‘อนุทิน’ลุยขับเคลื่อนประเทศ เปิดตัว3รมต.คนนอก ‘เอกนิติ’รับตำแหน่งขุนคลัง ‘สีหศักดิ์’คุมต่างประเทศ ‘อรรถพล’นังรมว.พลังงาน

‘อนุทิน’ลุยขับเคลื่อนประเทศ เปิดตัว3รมต.คนนอก ‘เอกนิติ’รับตำแหน่งขุนคลัง ‘สีหศักดิ์’คุมต่างประเทศ ‘อรรถพล’นังรมว.พลังงาน

วันอาทิตย์ ที่ 7 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

‘อนุทิน’ลุยขับเคลื่อนประเทศ
เปิดตัว3รมต.คนนอก
‘เอกนิติ’รับตำแหน่งขุนคลัง
‘สีหศักดิ์’คุมต่างประเทศ
‘อรรถพล’นังรมว.พลังงาน
‘อิ๊งค์’ขนของออกจากทำเนียบ

ว่าที่นายกฯอนุทิน เร่งเคลียร์งานขับเคลื่อนประเทศ พร้อมเปิดว่าที่ 3 รมต.คนนอก “เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ-สีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว-อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์” ร่วมโต๊ะกาแฟ-เค้กส้ม แย้มยังมีคนนอกอีก ชี้ 4 เดือนนี้ ต้องทำงานทุกวันให้เกิดผลงาน ส่วนฝ่ายค้านซึมยาวอดีตรัฐมนตรี ขนของกลับบ้าน ทั้งนัดประชุม 9 กันยายน “นพดล ปัทมะ” โบกมือลาพรรคเพื่อไทย

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2568 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศความเคลื่อนไหวภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับเลือกจากที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนที่32


โดยตั้งแต่ช่วงเช้า ได้มีการจัดเตรียมพื้นที่ เพื่อรองรับงานสำคัญ ภายหลังจากที่เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ได้นำรายชื่อนายอนุทิน ว่าที่นายกฯขึ้นทูลเกล้าฯ เพื่อรอพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตามขั้นตอนต่อไป

ทั้งนี้ มีแจกันดอกไม้ จากบริษัทเอกชนทยอยส่งมาที่พรรคภูมิใจไทยเพื่อแสดงความยินดีกับว่าที่นายกรัฐมนตรีคนที่ 32 อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีผู้ที่ส่งช่อดอกไม้มาแสดงความยินดี รวมไปถึงต้นกล้วยไม้สีขาวก้านยาว ในกระถางพลาสติกสีเขียวอ่อนขนาดใหญ่ ประมาณ 1 คนโอบ ติดนามบัตรมีชื่อของนายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด ขณะที่ช่วงเช้าที่ผ่านมานายอนุทิน ยังไม่ได้เดินทางมาที่ทำการพรรค แต่มีรายงานว่าจะเดินทางมาในช่วงบ่าย โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา นายอนุทินแจ้งว่าจะมีการประชุม เพื่อเตรียมขับเคลื่อนงานทันที

“อนุทิน”เข้าพรรคถกแกนนำลุยงาน

จากนั้น เวลา 12.00 น.นายอนุทิน ได้เดินทางเข้าที่ทำการพรรคภูมิใจไทย ด้วยรถหรูโรลส์-รอยซ์ (Rolls-Royce) ด้วยท่าทีผ่อนคลาย สีหน้ายิ้มแย้ม โดยสวมเสื้อฮาวายลายใบไม้ ซึ่งทันทีที่นายอนุทิน มาถึงผู้สื่อข่าวพยามขอสัมภาษณ์ แต่นายอนุทิน ขอตัวขึ้นไปประชุมก่อนและระบุว่าขณะนี้ยังไม่มีข่าว

ขณะที่พรรคภูมิใจไทยเตรียมความพร้อมในการจัดงานพิธีสำคัญภายหลังมีแกนนำพรรค และว่าที่รัฐมนตรีตามโผ ครม.หนู 1 ในโควตาของพรรค อาทิ นายภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ แกนนำพรรคภูมิใจไทย เป็นต้น

ต่อมา นางณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี (เลขาฯ ครม.) ได้เดินทางมาที่พรรคภูมิใจไทย โดยมีน.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล นายทะเบียนสมาชิกพรรค อดีตเลขานุการรมว.มหาดไทย ได้พาขึ้นไปยังด้านบนที่ทำการพรรคฯ คาดว่าจะพบกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ว่าที่นายกรัฐมนตรี) เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับรายละเอียด การส่งประวัติของคณะรัฐมนตรีในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล

โผครม.‘หนู 1’ชัด3โควต้าคนนอก

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการเคลื่อนไหวการการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี“ครม.อนุทิน 1”ภายหลังนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีล่าสุด มีความชัดเจนจากโควต้าคนนอกแล้ว 3 รายชื่อ

ประกอบด้วย นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตซีอีโอปตท.จะมารับตำแหน่งเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน, นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีบดีกรมธนารักษ์ รับตำแหน่ง ว่าที่ รมว.คลัง, นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศจะรับมารับตำแหน่ง ว่าที่รมว.ต่างประเทศ

