณีแกนนำที่ถูกจับ ทางกปปส.จะไม่ร้องขอใดๆจากรัฐบาล แต่จะปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และยืนยันอีกว่า จะไม่ยินยอมคืนพื้นที่ต่างๆ ให้อย่างแน่นอน เราไม่กลัวตำรวจจะเข้าสลายการชุมนุม

มอบ25ล้านช่วยชาวนาฟ้อง

บ่ายวันเดียวกัน ที่เวทีปทุมวัน นายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย และ นายวิทยา แก้วภราดัย แกนนำ กปปส. ได้ทำพิธีมอบเงิน 25 ล้านบาทให้แก่ นายเดชอุดม ไกรฤทธิ์ นายกสภาทนายความ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายดำเนินคดีกรณีที่ชาวนาจะฟ้องร้องทวงเงินโครงการรับจำนำข้าวจากรัฐบาล และมอบเงิน 2.2 ล้านบาท ให้ครอบครัวชาวนาที่ฆ่าตัวตายจากผลกระทบโครงการรับจำนำข้าว 11 ครอบครัวๆ ละ 2 แสนบาท โดยมีครอบครัวชาวนามารับมอบ7 ครอบครัว เหลือ 4 ครอบครัว จะติดต่อมอบเงินต่อไป ขณะที่ นายเดชอุดม ยืนยันว่า สภาทนายความจะช่วยเหลือในการฟ้องร้องอย่างเต็มที่

“เทือก”สลดผู้ชุมนุมเสียชีวิต

ต่อมาเวลา 20.00 น. นายสุเทพ ได้ขึ้นกล่าวปราศรัยบนเวทีปทุมวันว่า รู้สึกเสียใจมากต่อเหตุการณ์ที่สะพานผ่านฟ้า ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 4 ราย และบาดเจ็บ 64 ราย จึงของแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้งหมด ไม่ว่าฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจหรือผู้ชุมนุม โดยเฉพาะ นายสุพจน์ บุญรุ่ง ที่ช่วยโบกธงชาติระหว่างการชุมนุมของ กปปส. หลายต่อหลายครั้ง

จวก“ปู-เหลิม-ดุลย์”ฆ่าคนตาย

จากนั้น นายสุเทพ ได้เปิดภาพถ่ายและคลิปเหตุการณ์ระหว่างการสลายชุมนุมของเจ้าหน้าที่ ซึ่งบางภาพเป็นเหตุการณ์ในระหว่างที่มีการใช้อาวุธปืนยิงใส่ผู้ชุมนุม พร้อมระบุว่า การชุมนุมครั้งนี้เรายึดแนวทางสันติอหิงสามาตลอด และตอนแรกก็มีการเจรจากันดีๆ แต่จู่ๆ ศรส. ก็มีคำสั่งให้นำกำลังบุกเข้ามา ซึ่ง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ร.ต.อ.เฉลิม และ พล.ต.อ.อดุลย์ รวมทั้งนายตำรวจที่ร่วมปฏิบัติการทั้งหมด ต้องรับผิดชอบ โดยยืนยันจะให้มีการดำเนินคดีกับบุคคลทั้งหมดฐานฆ่าคนตาย

ลั่นไม่ยอมแพ้-ไม่เจรจา

นายสุเทพ กล่าวอีกว่า ก่อนหน้านี้มีคนมาส่งข่าวว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ พร้อมที่จะลาออก แต่จะต้องมีคนกลางมาเป็นนายกฯและเป็นคนกลางที่ฝ่ายตัวเองเห็นชอบด้วย แถมยังมีหน้ามาบอกว่า ถ้าลาออกเพราะแพ้ประชาชนไม่ยอม ตนจึงบอกคนที่มาส่งข่าวว่า พวกเราประชาชนก็ไม่ยอมแพ้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เหมือนกัน พวกเราไม่มีอะไรต้องสูญเสียอีกแล้ว ชีวิตพวกเรามันยังทำได้ถึงขนาดนี้ ทุกข์ยากลำบาก น้ำตานองหน้าทั้งแผ่นดิน ยังมีหน้ามาบอกว่า ไม่ยอมแพ้ประชาชน ดังนั้นเราจึงไม่ขอยอมแพ้ยิ่งลักษณ์ และขออย่าให้มีใครมาเจรจาอีก

ลั่นมีกำลังอีกเท่าไรเอามาเลย

“ผมขอประกาศแทนพี่น้องประชาชนว่าจะไม่ยอมแพ้ตระกูลชินวัตรอีก ถ้าจะให้เรามีชีวิตในสภาพขี้ข้าตระกูลชินวัตรเราขอตายดีกว่า มาเลย มีกำลังอีกเท่าไหร่ก็ส่งมาเลย ไม่มีการเจรจาต่อรอง พวกชินวัตร อยู่ได้ เราก็อยู่ไม่ได้ ตั้งแต่พรุ่งนี้ เป็นต้นไป จะยกระดับการต่อสู้ให้ถึงตัวยิ่งลักษณ์ชินวัตร ไม่กลัวอีกแล้ว เราประชาชน ไม่ทนอีกต่อไป”

