ด่วน! 'จีบีซีไทย-กัมพูชา'เห็นชอบถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด 1 เดือน

ด่วน! 'จีบีซีไทย-กัมพูชา'เห็นชอบถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด 1 เดือน

วันพุธ ที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.30 น.

ด่วน! จีบีซีไทย-กัมพูชา เห็นชอบถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ ร่วมเก็บกู้ทุ่นระเบิด1เดือน กัมพูชาตอบรับ ปราบสแกมเมอร์ 60 แห่ง พร้อมจัดระเบียบบ้านหนองจาน เล็งเปิดด่านจันทรบุรี-ตราด

10 ก.ย. เวลา 12.30 น. ห้องกฤษณะ โรงแรมเซ็นทารา ชานทะเลแอนด์วิลล่า จ.ตราด พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย–กัมพูชา หรือ GBC สมัยพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า
ติดตามความคืบหน้าในการดำเนินการผลการประชุมจีบีซี ที่ประเทศมาเลเซีย รวมทั้งข้อตกลงหยุดยิง รวมทั้งแนวทางการดำเนินการต่อไปเพื่อนำสันติภาพและความสงบสุขนำพื้นที่ชายแดนได้อย่างถาวร
การหารือวันนี้เป็นไปอย่างราบรื่นที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าหลายด้าน ถือเป็นความสำเร็จใช้กลไกทวิภาคีแก้ไขปัญหาระหว่างกัน และยืนยันว่าทั้งสองฝ่ายจะยึดมั่นแนวทางในต่อไป ถึงแม้ว่ามีข้อห่วงกังวลบางประการที่ทำให้ฝ่ายไทยและประชาชนไทยไม่สบายใจ และอาจเป็นอุปสรรคต่อความฟื้นฟูความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้เป็นไปอย่างดังเดิมอยู่บ้างอยู่ ก็ตามแต่สิ่งที่ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบร่วมกัน และเป็นพัฒนาการสำคัญ 


1. การถอนอาวุธหนักและยุทโธปกรณ์ทำลายล้างสูงออกจากพื้นที่ชายแดน กลับสู่ที่ตั้งปกติ โดยฝ่ายเลขานุการจีบีซี และอาร์บีซี จะหารือกันภายใน3สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนดำเนินการและเริ่มเคลื่อนย้ายกำลังตามกรอบเวลาที่กำหนด โดยให้คณะผู้สังเกตการณ์ 
(IOT)มาร่วมสังเกตการณ์

2. การเก็บกู้ วัตถุระเบิด จะมีการตั้งคณะประสานงานร่วม ประกอบด้วย ฝ่ายเลขานุการจีบีซี และสูงทุ่นระเบิดของถ่ายในกัมพูชา ภายใน1สัปดาห์ เพื่อจัดทำแผนเก็บกู้ถูกระเบิดและแผนนำร่องตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มดำเนินการทันทีภายใน 1 เดือน 

3 การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ หรือ สแกมเมอร์ ได้มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและสำนักงานตำรวจแห่งชาติของทั้ง 2 ฝ่าย ตั้งคณะทำงานภายใน 1 สัปดาห์เพื่อจัดทำแผนปฏิบัต่งานร่วมกัน ทั้งนี้ ฝ่ายไทย ได้ส่งมอบข้อมูลพิกัดที่ตั้งสแกมเซนเตอร์กว่า 60 แห่งให้กัมพูชา ให้ไปดำเนินการปราบปรามขั้นเด็ดขาด ซึ่งเป็นสิ่งที่คณะทำงานนี้จะหารือกัน ซึ่งผู้แทนของตำรวจไทยและรองผู้บัญชาการตำรวจกัมพูชาได้หารือกันนอกรอบ เพื่อนัดหมายการประชุมประสานงานตามข้อตกลงนี้เรียบร้อยแล้ว โดยมีกำหนดการวันที่ 16 ก.ย.ที่จังหวัดสระแก้ว 

4. การบริหารจัดการพื้นที่ชายแดน โดยเฉพาะกรณีบ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว โดยที่ประชุมได้มอบหมายให้ คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม( เจบีซี) ไทยกัมพูชา หารือเพื่อให้เกิดความชัดเจนเกี่ยวกับพื้นที่ดังกล่าว และให้คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (อาร์บีซี) หารือแนวทางการบริหารจัดการบนพื้นฐานผลการหารือในกรอบจีบีซี โดยให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้ว และผู้ว่าฯจังหวัด
บันเตียเมียนเจย ประสานงานกันเพื่อการบริหารจัดการสถานการณ์ ให้เกิดความสงบเรียบร้อย ทั้งนี้หากโมเดลนี้ประสบความสำเร็จ จะนำไปใช้บริหารจัดการพื้นที่อื่น ซึ่งมีปัญหาในลักษณะเดียวกัน