มีรายงานข่าวล่าสุดว่า ทั้ง3 คนนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตซีอีโอปตท. นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อดีบดีกรมธนารักษ์ และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศได้เดินทางเข้า ที่ทำการพรรคภูมิใจไทยพร้อมได้คุยกับนายอนุทินแล้ว

ว่าที่นายกฯแจงยาว

เมื่อเวลา 14.40 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล ว่าที่นายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคภท.ได้เปิด 3 ว่าที่รัฐมนตรีคนนอก นายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ อธิบดีกรมธนารักษ์ และนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศ อดีตปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และนายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ อดีตประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ร่วมรับประทานกาแฟและเค้กส้ม ที่ร้านจาริสต้า ชั้น 1 ที่พรรค โดยมีนายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ร่วมด้วย

ด้านนายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว กล่าวว่า ได้รับการทาบทามให้มานั่งในตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ ซึ่งก็จะทำให้ดีที่สุด เมื่อถามว่า ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา ในขณะนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าหนักใจหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ยอมรับว่าเรื่องไทย-กัมพูชา ถือเป็นเรื่องเร่งด่วนที่จะต้องรีบแก้ไขปัญหา เมื่อถามว่า เรื่องนี้ถือว่าหนักหนาสาหัสหรือไม่ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เรามีแนวทางอยู่แล้วรอให้เขาแถลงนโยบายก่อน ปัญหาที่เกิดขึ้นถือเป็นเรื่องสำคัญทั้งนั้น ทั้งเรื่องชายแดนและเอ็มโอยู

ขณะที่นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์ระหว่างร่วมโต๊ะรับประทานกาแฟว่า ทั้งหมดถือว่าชัดเจน ได้ตอบรับคำเชิญเรา จะได้ไม่มาคาดการณ์ว่าใครไปอยู่ไหนอย่างไร เพราะเวลาเราน้อย เราจะได้เริ่มเตรียมงานเตรียมการประสานกัน หลังจากที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแล้ว ซึ่งตอนนี้เราก็ได้ประสานงานกันไว้ก่อน พอคณะรัฐมนตรี(ครม.)เข้าเฝ้าเพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณต่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะได้ทำงานได้เลย

รมต.เตรียมทะยอยมาอีก

เมื่อถามว่า ครม.คนนอก ที่อยู่ตรงนี้แล้วมีอีกหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มีอีก จะค่อยๆ ทยอยมาและจะได้แจ้งให้ประชาชนทราบ เมื่อถามว่า จะมีกระทรวงไหนบ้าง นายอนุทินกล่าวว่า ที่แน่ๆ กระทรวงการคลัง กระทรวงการต่างประเทศ และกระทรวงพลังงาน เมื่อถามว่าจุดประสงค์ที่ใช้รัฐมนตรีคนนอก เราคาดหวังอย่างไร โดยเฉพาะกระทรวงการคลัง จะให้มีการกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างไร ในระยะเวลา 4 เดือน นายอนุทิน กล่าวว่า เศรษฐกิจทั้งจุลภาคและมหภาค ทางว่าที่รมว.คลัง ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ในกระทรวงการคลัง มาโดยตลอดอยู่แล้ว ผ่านงานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นอธิบดีมาหลายกรม เป็นผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ผู้อำนวยการสำนักงานรัฐวิสาหกิจ อธิบดีกรมสรรพากร อธิบดีกรมสรรพสามิต อธิบดีกรมธนารักษ์ และท่านยังมีความสามารถในการประสานงาน ทำงานกับข้าราชการประจำ ซึ่งจะทำให้การทำงานนั้นต่อเนื่องไม่มีปัญหา

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีข่าวว่าจะฟื้นโครงการคนละครึ่ง นายอนุทินกล่าวว่า อะไรที่เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชน และเป็นความต้องการของประชาชน วันนี้ก็ดูเต็มฟีด ซึ่งก็ได้มีการมอบหมายให้ว่าที่รมว.คลัง ได้พิจารณา หลังจากเข้าปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์แล้วก็จะเร่งดำเนินการ เพราะเวลาเรามีไม่มาก อะไรที่ดีอยู่เราก็จะทำต่อ ไม่ใช่ว่าเราเข้าไปแล้ว นโยบายนี้ไม่ใช่ของเราแล้วเราไม่ทำ ล้มไป แล้วทำให้ประชาชนเดือดร้อน ซึ่งสิ่งนี้เราจะไม่ทำ

ขณะที่ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาไทย-กัมพูชาที่มีการเสนอให้ยกเลิกเอ็มโอยู 43-44 จะมีการพิจารณาอย่างไร นายอนุทิน กล่าวว่า ถ้าเอ่ยชื่อถึงนายสีหศักดิ์ คนที่อยู่ในแวดวงของการทูตหรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศและเศรษฐกิจก็น่าจะมีความพึงพอใจและมั่นใจ อย่างที่บอกว่ารัฐบาลนี้เข้ามาท่ามกลางปัญหาเกิดขึ้นอยู่ และจะต้องได้รับการแก้ไขโดยเร็ว เพราะฉะนั้น เราจะต้องนำผู้ที่เป็นที่ยอมรับของนานาชาติด้วย และต้องเร่งแก้ปัญหาโดยเร็ว

