วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568
‘คปท.’บุกกรมราชทัณฑ์ ดักคออย่าอุ้ม‘แม้ว’ เตือนม.157รออยู่ข้างหน้า

‘คปท.’บุกกรมราชทัณฑ์ ดักคออย่าอุ้ม‘แม้ว’ เตือนม.157รออยู่ข้างหน้า

วันเสาร์ ที่ 13 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

คปท.’บุกกรมราชทัณฑ์

ดักคออย่าอุ้ม‘แม้ว’

เตือนม.157รออยู่ข้างหน้า

จี้ปรับเป็นนักโทษชั้นเลว

เผยอาการเทวดาคืนที่3

กินได้แต่ความดันขึ้นสูง

คปท.ยังตามกะซวกเทวดา “ทักษิณ” จี้กรมราชทัณฑ์ ปรับเป็นนักโทษชั้นเลวจากเหตุเคยบ่ายเบี่ยงเข้าคุก พร้อมเตือน ขรก.อย่าคิดอุ้มแม้ว เพราะ ม.157 รออยู่ข้างหน้า ฝ่าย “แม้ว” นอนเรือนจำ คืนที่ 3 ยังกินได้ปกติ แต่ความดันขึ้นสูง “อิ๊งค์” จะไปเยี่ยม หลังผ่านการกักโรค

จากกรณีเรือนจำกลางคลองเปรม รับตัว นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ผู้นำจิตวิญญาณพรรคเพื่อไทย หลังศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ไว้คุมขังตามคำพิพากษาของศาลให้บังคับโทษจำคุกแก่จำเลย โดยให้จำคุก 1 ปี ขณะนี้อยู่ระหว่างการกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน


เมื่อวันที่ 12 กันยายน พ.ต.ท.เชน กาญจนาปัจจ์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ในฐานะโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยกรณีการควบคุม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ภายในเรือนจำกลางคลองเปรม เป็นคืนที่สาม (11 ก.ย.) ว่า เบื้องต้นได้รับรายงานการหลับนอนยังคงปกติ ไม่มีอาการเครียด สามารถทานอาหารได้ครบทุกมื้อ แต่พบมีความดันขึ้นสูงมากกว่าปกติและนำยาประ จำตัวเข้ามาไว้ทานเรียบร้อยแล้ว ไม่มีอะไรน่ากังวล ส่วนการอยู่กับผู้ต้องขังอื่นทราบว่าได้พูดคุยตามปกติทั่วไป ไม่มีการเก็บตัวแต่อย่างใด

พ.ต.ท.เชน เผยว่า นายทักษิณอยู่แดนกักโรคโควิด-19 ระยะเวลา 5 วัน ตามมาตรการเรือนจำฯ จากนั้นค่อยพิจารณาจำแนกผู้ต้องขังย้ายแดนตามความเหมาะสม

อย่างไรก็ตาม ที่มีกระแสข่าวเรื่องการพิจารณาช่วยงานสาธารณะของทางเรือนจำฯนั้น มีขั้นตอนระเบียบเรื่องการเขียนโครงการฝึกทักษะ ความสามารถ และใช้ระยะเวลามากกว่า 30 วัน ทำให้ช่วงแรก นายทักษิณ ยังคงอยู่ในเรือนจำฯไปก่อน

ด้าน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์ว่ายังไม่ทราบเรื่องที่นายทักษิณ มีความดันสูง และว่าถ้ากรมราชฑัณฑ์เปิดให้เยี่ยมได้เมื่อไหร่ก็จะไปเมื่อนั้น ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนการกักโรค

จี้ปรับเป็นนักโทษชั้นเลว

วันเดียวกันที่ กรมราชทัณฑ์ จ.นนทบุรี นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) พร้อมด้วยมวลชนของ คปท. กลุ่มศูนย์รวมประชาชนปกป้องสถาบัน (ศปปส.) กองทัพธรรม รวมตัว ยื่นหนังสือคัดค้านกรมราชทัณฑ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำนายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องขังที่จะถูกนำออกไปคุมขังนอกเรือนจำ จากคดีที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง มีคำสั่งบังคับโทษจำคุกนายทักษิณ เป็นเวลา 1 ปี

นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำกลุ่ม คปท. เปิดเผยว่า ต้องการเรียกร้องให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ปรับสถานะการเป็นผู้ต้องขังชั้นกลางให้เป็นนักโทษชั้นเลว เนื่องจากพฤติการณ์ของนายทักษิณที่หลบเลี่ยงไม่ยอมรับโทษในเรือนจำ และระบุว่าอาจเป็นเงื่อนไขให้นำไปสู่การให้นายทักษิณได้รับการพักโทษนอกเรือนจำ หรือเข้าสู่กระบวนการพระราชทานอภัยโทษรอบใหม่ ซึ่งหากอธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้เกี่ยวข้องดำเนินการในขั้นตอนดังกล่าว จะเป็นการช่วยเหลือนายทักษิณ และสุ่มเสี่ยงที่อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และพวกอาจถูกดำเนินคดีในความผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ

เตือนจนท.อย่าอุ้มแม้ว

ทั้งนี้ ทางกรมราชทัณฑ์ไ ด้ให้ผู้ตรวจราชการกรมราชทัณฑ์ เป็นตัวแทนกรมฯ มารับหนังสือร้องเรียนดังกล่าว พร้อมจะนำเรื่องแจ้งให้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องรับทราบ

ด้านนายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ได้โพสต์คลิปลงบนเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ ทักษิณ : กัมมุนา วัตตติโลโก โดยแนะนำให้นายทักษิณ ยึดมั่นในธรรม

แต่สิ่งที่น่ากังวลต่อไป คือนายทักษิณจะถูกคุมขังเป็นเวลา1ปี หรือ8ปีตามโทษเดิม เพราะปัญหาอยู่ที่การขอพระราชทานอภัยโทษครั้งที่ผ่านมา ว่าได้ทำถูกต้องและชอบธรรม หรือถูกต้องตามระเบียบหรือไม่ การขอพระราชทานโทษตามระเบียบของกรมราชทัณฑ์ จะต้องเป็นนักโทษเด็ดขาด และต้องเขียนในขณะที่ถูกจองจำอยู่ในเรือนจำ ซึ่งที่ผ่านมามีนักโทษหลายคนใช้สิทธิ์ขอพระราชทานอภัยโทษ แต่กระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษใช้เวลายาวนาน2ปี 3ปี หรือ5ปีก็มี แต่ในกรณีของนายทักษิณ การขอพระราชทานอภัยโทษใช้เวลาเพียง2วันเท่านั้น

ถ้าเทียบกับกรณีของผม ในฐานะที่เป็นนักโทษคนหนึ่งในขณะนั้น ได้ขอพระราชทานอภัยโทษเช่นเดียวกัน จนถึงบัดนี้ผมพ้นโทษไปแล้ว แต่ยังไม่ได้ทราบข่าวความคืบหน้า ว่าขั้นตอนกระบวนการขอพระราชทานอภัยโทษของผม ดำเนินการไปถึงไหน ขณะที่ของนายทักษิณใช้เวลาเพียง2วัน แต่ผมใช้เวลา2ปีกว่า ก็ยังไม่ทราบข่าวความคืบหน้า ซึ่งเป็นการสร้างความเหลื่อมล้ำในหมู่นักโทษเป็นอย่างยิ่ง

แม้วถอนฟ้องหมิ่นป่วยทิพย์

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีต สส.พัทลุง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ” ระบุว่า...ได้พิสูจน์ความเชื่อแล้ว ในทางปรัชญา เขาถือหลักว่า มนุษย์ต้องมีความเชื่อในอะไรสักอย่าง ถ้าไม่เชื่ออะไรเลย ก็ให้เชื่อในสัญชาติญาณของตัวเอง คดีที่คุณทักษิณฟ้องคนจังหวัดกระบี่ว่าหมิ่นประมาท กรณีลงเฟสทำนองว่า คุณทักษิณป่วยทิพย์ เมื่อวานนี้(11 ก.ย.2568) ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ผู้รับมอบอำนาจจากคุณทักษิณ ได้มีการถอนฟ้อง ศาลจำหน่ายคดีไปแล้ว

ได้ท่านผู้พิพากษาที่มีประสบการณ์สูงนั่งพิจารณาคดี ทำให้คู่กรณียุติคดีกันได้ ผมและจำเลย เพียงแต่ต้องการพิสูจน์การป่วยของคุณทักษิณเท่านั้น แต่เมื่อศาลฎีกาได้มีคำวินิจฉัยไปก่อนแล้ว เรื่องนี้ก็ไม่ต้องพิสูจน์อะไรกันอีก ส่วนจำเลยในฐานะอาวุโสน้อยกว่าก็กล่าวว่า หากในอดีตมีการกระทำที่ล่วงเกินก็ขออภัยคุณทักษิณ

