กระตุก‘ประชาธิปัตย์’! ถือโอกาสรีเซ็ต ยึดมั่น‘อุดมการณ์’ต้านเผด็จการ ฟื้นศรัทธากลับคืนมา

กระตุก‘ประชาธิปัตย์’! ถือโอกาสรีเซ็ต ยึดมั่น‘อุดมการณ์’ต้านเผด็จการ ฟื้นศรัทธากลับคืนมา

วันอาทิตย์ ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2568, 07.45 น.

กระตุก‘ประชาธิปัตย์’! ถือโอกาสรีเซ็ต ยึดมั่น‘อุดมการณ์’ต้านเผด็จการ ฟื้นศรัทธากลับคืนมา

14 กันยายน 2568 นายเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก “เทพไท – คุยการเมือง” หัวข้อ “อุดมการณ์ สำคัญกว่าตัวบุคคล” ระบุว่า...


อุดมการณ์ สำคัญกว่าตัวบุคคล

หลังจาก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์แล้ว มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ มีข้อเสนอเกี่ยวกับตัวบุคคลที่จะเข้ามาเป็นหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์คนใหม่ พูดถึงบุคคลที่เหมาะสม ที่จะเข้ามากอบกู้พรรคประชาธิปัตย์ให้กลับมายิ่งใหญ่เหมือนเดิม

ในฐานะที่เป็นศิษย์เก่าพรรคประชาธิปัตย์ และปัจจุบันผันตัวมาเป็นนักวิเคราะห์ทางการเมือง อยากจะแสดงความเห็นเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงในพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากคณะกรรมการบริหารพรรคชุดนี้ได้สิ้นสภาพไปทั้งชุด หลังจากนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ได้ลาออกจากหัวหน้าพรรคแล้ว ก็เป็นโอกาสของพรรคประชาธิปัตย์ ที่จะสรรหาผู้นำพรรคคนใหม่ แต่ผู้นำพรรคคนใหม่ แม้ว่าจะมีบทบาทสำคัญจะเป็นธงนำของพรรคในทางการเมืองก็ตาม

แต่สิ่งที่สำคัญกว่าตัวบุคคล หรือตัวหัวหน้าพรรค นั้นก็คือจุดยืนทางการเมือง และอุดมการณ์ทางการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์

ที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ตกต่ำลง เพราะไม่มีการรักษาไว้ซึ่งอุดมการณ์ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่ได้ประกาศมาตั้งแต่ 6 เมษายน 2489 เป็นเวลาร่วม 80 ปีแล้วอุดมการณ์ 10 ข้อ และข้อที่สำคัญที่สุด คือ ข้อ 4 พรรคประชาธิปัตย์ต่อต้านเผด็จการทุกรูปแบบ

แต่ช่วงหลังพรรคประชาธิปัตย์กลับมีปัญหาในด้านอุดมการณ์ คือ พรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้าร่วมกับรัฐบาลที่มาจากคณะรัฐประหาร และล่าสุดเข้าร่วมกับระบอบทักษิณ ทำให้แนวทางของพรรคประชาธิปัตย์ทางการเมืองเปลี่ยนไป จากการยึดมั่นอุดมการณ์ในการต่อสู้ทางการเมือง มาเปลี่ยนไปการดำเนินการทางการเมืองอิงระบบทุน จึงทำให้กลุ่มผู้สนับสนุนของพรรคประชาธิปัตย์สับสน

การเปลี่ยนแปลงในครั้งนี้ เป็นโอกาสที่จะรีเซ็ต หรือปรับปรุงพรรคประชาธิปัตย์ใหม่ ผมอยากจะเสนอให้พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค เพื่อเรียกศรัทธาจากประชาชนกลับคืนมา

นั่นก็คือการต่อสู้และต่อต้านกับเผด็จการทุกรูปแบบ ทั้งเผด็จการทหาร เผด็จการทุนสามานย์ และเผด็จการอื่นใดที่จะเกิดขึ้น

อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ดำเนินงานทางการเมืองที่ชัดเจน ใช้อุดมการณ์มากกว่าใช้ระบบเงินทุนดำเนินการทางการเมือง ต้องมีความชัดเจนในแนวทางการเมือง

ไม่ใช่การใช้วิธีแบบไฮบริด คือ ยึดอุดมการณ์แบบก้ำๆกึ่งๆ ใช้ระบบทุนในการเลือกตั้งผสมเข้ามาด้วย ซึ่งจะเป็นความลักลั่นที่เกิดขึ้นในทางการเมือง

พรรคประชาธิปัตย์จะก้าวหน้า จะมั่นคงได้ ก็ยึดถืออุดมการณ์ของพรรคเป็นที่ตั้ง จะได้จำนวนที่นั่งส.ส.มากน้อยเพียงใดไม่ใช่สาระสำคัญ เพราะสาระสำคัญคืออุดมการณ์ ถ้าพรรคมีอุดมการณ์ พรรคก็ค่อยๆพัฒนาเติบโตขึ้นไปได้

ในอดีตที่ผ่านมาประชาธิปัตย์ เคยรุ่งโรจน์ เคยตกต่ำ ก็เป็นเรื่องธรรมดาทางการเมือง และเชื่อว่าถ้ายังยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรคอย่างเคร่งครัด

พรรคประชาธิปัตย์ ก็มีโอกาสเจริญก้าวหน้าในโอกาสต่อไป

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top