เปิดหน้าชน-ยกระดับล่าทุกที่

นายสุเทพ ประกาศว่า ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ กปปส. จะเดินทางไปล้อมที่สำนักปลัดกระทรวงกลาโหม โดยตนจะเป็นผู้นำไปเอง ไปกันทุกเวที และขอความช่วยเหลือจากพี่น้องประชาชนทุกคนช่วยบริจาครถด้วย ใครมีรถกระบะ ใครมีรถ 6 ล้อ 10 ล้อ ขอให้มาช่วยหน่อย เอารถมาเวลา 9.00 น. ทุกเวทีมุ่งหน้าไปสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม ถ้ายิ่งลักษณ์หนีไปทำเนียบ เราก็ไปทำเนียบ ไปทุกที่ที่ยิ่งลักษณ์ไป ไล่ทุกวัน ไม่นั่งเฝ้าเวทีแล้ว จะฆ่าจะแกงก็มาเลย ไม่กลัวแล้ว 

เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เปิดคลิปนาที! \'ลุงป้อม\'เดินพลาดตกบันไดวัดโพธิ์ หลังกลับจากทำบุญ เปิดคลิปนาที! 'ลุงป้อม'เดินพลาดตกบันไดวัดโพธิ์ หลังกลับจากทำบุญ
  • ‘ภูมิธรรม’ดันสร้างเขื่อนกรองสารพิษ ‘แม่น้ำกก-สาย’ ป้องกันปัญหาในระยะยาว ‘ภูมิธรรม’ดันสร้างเขื่อนกรองสารพิษ ‘แม่น้ำกก-สาย’ ป้องกันปัญหาในระยะยาว
  • ‘พันธุ์ใหม่’เสียงอ่อย! ‘นันทนา’รับล่ารายชื่อ‘สภาสูง’ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แค่ 10 คน ‘พันธุ์ใหม่’เสียงอ่อย! ‘นันทนา’รับล่ารายชื่อ‘สภาสูง’ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แค่ 10 คน
  • ‘สนธิญา’ยื่น‘กกต.’สอบ‘เพื่อไทย’ เลื่อนแจก‘เงินหมื่น’ส่อขัดรธน.หรือไม่ ‘สนธิญา’ยื่น‘กกต.’สอบ‘เพื่อไทย’ เลื่อนแจก‘เงินหมื่น’ส่อขัดรธน.หรือไม่
  • \'วันนอร์\' เบรก กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯเอาไว้ก่อน! ยันพร้อมเปิดวิสามัญถกงบฯปี69 'วันนอร์' เบรก กม.เอ็นเตอร์เทนเมนต์ฯเอาไว้ก่อน! ยันพร้อมเปิดวิสามัญถกงบฯปี69
  • \'ภูมิธรรม\'บอกยังไม่ได้คุย\'อนุทิน\'หลังโดนยื่นยุบพรรค ชี้ เป็นเรื่องของภูมิใจไทย 'ภูมิธรรม'บอกยังไม่ได้คุย'อนุทิน'หลังโดนยื่นยุบพรรค ชี้ เป็นเรื่องของภูมิใจไทย
  •  

Breaking News

เปิดคลิปนาที! 'ลุงป้อม'เดินพลาดตกบันไดวัดโพธิ์ หลังกลับจากทำบุญ

‘ภูมิธรรม’ดันสร้างเขื่อนกรองสารพิษ ‘แม่น้ำกก-สาย’ ป้องกันปัญหาในระยะยาว

'ไอ้มุ้ย'แฟนหนุ่ม'สาวน้ำ'มือสั่ง 5 สมุนอุ้มสังหาร'ดีเจเตเต้'เขาคือใคร?

‘พันธุ์ใหม่’เสียงอ่อย! ‘นันทนา’รับล่ารายชื่อ‘สภาสูง’ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ได้แค่ 10 คน

Back to Top

ผู้ดูแลเว็บไซต์ www.naewna.com
webmaster นางสาวอัญชะลี ไพรีรัก
ดูแลรับผิดชอบข่าว/ภาพ/โฆษณา/ข้อมูลอื่นที่เกียวข้องกับเว็บไซต์
กรรมการบริษัทฯ, กรรมการผู้มีอำนาจ ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการนำเสนอข่าว/ภาพ/ข้อมูลใดๆในเว็บไซต์ทั้งสิ้น

Social Media

  • หน้าแรก |
  • เกี่ยวกับแนวหน้า |
  • โฆษณากับเรา |
  • ร่วมงานกับเรา |
  • ติดต่อแนวหน้า |
  • นโยบายข้อตกลง
Copyright © 2017 Naewna.com All right reserved