การต่อสู้ในในหลักการบางอย่าง มีต้นทุนทั้งนั้น ผมก็ใช้ต้นทุนค่าใช้จ่ายในการเดินทางร่วม 2 ปี ก็น่าจะร่วมๆแสนบาท จำเลยก็ใช้อิสรภาพของตัวเองเพื่อพิสูจน์ความจริงตามที่เขาเชื่อ เมื่อการต่อสู้เดินมาถึงปลายทางเราต่างก็ได้พิสูจน์สิ่งที่เราเชื่อและสิ่งที่เราศรัทธา เราไม่ได้โกรธเกลียดอะไรกันเป็นการส่วนตัว เมื่อความจริงได้ถูกพิสูจน์แล้ว จากนั้นต่างคนต่างก็กลับบ้าน ผมไม่อยากให้ท่านผู้อ่านแสดงความเห็นอะไร เพียงแจ้งให้ทราบเท่านั้นครับ

ทบทวนระเบียบราชฑัณฑ์

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือ ป.ป.ช. เสนอคณะรัฐมนตรีทบทวนระเบียบราชทัณฑ์ กันการเอื้อประโยชน์นักโทษบางราย ซึ่งตรงกับช่วงที่นายทักษิณ ชินวัตร ถูกจำคุก ว่า ก็ไม่เป็นไร เป็นอำนาจหน้าที่ของแต่ละฝ่าย ใครมีอำนาจหน้าที่อย่างไร ก็พิจารณาทำไปให้ดีที่สุด ซึ่งคงไม่ทันคณะรัฐมนตรีชุดตนเอง ก็ให้รัฐบาลใหม่ว่ากันไป

ผู้สื่อข่าวถามว่าเป็นการบังเอิญในช่วงที่นายทักษิณเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมพอดี หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ความบังเอิญมีเยอะเหลือเกิน ถ้าตอบคำถามความบังเอิญคงเหนื่อยแย่

ชูนักโทษแม้วเป็นสุภาพบุรุษ

นายภูมิธรรม ยับตอบคำถาม การที่ผู้นำจิตวิญญาณอย่างนายทักษิณ ยอมรับกระบวนการยุติธรรม จะทำให้กระแสของพรรคดีขึ้นหรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนไปประเมินตรงนั้นไม่ได้ แต่เชื่อว่านายทักษิณได้ดำเนินการมาทั้งหมด

“ผมคิดว่าท่านแมนนะ เป็นสุภาพบุรุษนักสู้คนหนึ่ง ซึ่งท่านมีโอกาสที่จะหนีได้อยู่แล้ว เพราะท่านอยู่นอกประเทศ และหลายคนก็เห็นว่าท่านบินออกไปแล้ว แต่ท่านก็กลับมา เพราะท่านเชื่อมั่นว่าไม่ได้มีความผิดมากอะไร ท่านก็มารับและเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม“ นายภูมิธรรม กล่าว

นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า เพราะฉะนั้น กระบวนการตัดสินใจอย่างไร ท่านก็พร้อมปฏิบัติ ซึ่งตนคิดว่าเป็นหัวใจของนักสู้ที่ยิ่งใหญ่ อดีตนายกรัฐมนตรีที่ยังกล้าเผชิญกับสิ่งต่างๆ สำหรับตนถือว่าได้ใจ แต่สำหรับคนอื่น คนที่เห็นใจและเข้าใจท่านก็มีเยอะ จะมากหรือน้อยก็ไปดูตามโพลเอาก็ได้ เดี๋ยวเขาคงทำ

เดินหน้าถอด”ทรงศัก”

จากกรณี นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ประธานเครือข่ายมหาวิทยาลัยเพื่อการปฏิรูปประเทศ ได้โพสต์เฟซบุ๊กเชิญชวนให้ร่วมลงชื่อสนับสนุนการยื่นถอดถอนนายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ฐานกระทำความผิดจริยธรรมร้ายแรง จากกรณีนายทรงศัก เคยมีคำวินิจฉัยรับรองนายทักษิณ ชินวัตร ในกรณีเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลตำรวจ ซึ่งต่อมาคณะกรรมการแพทยสภาฯ ได้มีมติว่าไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์ชัดเจนว่านาย ทักษิณ ชินวัตร ป่วยวิกฤตจริง และได้ลงโทษแพทย์ 3 ราย ในประเด็นการให้ข้อมูลทางการแพทย์ไม่ตรงหลักฐานความเป็นจริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น

ล่าสุด นางวิรังรอง ทัพพะรังสี ได้มาอัพเดทยอดรวมลงชื่อสนับสนุนการยื่นถอดถอน นายทรงศัก สายเชื้อ ผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำความผิดจริยธรรมร้ายแรงกรณีชั้น 14 อยู่ที่ 733 ราย ซึ่งขณะนี้ยังไม่ได้ปิดลงชื่อ

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top