'พีมูฟ'ชมหน้าตา ครม.ใหม่ หวังรัฐบาลใหม่แก้ปัญหาประชาชน

'พีมูฟ'ชมหน้าตา ครม.ใหม่ หวังรัฐบาลใหม่แก้ปัญหาประชาชน

วันพุธ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568, 11.33 น.

 

"ธนพร" ควง"พีมูฟ" บุกภูมิใจไทย หารือรัฐบาลใหม่แก้ปัญหาประชาชน หวัง 4 เดือนแก้ได้จะไม่ลงถนน มองหน้าตา ครม.เปิดเผยดี จิบกาแฟโชว์ตัว ไม่เหมือนรัฐบาลอื่น


วันที่ 10 กันยายน 2568 เวลา 10.16 น.ที่พรรคภูมิใจไทย นายธนพร ศรียากูล ผู้อำนวยการสถาบันวิเคราะห์การเมือง เปิดเผยภายหลัง นำกลุ่มขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม หรือ พีมูฟ เข้าหารือกับนายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย  ว่า ได้รับการประสานงานจากกลุ่มพีมูฟ  ซึ่งอยากมาหารือนอกรอบกับรัฐบาลใหม่ในการขับเคลื่อนงานในช่วง 4 เดือน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน ซึ่งได้มีการพูดคุยกันเรียบร้อยแล้ว

ด้านนายสิริพงศ์ กล่าวว่า  วันนี้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ทั้งนายกรัฐมนตรีและสส.ของพรรค ที่รัฐสภานายกรัฐมนตรีจึงมอบหมายให้ตนเองมาต้อนรับและพูดคุยกับกลุ่มพีมูฟ เพื่อรับฟังข้อเสนอในการแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ไม่ว่าจะเป็นรัฐสวัสดิการทั้งเด็ก ผู้พิการ และคนชรา  เรื่องที่ทำกิน และอีกหลายเรื่องที่ขับเคลื่อนมาโดยตลอด แต่เมื่อมีการเปลี่ยนรัฐบาลกลุ่มพีมูฟก็กังวล ว่าเรื่องเหล่านี้ที่ต่อสู้กันมาจะหายไป จึงได้นำข้อเรียกร้องต่างๆ มาพูดคุยกับตนเอง ซึ่งตนเองได้ทำความเข้าใจไปว่ารัฐบาลนี้มีอายุ 4 เดือนตามที่นายอนุทินได้สัญญาไว้ ดังนั้น มีปัญหาใดเร่งด่วนที่อยากให้แก้ไขภายในรัฐบาลนี้ ซึ่งกลุ่มพีมูฟจะไปรวมเรื่อง แล้วนำมามอบให้ตนเองจะได้นำเรียนนายกรัฐมนตรี เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา

เมื่อถามว่าที่ผ่านมากลุ่มพีมูฟก็ชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาลหลายครั้ง จะทำอย่างไรกับรัฐบาล 4 เดือนในการแก้ปัญหา เพื่อจะได้ไม่ลงถนนอีก นายสิริพงศ์ กล่าวว่า โดยปกติคิดว่าการพูดคุยเป็นทางออกที่ดีที่สุด ซึ่งในวันที่ 6 ตุลาคม เป็นวันที่เกี่ยวข้องกับที่อยู่อาศัยโลก  ก็จะมีการรวมพลเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ มีสิทธิทำได้ตามรัฐธรรมนูญ ตนเองจึงได้บอกไปว่าถ้ามีปัญหาอะไรขอให้เริ่มต้นจากการพูดคุย และเราจะแก้ปัญหาให้ได้เร็วที่สุด โดยเวลาในการเจรจาจะต้องมีการพูดคุยเหตุและผล รวมถึงข้อจำกัดต่างๆ ว่า สามารถรับกันได้มากน้อยแค่ไหน  