ผู้สื่อข่าวถามนายสีหศักดิ์ว่า มั่นใจหรือไม่ว่าจะเข้ามาคลี่คลายแก้ปัญหาไทย-กัมพูชาได้ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญ ระยะสั้นก็เป็นการวางพื้นฐานเพื่อที่จะแก้ปัญหาในระยะยาว เมื่อถามว่า ถือเป็นเผือกร้อนหรือไม่ในเรื่องนี้ นายสีหศักดิ์ กล่าวว่า ทุกอย่างเราต้องให้ความสำคัญ

ย้ำครม.เข้าถึงประชาชน

ขณะที่นายอนุทิน กล่าวว่า ส่วนในเรื่องของตำแหน่งการเมืองค่อยว่ากัน แต่ในส่วนของคนนอกที่กว่าจะตอบรับคำเชิญเรา ใช้เวลาหลายวันหลายคืนเลย อย่างกรณีนายเอกนิติมีอายุราชการเหลือถึงอีก 6 ปี และความรู้ความสามารถ ยังมีอนาคตในทางราชการ ที่ยังสามารถก้าวหน้าไปกว่านี้อีก แต่ท่านเสียสละ โดยเราเห็นพ้องต้องกันว่าเรื่องของประเทศชาติ เรื่องของประชาชนมีความสำคัญ ซึ่งนายเอกนิติเองมีความสามารถ และมีคุณสมบัติขนาดนี้ ต่อให้ท่านพ้นวาระนี้ไปก็จะมีเส้นทางในอาชีพของท่านได้อีกมากมาย แต่ท่านก็ตัดสินใจมาร่วมทำงานกับรัฐบาลนี้ ถือว่าการตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิตของท่าน โดยมุ่งมั่นถึงประเทศและประชาชน

เมื่อถามว่า มั่นใจหรือไม่ว่า ครม.ชุดนี้จะไม่ขี้เหร่แน่นอน นายอนุทินกล่าวว่า ต้องเป็นครม.ที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย สโลแกน “สั่งวันนี้เสร็จเมื่อวาน“ ก็ยังถือเป็นแนวทางการทำงานของพวกเราอยู่ เมื่อถามว่า การจัดตั้งรัฐบาลจะเสร็จภายใน 1-2 วันนี้หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า จะพยายามให้เร็วที่สุด เราไม่มีเวลาที่จะคอยคิดถึงกลเกม กลไกต่างๆ ทางการเมือง เรื่องทางการเมืองต่างๆ ต้องคิดว่ามีความชัดเจนแล้ว อีก 4 เดือนก็ต้องยุบสภา เพราะฉะนั้นเราจะต้องทำทุกวันใน 4 เดือนนี้ให้เกิดผลงาน ให้เกิดความคืบหน้า ให้เกิดการแก้ปัญหา ในทุกมิติให้มากที่สุด

ไม่ได้กังวลเรื่องการเมือง

นายอนุทิน กล่าวว่า รัฐมนตรีที่ได้รับมอบหมายในแต่ละกระทรวงจะต้องมีอำนาจเต็มที่ในการกำหนดนโยบาย และดำเนินนโยบาย โดยไม่ต้องมานั่งคอยดูว่าหัวหน้ารัฐบาลจะเอาด้วยหรือไม่ หรือจะขัดกับพรรคโน้นพรรคนี้หรือไม่ ตนรับรองไม่มี ตนเอาประสบการณ์ต่างๆ ที่ได้เป็นรัฐมนตรีในพรรคร่วมรัฐบาลมาสองสามสมัย เห็นจุดอ่อน เห็นปัญหาของการที่ไม่ทำงานร่วมกัน เพราะมัวแต่ไปกังวลเรื่องการได้เปรียบเสียเปรียบ ทางการเมือง

ขณะที่นายอนุทินได้แนะนำนายอรรถพลว่า จะนั่งเป็นว่าที่รมว.พลังงาน ก่อนจะปล่อยมุกว่า คงไม่ได้มาเป็นรมว. วัฒนธรรม อย่างแน่นอน และอย่างที่บอกว่าเหตุผลที่ทาบทาม เพราะรัฐบาลนี้มีภารกิจที่แน่นอน ต้องได้คนที่เข้ามาแล้วทำงานได้เลย ไม่ต้องเรียนรู้งาน ทำให้อย่างน้อย 3 ท่านที่อยู่ตรงนี้ ก็เป็นผู้บริหารสูงสุดของหน่วยงานที่ท่านจะเข้าไปบริหาร จึงเป็นการสร้างความมั่นใจว่าทุกอย่างจะเดินหน้าได้เลย ไม่มีการรำมวยใดๆทั้งสิ้น

เมื่อถามว่า กระทรวงกลาโหมควรจะเป็นทหารเข้ามานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการประจำกระทรวงหรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า ก็ต้องการให้เป็นคนที่มีความรู้ความสามารถในวิชาชีพ