 5.หารือการผ่อนปรนผ่านแดนบางประเภท บางจุด และ ระหว่างที่สถานการณ์ไม่เป็นปกติ เพื่อลดผลกระทบภาคธุรกิจ การขนส่งข้ามแดน โดยมอบหมายให้กลไกอาร์บีซี ไปหารือความเป็นไปได้ ในการอนุญาตให้มีการขนส่งสินค้า จุดผ่านแดนบางจุดที่ไม่มีปัญหาด้านความมั่นคง โดยอาจเริ่มดำเนินการที่จุดผ่านแดนถาวรจันทบุรีและตราด

นอกจากทั้ง 2 ฝ่ายเห็นพ้องที่จะถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ชายแดนแล้ว พัฒนาการสัมพันธ์การประชุมจีบีซีครั้งนี้ คือทั้ง 2 ฝ่ายกำหนดแนวทางการดำเนินการใน 2 เรื่องที่ไทยให้ความสำคัญ แต่ก่อนหน้านี้ฝ่ายกัมพูชายังไม่เคยตอบรับ ได้แก่ การเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามสแกมเมอร์ ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยจะติดตามกับฝ่ายกัมพูชา ให้ดำเนินการตามที่ตกลงโดยเร็ว โดยการประชุม จีบีซี ครั้งต่อไปจะกำหนดขึ้นภายใน 30วัน โดยมีฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ 

พล.อ.ณัฐพล ยังขอย้ำว่าไทยกัมพูชาไม่อาจย้ายหนีจากกันได้ จึงมีความจำเป็นที่สองประเทศต้องแก้ไขปัญหาโดยสันติวิธี เพื่อนำสันติภาพไปสู่ชายแดน และประชาชนทั้งสองประเทศจะได้กลับมาใช้ชีวิตปกติสุข

โดยเมื่อวานนี้ได้รับทราบแนวทางจากนายอนุทิน ที่ได้เน้นย้ำเรื่องปกป้องอธิปไตยต้องมาเป็นอันดับแรก และให้ความสำคัญกับบทบาทกองทัพในการป้องกันประเทศ พร้อมให้ดูแลความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน ซึ่งตนมีวิธีที่จะบริหารจัดการแบ่งโซนพื้นที่ตามความตึงเครียดของสถานการณ์ตามลำดับ

โซนที่หนึ่ง มีความตึงเครียดสูงสูงคือพื้นที่กองทัพภาค2 ประกอบไปด้วยอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์บุรีรัมย์เป็น

โซนที่สอง คือ สระแก้ว พื้นที่ความรับผิดชอบของ กองทัพภาคที่1 

โซนที่สาม คือ จันทบุรีและตราดมีความตึงเครียดน้อยกว่าจุดอื่น

การแบ่งโซนดังกล่าว นำมาซึ่งแนว ความคิดในการผ่อนผัน ซึ่งจะดูที่สถานการณ์ในระดับความตึงเครียดและจากที่ผู้ประกอบการขอให้ผ่อนปรนบ้างจึงได้ดำเนินการในโซนที่3 ก่อน และมอบหมายให้กองกำลัง จันทบุรี-ตราด ไปพิจารณาดำเนินการ เพราะเป็นมาตรการทางด้านความมั่นคง โดยให้ประสานงานในพื้นที่กับ กรมศุลกากร กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรมสนับสนุนข้อมูลเพื่อเป็นแนวทางที่นำมาเจรจากัน

โดยก่อนการประชุมตนได้หารือกับพลเอก เตรีย เซรย ฮา แบบโฟว์อายตนพูดสองประเด็น คือสาส์น ของพลเอก ฮุนมาเนต ที่ส่งถึงนายอนุทิน ชาญวีรกูร นายกรัฐมนตรีของไทย ในการแสดงความยินดีต่อนายอุทิน โดยข้อความแสดงถึงท่าทีซึ่งจะนำไปสู่การคลี่คลายสถานการณ์ ท่านนายกฯ จึงอยากทราบแนวทางความคืบหน้าในการหารือในวันนี้

“ผมได้คุยกับท่านเตีย เซียฮา ว่าประเด็นเจ็บปวดที่ต้องแก้ไขของบ้านเราในวันนี้คือเรื่องการเก็บกู้วัตถุระเบิด กับ บ้านหนองจานขอความกรุณาให้ทางกัมพูชาตอบรับในเรื่องนี้ด้วยซึ่งผลการประชุมได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากกัมพูชาอย่างไรก็ตามก็ต้องติดตามความจริงใจของกัมพูชาในการดำเนินการตามผลการประชุมวันนี้หรือไม่”

 

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top