ด้าน นายจำนงค์ หนูพันธ์ ที่ปรึกษากลุ่มพีมูฟ กล่าวว่า อยากเห็นภาพว่ารัฐบาลใหม่ในการแก้ปัญหา เพื่อที่มวลชนจะได้ไม่ต้องลงถนน ไม่ต้องชุมนุม โดยนำปัญหาต่างๆ รวมรวมให้นายกรัฐมนตรี เพื่อแก้ปัญหา เรื่องไหนที่สามารถภายใน 4 เดือน ก็แก้ปัญหาให้เป็นรูปธรรมทันที นี่เป็นความหวังอีกครั้ง ถ้านายกรัฐมนตรี รับปาก 4 เดือนจะแก้ปัญหา  แก้ปัญหาจะไม่มีพี่น้องมาชุมนุม 

เมื่อถามถึงโฉมหน้าคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เป็นอย่างไร นายจำนงค์ กล่าวว่า เป็นภาพที่เปิดเผย ไม่เคยมีรัฐบาลไหนทำมาก่อน และยังมีภาพนั่งกินกาแฟ ซึ่งนายกรัฐมนตรี บอกว่าคนไหนมานั่งกินกาแฟ นั่นคือรัฐมนตรีที่จะได้รับการโปรดเกล้าฯ ซึ่งเป็นภาพที่ชัดเจนมากและไม่เคยเกิดขึ้นในประวัติศาสตร์การเมืองไทยว่าจัดตั้ง ครม. แบบเปิดเผยตรงไปตรงมา คนไหนที่ไม่สามารถทูลเกล้าฯ ได้ ก็ต้องลงไปก่อน และนายกรัฐมนตรีก็พูดชัดว่า 4 เดือนพฤษภาคมยุบสภาแน่นอน นี่คือความหวังของภาคประชาชนทั่วประเทศ ทั้งนี้ขอ ฝากความหวังให้กับ ครม.ใหม่ แก้ปัญหาเศรษฐกิจ ปากท้อง พืชผลการเกษตรตกต่ำ ทุกเรื่องที่เป็นปัญหาเศรษฐกิจที่คนรอคอยทั้งประเทศเพราะรัฐบาลส่งฟรีที่ผ่านมา ไม่สามารถจับต้องอะไรได้ มีแต่เพียงแก้ปัญหาการเมือง ยึดผลประโยชน์ทางการเมือง แต่รัฐบาลใหม่ เป็นความหวังของรัฐบาลเสียงข้างน้อย 4 เดือนนี้คิดว่าน่าจะมีอะไรเป็นรูปธรรม และชัดเจนมากขึ้น  เพราะการเมืองก็ต้องแข่งขันเรื่องการเลือกตั้งครั้งใหญ่ ในอนาคตหลังยุบสภาการแข่งขัน เพราะฉะนั้นทุกคนต้องแข่งขันหลังยุบสภาแน่ๆ 