ชัดเจนแล้วจะเปิดตัวทั้งหมด

ส่วนกระแสข่าวที่จะเป็นร.อ.ธรรมนัสพรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม(กธ.) แข่งกับพล.อ.ประวิตร นั้น นายอนุทิน กล่าวว่า หากตรงไหนมีความชัดเจน ก็จะพามาเปิดตัวเช่นนี้ เพื่อให้พี่น้องประชาชน รับทราบโดยไม่ต้องคาดเดา ดังนั้นการที่ยังไม่พาคนอื่นมา แสดงว่ายังไม่แล้วเสร็จ หรือมีคำถามที่จะต้องเคลียร์กันก่อน

ส่วนสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาขณะนี้ จำเป็นจะต้องเป็นพลเอกประวิทย์หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่าอย่าถามแบบนี้ อะไรที่ตอบได้ก็ตอบ เพราะสไตล์การทำงานของตนไม่ต้องการให้ประชาชน มาคาดการณ์ใดๆ ถ้ามีความชัดเจนแล้ว ก็จะนำมาแนะนำตัว ต่อพี่น้องประชาชนทุกคน ให้รับรู้ รับทราบ ว่ารัฐบาลจะเป็นไปในทางใด พยายามจะทำงานให้ใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด ให้ทำเหมือนว่ามีส่วนร่วมในการบริหารประเทศร่วมกัน ฝ่ายการเมืองอย่างพวกเราฟังเสียงของพี่น้องประชาชนเป็นหลักอยู่แล้ว

ยืนยันทุกคนเป็นมืออาชีพ

เมื่อถามว่า ภาพของครม.อนุทินจะออกมาเป็นแบบใด นายอนุทิน กล่าวว่า เป็นภาพมืออาชีพที่ทำงาน ผู้ที่ร่วมทำงานทุกคนมีความเป็นพี่น้องสมัครสมาน สามัคคี เพราะตนเป็นสมาชิก ใน 36 คนมาหลายสมัย มีความรู้สึกว่า ความสัมพันธ์ส่วนตัวแทบจะไม่เลย คุยแต่เรื่องที่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่ไม่เคยมีการตัดสินใจร่วมกันเลย ภาพแบบนี้จะไม่เกิดขึ้น ในรัฐบาลของตนแน่นอน เนื่องจากทุกคนจะต้องเข้าใจเป้า หมายเดียวกันและเข้าใจภารกิจที่เรามีอย่างจำเพาะ ต้องให้ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ไม่ใช่พรรคนี้เสนอ พรรคนี้ค้าน หัวหน้ารัฐบาลไม่ใช่มองว่าอันนี้ไม่เกิดประโยชน์กับพรรคตนเองก็ให้เรื่องช้าหน่อย สิ่งเหล่านี้จะไม่มี

พปชร.รับได้4เก้าอี้2รมว.2รมช.

นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยถึงความคืบหน้าโควตาเก้าอี้รัฐมนตรี ในสัดส่วนของพรรคพลังประชารัฐว่า ทางพรรคภูมิใจไทยได้มอบหมาย ให้พรรคพลังประชารัฐทั้งหมด 4 ตำแหน่ง แบ่งเป็น รัฐมนตรีว่าการ 2 ตำแหน่ง และรัฐมนตรีช่วยว่าการ 2 ตำแหน่ง ส่วนจะมีตำแหน่งในกระทรวงฯ ใดบ้าง กำลังพูดคุยกันอยู่ ภายใน 1-2 วันนี้ คาดว่า จะนิ่ง

เมื่อถามว่า กระทรวงกลาโหมคือ สัดส่วนของพรรคพรรคประชารัฐหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ก็กำลังพูดคุยกันอยู่ เพราะถ้าเป็นกระทรวงฯ สำคัญ กระทรวงฯ ใหญ่ บางทีก็ต้องดูให้ละเอียด

ปัดตอบ‘บิ๊กป้อม’ร่วมครม.ด้วย

เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ จะเข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีใน ครม. ชุดนี้ด้วยหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ต้องไปพูดคุยกันก่อน เมื่อถามย้ำว่าพล.อ.ประวิตร มีแนวโน้มจะเข้ามารับตำแหน่งหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ยังไม่ทราบต้องไปพูดคุยกันในพรรคอีกครั้งหนึ่งก่อนซึ่งพอเรารู้ว่าได้ตำแหน่งเท่าไหร่ ได้กระทรวงฯ อะไร ก็ต้องดูคนและดูอะไรอีกหลาย ๆ อย่าง

เมื่อถามย้ำว่า4ตำแหน่ง ได้ชื่อกระทรวงฯแล้วหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เป็นกระทรวงฯ อะไร ก็คงต้องไปพูดคุยกัน เมื่อถามว่า ขณะนี้ยังติดเงื่อนไขหรือการเจรจาอะไรยังไม่ลงตัวหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า มันก็ไม่มีอะไร

