'เทพไท'เตือนสติ'ทักษิณ'ให้ยึดหลักธรรมะ พร้อมจี้รัฐบาลใหม่แก้'ความเหลื่อมล้ำ'ในเรือนจำ

'เทพไท'เตือนสติ'ทักษิณ'ให้ยึดหลักธรรมะ พร้อมจี้รัฐบาลใหม่แก้'ความเหลื่อมล้ำ'ในเรือนจำ

วันศุกร์ ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2568, 08.58 น.

วันที่ 12 กันยายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ทักษิณ : กัมมุนา วัตตติโลโก

การแถลงข่าวของ พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ ได้ออกมาแถลงข่าว ถึงความคืบหน้าเกี่ยวกับการคุมขังนายทักษิณ ชินวัตร ที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งให้จำคุกเป็นเวลา1ปี ว่า 2 คืนที่ผ่านมา นายทักษิณ ทำตัวเป็นปกติ ทานอาหารมื้อเช้าด้วยไข่ต้ม 2 ฟอง พร้อมกับกาแฟ นอนหลับดี ไม่มีการเรียกร้องสิทธิพิเศษใดๆ ซึ่งแสดงให้เห็นว่า นายทักษิณได้เตรียมตัวเตรียมใจ และทำใจรับสภาพการเป็นนักโทษได้แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่นายทักษิณไม่ได้ทำตัวเป็นนักโทษเทวดา หรือเป็นอภิสิทธิ์ชน


การที่นายทักษิณปฏิบัติตามระเบียบเงื่อนไขของกรมราชทัณฑ์ หรือระเบียบของเรือนจำ ก็เป็นเรื่องที่น่ายกย่อง และไม่สร้างความหนักใจให้กับผู้คุมหรือเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ จะเห็นได้ว่า การถูกคุมขังในฐานะนักโทษไม่ได้เป็นสิ่งที่น่ากลัว หรือเป็นสิ่งที่เป็นอันตรายใดๆ นายทักษิณก็ควรจะเข้าใจ ถ้าหากว่านายทักษิณทำใจได้เช่นนี้ การที่นายทักษิณกลับมาประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2566 และครั้งนั้นถ้าหากนายทักษิณไม่ถือทิฐิ ที่ประกาศว่า จะกลับมาแบบเท่ๆ ไม่ยอมติดคุกแม้แต่วันเดียว ถ้ายอมลดทิฐิและปฏิบัติตามเงื่อนไขหมายศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นายทักษิณเข้าสู่เรือนจำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ไม่ว่าจะนานหรือเร็วแค่ไหน ถ้าได้เข้าเรือนจำถูกต้องตามระเบียบ หากเกิดเจ็บไข้ได้ป่วย จะต้องไปรักษานอกเรือนจำก็เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ และจะไม่เป็นปัญหาหรือข้อครหาเหมือนกับปัจจุบัน

แต่ที่ผ่านมาทักษิณไม่ยอมเข้าคุกเลยแม้แต่วันเดียว หรือวินาทีเดียวด้วยซ้ำไป แต่ว่าครั้งนี้ได้เห็นว่า นายทักษิณก็ได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของกรมราชทัณฑ์ เห็นได้จากการเปลี่ยนชุดแต่งตัวนักโทษเด็ดขาด ซึ่งปรากฏภาพให้เห็นกัน

สิ่งที่น่ากังวลต่อไป คือนายทักษิณจะถูกคุมขังเป็นเวลา 1 ปี หรือ 8 ปีตามโทษเดิม เพราะปัญหาอยู่ที่การขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ผ่านมา ว่าได้ทำถูกต้องและชอบธรรม หรือถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ การขอพระราชทานโทษตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ จะต้องเป็นนักโทษเด็ดขาด และต้องเขียนในขณะที่ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ ซึ่งที่ผ่านมามีนักโทษหลายคนใช้สิทธิ์ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่กระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษใช้เวลายาวนาน 2 ปี 3 ปี หรือ 5 ปีก็มี แต่ในกรณีของนายทักษิณ การขอพระราชทานอภัยโทษใช้เวลาเพียง 2 วันเท่านั้น

ถ้าเทียบกับกรณีของผม ในฐานะที่เป็นนักโทษคนหนึ่งในขณะนั้น ได้ขอพระราชทานอภัยโทษเช่นเดียวกัน จนถึงบัดนี้ผมพ้นโทษไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ทราบข่าวความคืบหน้า ว่าขั้นตอนกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษของผม ดำเนินการไปถึงไหน ขณะที่ของนายทักษิณใช้เวลาเพียง 2 วัน แต่ผมใช้เวลา 2 ปีกว่า ก็ยังไม่ทราบข่าวความคืบหน้า ซึ่งเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในหมู่นักโทษเป็นอย่างยิ่ง

การที่นายทักษิณจะได้สิทธิ์พิเศษได้รับการปฏิบัติที่ดีเป็นเรื่องที่ทำได้ เพราะท่านเป็นบุคคลวีไอพี แต่ว่าการถือปฏิบัติในเรื่องระเบียบ เป็นเรื่องที่ไม่ควรที่จะสร้างความเหลื่อมล้ำให้กับนักโทษ หรือในหมู่นักโทษทั่วไป จึงอยากจะให้นายทักษิณได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อบังคับของกรมราชทัณฑ์และเรือนจำโดยเคร่งครัด ส่วนการอำนวยความสะดวก เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่เรือนจำที่สามารถทำได้ ในฐานะเป็นบุคคลสำคัญคนหนึ่ง ซึ่งสามารถที่จะดูแลเอาใจใส่ แต่ไม่ได้เป็นการฝ่าฝืนหรือปฏิบัติเหนือจากกฎระเบียบของเรือนจำ

การที่นายทักษิณทำใจ และปฏิบัติตามระเบียบของเรือนจำโดยไม่มีปัญหาใดๆ ในระหว่างที่ถูกจองจำ ก็เป็นเรื่องที่ดี อยากให้นายทักษิณได้คิดว่า ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม และเป็นสัจธรรมของมนุษย์ ขอให้ใช้หลักธรรม นั่งสมาธิ ทำใจให้ว่าง และคิดเสียว่า กัมมุนา วัตตติโลโก สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ถ้าเข้าใจเช่นนี้ จะทำให้มีสุขภาพจิตที่ดีอย่างแน่นอน.

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top