นายธนพร ศรียากูล กล่าวถึงโผคณะรัฐมนตรีของรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ว่าซุปเปอร์ว้าว เพราะถ้าตนเป็นพรรคสีส้ม ที่เป็นพรรคการเมืองฝ่ายก้าวหน้า ซึ่งชอบการถกเถียงและมีจุดอ่อนในเรื่องนี้ โดยเข้าข่าย No action talk only และจะถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ามีประสบการณ์ในการทำงานจริง ขณะที่พรรคการเมืองสีน้ำเงินเมื่อเปิดตัวบุคคลความเชื่อมั่นเกิด ว่าเป็นกลุ่มบุคคลที่ลงมือทำจริงและมีประสบการณ์จริง ดังนั้นจะเห็นคู่เทียบในการเลือกตั้งครั้งหน้า ซึ่งตนฟันธงว่าพรรคสายสีน้ำเงิน กำลังจะยกระดับไปสู่ Neo conservative ซึ่งเป็นสัญญาณแรงที่ส่งไปยังพรรคสีส้ม ดังนั้นสาวกสีส้มคนใดที่เคยอกหักจากพรรคตัวเอง ตนไม่รู้ว่าวันนี้ท่านจะต้องคิดใหม่หรือไม่ แต่ในเชิงปรากฏการการตั้งรัฐบาลอย่างโปร่งใส แปลว่าให้สังคมช่วยนายอนุทินในการตรวจสอบ ใครมานั่งกินกาแฟ สื่อมวลชนได้เห็นก็มีการตรวจสอบสตอรี่เรื่องราวของชีวิต แปลว่านายอนุทินกำลังใช้กระบวนการการมีส่วนร่วมทางอ้อมในการจัดตั้งคณะรัฐมนตรี ซึ่งการเมืองไทยเราไม่เคยเห็นการตั้งครม.แบบนี้ ส่วนใหญ่การตั้งครม. เต็มไปด้วยโควตาการต่อรอง เราไม่ได้พอใจการเมืองเต็มร้อย แต่สิ่งที่พรรคสีน้ำเงินพยายามทำ คือการยกระดับพรรคอนุรักษ์นิยมแบบดั้งเดิม ที่หลายคนมองว่าเป็นพรรคบ้านใหญ่ ซึ่งเป็นการยกระดับขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง เป็น Neo conservative ซึ่งถือเป็นโมเดลทางการเมืองที่น่าสนใจ 

นอกจากนี้ ประเด็นความหนักแน่นของนายอนุทิน ที่ไม่ได้หวั่นไหวไปกับหัวโขน คือกล้าประกาศชัดเจนว่าจะยุบสภาภายใน 4 เดือน ซึ่งตนอยากเห็นตั้งแต่วันที่แถลงนโยบายต่อรัฐสภา และตนอยากให้สื่อมวลชนนับถอยหลังเกาะติดการยุบสภาให้ชาวบ้านได้เห็น เพราะการนับหนึ่งชัดเจนตั้งแต่วันแถลงนโยบาย และนายกรัฐมนตรีก็พูดเอง และอีกหนึ่งคือวันนี้ที่จะทำให้ประชาชนได้เห็นกระบวนการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งการได้ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณ อดีตประธานคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ เป็นรองนายกรัฐมนตรี ที่มีประสบการณ์เรื่องแบบนี้มาเยอะ ตนมั่นใจว่าทันทีที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ว่าเราจะทำประชามติกี่ครั้งจะได้เห็น action plan จากพรรคสีน้ำเงิน ตนจึงรอฟังอยู่ในวันแถลงนโยบายตามแนวทางของรัฐบาล แต่ทั้งนี้ 4 เดือนนี้จะเป็นเครื่องมือพิสูจน์ ว่าพรรคสีน้ำเงินทำได้ และจะเป็นโจทย์กับคนไทย ว่าจะให้ไปต่อหรือพอแค่นี้ ซึ่งหากพรรคสีน้ำเงินฉวยโอกาสนี้ได้โอกาสที่คนไทยจะให้ไปต่อก็มีสูง

ส่วนที่มีนักข่าวถามว่า ตนทำนายไม่แม่น นายอนุทิน และพรรคสีน้ำเงินจะไม่ได้นั้น นายธนพร กล่าวว่า หากย้อนไปดูในวันดังกล่าว ซึ่งมีการแก้เกมกัน และพรรคเพื่อไทย พยายามลากทุกวิถีทาง แต่สิ่งที่เราเห็นการแก้เกมของพรรคสีน้ำเงินคือไม่ต้องพูดอะไร เพราะหากพูดต่อจะทำให้วุ่นวาย และสุดท้ายจะทำให้ไม่ได้เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสิ่งที่ตนเคยพูดไปก่อนหน้านี้ว่าระวังเกมป่วน และพรรคสีน้ำเงินคงฟังและวางแผนรับมือ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องของแทคติกในการประชุมสภา และ การที่ประชาชนได้เห็นการถ่ายทอดสดแบบนี้บ่อยถือว่าเป็นประโยชน์จะได้ตามทันนักการเมือง

 

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top