เมื่อถามว่านายสันติจะได้รับตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี ควบตำแหน่ง รมว.สาธารณสุขใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่าต้องรอ 1-2วันนี้ ให้นิ่งก่อน คือใครจะให้ หรือทำอะไร ต้องมีการประชุมและพูดคุยกัน ทั้งในพรรค และส่วนกลาง ต้องดูให้ตกผลึก เมื่อถามว่าในเรื่องของตัวบุคคลของพรรคพลังประชารัฐไม่มีปัญหาใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวยืนยันว่า ไม่มี เพราะพรรคของเรามีความเป็นอันอันเดียวกันอยู่แล้ว

มอง4เดือนเร่งทำงานช่วยรากหญ้า

เมื่อถามถึง ระยะเวลาการทำงานของรัฐบาลในระยะเวลา 4 เดือน อะไรคือโจทย์ใหญ่ นายสันติ กล่าวว่า ระยะเวลา 4 เดือน ก็ถือว่า เป็นเงื่อนไข ถ้าเรารู้ว่า มีเวลา 4 เดือน หากได้รับการโปรดเกล้าฯ เรียบร้อย ได้เข้าทำงาน ทุกคนเป็นรัฐมนตรี ก็จะต้องเร่งรัดในการทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน เพราะขณะนี้ พวกเราก็รู้กันอยู่แล้วว่า เศรษฐกิจของประเทศและของโลก โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนชาวไร่ ชาวนา เกษตรกร ก็กำลังลำบากอยู่ ถึงแม้จะเป็น 4 เดือน ก็จะต้องเร่งรัดในการทำงาน ลงไปดูประชาชน ให้มีความแข็งแรงขึ้นมา

เมื่อถามว่า การทำงานในระยะเวลา 4 เดือน จะมีอะไรที่จะเข้ามาบีบคั้น และอะไรจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุด นายสันติ กล่าวว่า พอเรารู้เวลาโดยประมาณว่า 4 เดือน เราก็ต้องหยิบประเด็นสำคัญ ในความเดือดร้อนของประชาชน ไม่ว่า จะเป็นเรื่องกระตุ้นเศรษฐกิจ การสร้างงานสร้างอาชีพ เพื่อแก้ไขปัญหารากหญ้า เพราะหากแก้ไขปัญหารากหญ้าได้ เพราะคนรากหญ้ามีตั้ง 50-60 ล้านคน ก็จะทำให้เกิดการจับจ่ายใช้สอย เศรษฐกิจข้างบนก็เดินได้ จะเป็นวงกลม ทำให้เกิดการพัฒนาเรื่องเศรษฐกิจ ซึ่ง 4 เดือน จะบอกว่า ช้าก็ถือว่า ไม่ช้า จะบอกว่า เร็วก็ไม่เร็ว ซึ่งอยู่ที่รัฐมนตรีแต่ละคน ที่จะต้องทุ่มเทการทำงาน แต่ละเรื่อง และเอาเรื่องสำคัญที่เป็นหัวใจ

‘ชัยวุฒิ’เชื่อมั่นหนูผ่าทางตันปท.

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กส่วนตัวภายหลังจากที่นายอนุทิน ชาญวีรกุล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้รับการโหวตให้เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 ของไทยระบุว่า”ขอบคุณ สส.ทุกคนที่ช่วยกันโหวตให้ท่านอนุทิน ชาญวีรกุล ครับ เพราะนี่คือการผ่าทางตันให้ประเทศให้เดินหน้าต่อไปได้ และขอแสดงความ ยินดีกับท่านอนุทินด้วยครับ ขอให้ทำงานอย่างราบรื่น และนำพาประเทศผ่านพ้นวิกฤต ไปให้ได้ครับ ผมเชื่อมั่นในพลังของพี่หนูครับ”

ด้านนายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊กระบุว่า”นายกอนุทินผู้นำรัฐบาลเฉพาะกิจ ควรเลือกรัฐมนตรีทำงาน เพื่อประโยชน์ชาติ มากกว่าจัดสรรตามโควต้า เพื่อผลประโยชน์การเมือง #ระวังวิกฤตศรัทธา #เตือนมาด้วยความหวังดี”

‘อิ๊งค์-ครม.’ขนของพ้นทำเนียบ

วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล เป็นไปอย่างเงียบเหงา หลังจากที่สภาผู้แทนราษฎรได้โหวตเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล มาดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 32 โดยในช่วงเวลาประมาณ 09.30 น. มีเจ้าหน้าที่เดินทางมาขนภาพวาดติดฝาผนังออกจากห้องทำงานของ น.ส.ณหทัย ทิวไผ่งาม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี

เวลาประมาณ 10.00น.มีรถบรรทุก6ล้อคลุมผ้าใบทึบเคลื่อนตัวออกจากบริเวณหลังตึกไทยคู่ฟ้าเพื่อขนของจากห้องน.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกฯรวมถึงมีเจ้าหน้าที่มาทำการล้างทำความสะอาดและเปลี่ยนน้ำยาเครื่องปรับอากาศใหม่ทั้งตึกไทยคู่ฟ้าและตึกบัญชาการ 1

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้จะเป็นช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์แต่มีการแจ้งให้เจ้าหน้าที่เตรียมขนของจากห้องรัฐมนตรีในรัฐบาลชุดเดิมออกให้เสร็จสิ้นในช่วงวันหยุดเสาร์และอาทิตย์นี้เพื่อเตรียมต้อนรับรัฐบาลใหม่ จากพรรคภูมิใจไทยที่นำโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีซึ่งจะมีการนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าในวันนี้แล้ว หลังจากสภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือกให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 32 แล้ว

‘ศักดิ์ดา’โต้เป็น‘งูเห่า’

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ สส.กาญจนบุรี พรรคเพื่อไทยหนึ่งใน 8 คนที่โหวตสนับสนุนให้นายอนุทิน ชาญวีรกุล เป็นนายกฯ ยืนยันว่า ตนไม่ใช่งูเห่าเพราะงูเห่าในทางการเมือง ต้องมีการหักหลังกัน ไม่โหวตตามมติพรรค แต่ตนแสดงจุดยืนตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค.ว่าจะเลือกนายอนุทินเป็นนายกฯแน่นอน ไม่ได้หักหลังใคร และวันที่เดินออกจากพรรคยังไม่รู้เลยใครจะตั้งรัฐบาลได้ ยังไม่มีใครทราบเลยว่าพรรคประชาชนจะเลือกใครระหว่างแดงกับน้ำเงิน ขณะนี้สถานะของตนตามกฎหมายต้องอยู่กับพรรคเพื่อไทยเพราะยังไม่ได้ขับออกแต่ไม่เคยมีใครมาติดต่อหรือพูดคุย

“เชื่อว่าวันนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่ามีคนในเพื่อไทยไม่สบายใจ อึดอัด แล้วก็ยังมีคนบางคน ออกมาไล่คนในพรรคเพื่อไทยอีกเชื่อว่าถ้ายุบสภาเมื่อไหร่หมดวาระเมื่อไหร่ จะได้เห็นว่าพรรคเพื่อไทยเหลือกี่คน มั่นใจว่ามากกว่าเสียงที่โหวตวันนี้ แน่นอนให้ถึงวันนั้น ผมเคยพูดเมื่อวันที่ 30ส.ค.ว่าโหวตนายกฯเสียงมากกว่า 300บวกบวก ก็ไปดูวันนี้เห็นแล้ว 311ท่าน เห็นไหมมันมาก เพราะว่าจริงๆแล้วกระแสหรือการตอบรับการบริหารราชการที่ผ่านมา เป็นตัวชี้วัดแล้ว” นายศักดิ์ดา กล่าว

ปัดไม่ทราบดีลโควตาเก้าอี้รมต.

เมื่อถามถึงประโยชน์ที่มีการแลกดีลกันมาหรือไม่ นายศักดิ์ดา กล่าวว่าไม่ทราบเรื่องเก้าอี้ ครม.ไม่เคยพูดคุยกับใคร ที่ออกจากพรรคเพื่อไทยด้วยจุดยืนโดยแท้จริง ด้วยผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมา อยากให้สื่อลงพื้นที่ไปดูในชนบทจะได้เห็นว่า ชาวบ้านและประชาชนที่อยู่ต่างจังหวัดอยู่อย่างไร ไม่มีผลประโยชน์ต่อรองแน่นอน

เมื่อถามว่าสวมเสื้อพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งครั้งหน้าไปต่อไม่ได้จริงๆหรือ นายศักดิ์ดา กล่าวว่า ผลงานรัฐบาล2ปีเศษ เกิดผลอะไรกับประชาชนในชนบท ไม่มีเลย ลองไปดู หนี้สินท่วมพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ

‘นพดล ‘ไขก๊อกพ้น สส.เพื่อไทย

ขณะที่นายนพดล ปัทมะ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กแถลงลาออกจากการเป็น สส.พรรคเพื่อไทยว่า“ผมขอลาออกจากการเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ระบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2568 เพื่อไปทำงานด้านกฎหมาย การพัฒนาคนและทำงานตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน

ผมขอกราบขอบพระคุณท่านอดีตนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตรและคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ เป็นอย่างสูง ตลอดจนพรรคเพื่อไทยและขอส่งความปรารถนาดีไปยังเพื่อนสส.และสมาชิกพรรค ที่เคยทำงานร่วมกันมา ขอให้ท่านโชคดีและประสบความสำเร็จในงานที่ทำเพื่อประชาชน”

‘อนุสรณ์’ลั่น‘เพื่อไทย’มูฟออนเร็ว

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี สภาผู้แทนราษฎรมีมติเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล ขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า พรรคเพื่อไทยขอประกาศต่อประชาชนทั้งประเทศอย่างหนักแน่นและเข้มแข็งว่า พรรคเพื่อไทยจะทำหน้าที่ฝ่ายค้านแท้ๆ ที่ทรงพลัง เข้มแข็ง และไม่ยอมอ่อนข้อให้กับการใช้อำนาจรัฐที่ไม่ถูกต้องใด ๆ พรรคเพื่อไทยตระหนักชัดว่า ประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่อาจดำรงอยู่ได้ หากปราศจากฝ่ายค้านที่กล้าหาญและไม่เกรงกลัว พรรคเพื่อไทยจะยืนหยัดในสภาเพื่อเป็นด่านแรกและด่านสุดท้าย ในการคานอำนาจ ตรวจสอบทุกการตัดสินใจ และปกป้องผลประโยชน์ของประชาชนอย่างสุดกำลัง

ประกาศทำการเมืองตรงไปตรงมา

นายอนุสรณ์ ย้ำว่า นี่มิใช่เพียงการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน แต่คือการสู้เพื่อความจริง เพื่อความยุติธรรม พรรคเพื่อไทยจะเป็น ดวงตาที่จับจ้องทุกการใช้อำนาจรัฐที่บิดเบี้ยวเป็นกำแพงที่ขวางกั้นความไม่โปร่งใส และเป็นพลังที่ไม่ยอมให้ประชาชนถูกทอดทิ้ง พรรคเพื่อไทย ขอประกาศต่อรัฐบาลใหม่ที่กำลังจะตั้งขึ้นว่าทุกเรื่องที่ท่านทำ ทุกคำที่ท่านกล่าว ทุกก้าวที่ท่านเดิน ทุกการกระทำที่ไม่เป็นไปเพื่อประโยชน์ประชาชน พรรคเพื่อไทยจะติดตามและจับตา และพร้อมจะลุกขึ้นคัดค้านทันที บนพื้นฐานของข้อมูล ข้อเท็จจริง ฝ่ายค้านแบบเพื่อไทย คือ ฝ่ายค้านที่ตรงไปตรงมา ไม่ใช่ฝ่ายค้านตัดแต่งพันธุกรรมลับลวงพราง

ขอเป็นฝ่ายค้านแท้ทำเพื่อปชช.-ปท.

“ฝ่ายค้านที่แท้จริง ไม่ใช่แค่การค้าน แต่คือการยืนหยัดเพื่อประชาชน และต่อสู้เพื่ออนาคตของแผ่นดิน พรรคเพื่อไทย ขอยืนยันว่าจะไม่ประนีประนอมกับความไม่ถูกต้อง ไม่อ่อนข้อให้กับอำนาจรัฐที่ไม่เป็นธรรม และจะไม่หยุดพักต่อการตรวจสอบ หยุดการค้านแบบลับลวงพราง สู่การทำงานการเมืองที่โปร่งใส ตรวจสอบได้”

พรรคเพื่อไทย คือฝ่ายค้านแท้ ที่ยืนขึ้นอย่างองอาจ สง่างาม พร้อมสู้ทุกเวที พร้อมชนทุกปัญหา กล้าสู้กับความไม่ชอบธรรม และพร้อมทำหน้าที่อย่างตรงไปตรงมา สมศักดิ์ศรี เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน” นายอนุสรณ์ กล่าว

เพื่อไทยนัดถกสส.9กย.

นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธาน สส.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่าในวันอังคารที่ 9 ก.ย.นี้จะมีการประชุม สส.ประจำสัปดาห์ของพรรคเพื่อไทย โดยจะมีการเปิดให้สส.ที่เข้าร่วมประชุมได้แสดงความคิดเห็นต่อสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นหลังต้องสลับขั้วมาทำหน้าที่ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎรและให้แต่ละคนเปิดใจอธิบายความรู้สึกที่มีต่อพรรคส่วนตัวในฐานะนักการเมืองคนหนึ่ง เคยเป็นทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาล มองว่า เป็นเรื่องปกติที่ต้องรับให้ได้ และต้องทำงานเพื่อประชาชนต่อไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็ตาม

เมื่อถามว่ามาตรการดำเนินการต่อสส.ที่โหวตสวนมติของพรรคในจำนวนนี้มี ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทยด้วย นายวิสุทธิ์ กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นไปตามกระบวนการและขั้นตอนของพรรคซึ่งคาดว่าที่ประชุมวันอังคารก็จะมีการหารือเรื่องนี้ ตามขั้นตอนจะต้องผ่านการตรวจสอบของคณะกรรมการจริยธรรมของพรรคด้วยและเมื่อผลออกมาเป็นอย่างไรก็ว่าไปตามนั้นจะให้ขับออกก็ต้องขับออก

ภูมิธรรมย้ำปชน.ต้องรับผิดชอบ

นายภูมิธรรม เวชยชัย แกนนำพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณีพรรคประชาชนโหวตสนับสนุนนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ให้เป็นนายกฯ ว่า เมื่อสภาฯ โดยเฉพาะพรรคประชาชน (ปชน.) ได้ตัดสินใจโหวตสนับสนุนให้นายอนุทินจากพรรคภท.เป็นนายกฯ ก็ถือว่าเข้ามาตามกระบวนการ ซึ่งก็ต้องเคารพการตัดสินใจของพรรคปชน อย่างไรก็ตาม พรรคปชน.จะต้องรับผิดชอบต่อสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ขณะที่รัฐบาลนี้ถือว่าได้ทำหน้าที่อย่างเต็มที่ตามที่ได้รับความไว้วางใจจากพี่น้องประชาชนแล้ว ที่เหลือก็ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ

นายภูมิธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนตัวในฐานะปฎิบัติหน้าที่แทนนายกฯ ถือว่าหมดภารกิจในการแก้ไขวิกฤตต่างๆ แล้ว ซึ่งหลังจากนี้รัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่และต่อเนื่อง เมื่อมีรัฐบาลชุดใหม่ที่ได้เข้าเฝ้าถวายสัตย์ และแถลงนโยบายต่อรัฐสภาแล้ว เราก็พร้อมจะหยุดปฏิบัติหน้าที่ทันที ระหว่างนี้เราก็จะทำงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อแก้ไขปัญหาของประเทศและประชาชนจนกว่ารัฐบาลใหม่จะเข้ามารับผิดชอบ

“สำหรับเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ถือเป็นเจตจำนงของพรรคพท.อยู่แล้ว ซึ่งเราผลักดันมาตลอด มีแต่พรรคภท.และ สว.ที่ปฏิเสธเรื่องนี้มาโดยตลอด ซึ่งก็ต้องมาดูว่าหลังจากนี้พวกเขาจะทำอย่างไร แล้วก็ต้องมาดูว่าพรรคปชน.สามารถประสานและควบคุมให้พรรคภท.แก้รัฐธรรมนูญได้จริงอย่างที่ตกลงกันไว้หรือไม่” นายภูมิธรรม กล่าว

‘สุดารัตน์’นำทัพลุยร้อยเอ็ด

วันเดียวกัน คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย นายชัชวาล แพทยาไทย ส.ส.ร้อยเอ็ด เลขาธิการพรรค พร้อมคณะผู้บริหารพรรคลงพื้นที่จังหวัดร้อยเอ็ดเปิดเวทีใหญ่พบปะประชาชนในหลายอำเภอทั้งปทุมรัตต์ เกษตรวิสัย และจตุรพักตรพิมาน โดยมีประชาชนเข้าร่วมกิจกรรมนับพันคนเพื่อพูดคุย รับฟังปัญหาปากท้อง เศรษฐกิจชุมชน และราคาพืชผลทางการเกษตร

โดยคุณหญิงสุดารัตน์ได้ประกาศความพร้อมเลือกตั้งลุยขับเคลื่อนนโยบายเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ทั้งกองทุนเครดิตประชาชนเพื่อปลดหนี้นอกระบบและเพิ่มทุนประกอบอาชีพ บำนาญประชาชน 3,000 บาทต่อเดือน รวมถึงการปลดล็อกกฎหมายกว่า 1,400 ฉบับที่เป็นอุปสรรคต่อคนค้าขายรายเล็กและ SMEs ให้ลุกขึ้นมาทำมาหากินได้ รวมถึง การยกระดับราคาพืชผลทางการเกษตร และ ราคาปศุสัตว์ อย่างยั่งยืน ขณะเดียวกันยังมีเป้าหมายสร้างการเมืองสุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และต้องล้างการทุจริตให้สิ้นซาก พร้อมผลักดันนโยบายที่ตอบโจทย์ประชาชน

จับตา4เดือนเร่งแก้รธน.ปลดล็อค

คุณหญิงสุดารัตน์ย้ำว่า4เดือนจากนี้ คือช่วงเวลาสำคัญที่ต้องเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อปลดล็อควิกฤตทางการเมืองและสร้างทางออกให้ประเทศ พรรคไทยสร้างไทยจึงเสนอให้ตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (สสร.) จากการเลือกตั้งโดยประชาชน 100% เพื่อร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่สะท้อนเจตจำนงประชาชน โดยยืนยันไม่แตะหมวด 1 และหมวด 2 แต่แก้ไขตั้งแต่หมวด 3 เป็นต้นไป รวมถึงที่มาของนายกโดยเปิดให้สามารถเลือกจากสส.ได้ พร้อมตัดวงจร สส. งูเห่า ด้วยการกำหนดบทบัญญัติให้ฟังมติพรรค เป็นกลไกป้องกันการซื้อเสียง

เดินหน้าสร้างการเมืองสุจริต

ข้อเสนอสำคัญของพรรคคือการแก้รัฐธรรมนูญให้ใช้เสียง 3 ใน 5ของรัฐสภา โดยไม่ต้องพึ่งสว.พร้อมแก้กฎหมายประชามติให้ตัดสินด้วยเสียงข้างมากของผู้มาใช้สิทธิ์ อีกทั้งบัญญัติห้ามนิรโทษกรรมการรัฐประหาร ถือเป็นกบฏต้องรับโทษสูงสุด และให้ทำประชามติเพียงครั้งเดียวเพื่อความรวดเร็ว ซึ่งเชื่อว่าจะจบได้ภายในระยะเวลาสี่เดือน

คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวทิ้งท้ายว่าสิ่งที่ประชาชนคาดหวังจากการเลือกตั้งครั้งหน้าคือ การเมืองที่จริงใจกับประชาชน ไม่ใช่แสวงหาเพียงอำนาจ โดยใช้นโยบายฉาบฉวยประชานิยม พรรคไทยสร้างไทยพร้อมแล้วที่จะสร้างการเมืองสุจริต และสร้างนโยบายที่พลิกฟื้นชีวิตให้พี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน เป็นความหวังของพี่น้องประชาชน

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top