กู้ซาก‘เพื่อไทย’! ภูมิธรรมนำทีมปรับปรุงแนวทางบริหาร สกัดเลือดไหล ฝันกลับมายิ่งใหญ่

กู้ซาก‘เพื่อไทย’! ภูมิธรรมนำทีมปรับปรุงแนวทางบริหาร สกัดเลือดไหล ฝันกลับมายิ่งใหญ่

วันจันทร์ ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2568, 13.30 น.

‘ภูมิธรรม’ฟุ้งผลเลือกตั้งซ่อมเชียงราย ‘เพื่อไทย’ฐานเสียงยังแน่น บอกถึงเวลาปรับปรุงพรรคให้แข็งแรง กลับมายิ่งใหญ่ ขอประชาชนติดตามการเปลี่ยนแปลง ปัด‘ทักษิณ’เข้าคุกเรียกคะแนนสงสารให้ ย้ำสู้เพื่อความบริสุทธิ์ให้จบเรื่อง เชื่อศรัทธาพรรคยังอยู่ไม่หายไปไหน

เมื่อเวลา 11.10 น.วันที่ 15 กันยายน 2568 ที่พรรคเพื่อไทย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรมว.มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทย (พท.) ชนะการเลือกตั้งซ่อมที่เขต 7 เชียงราย ว่า การเลือกตั้งที่เชียงรายเป็นสิ่งที่ยืนยันว่าสิ่งที่ตนเคยพูดว่าพรรคเพื่อไทยโดยรวมทั้งหมดไม่ได้กระทบอะไร เพราะฐานเสียงจริงๆของพรรคเพื่อไทยยังคงอยู่ ฉะนั้นที่บอกว่าหลังจากนี้ไป เรามีโอกาสได้กลับมาทบทวนดำเนินการต่างๆ รวมถึงผู้แทนของพรรค ตนคิดว่าจะสามารถทำความเข้าใจกันได้ และมาช่วยกันปรับปรุงสร้างพรรคให้แข็งแรงได้ ส่วนที่บอกว่าจะมีคนออกหรือเลือดไหลออกไปบ้าง ขณะนี้ยังไม่มีลักษณะที่จะเป็นอย่างนั้นไปมากมาย ล้วนแต่เป็นข่าว กระแสข่าว ข่าวลือ ข่าวปล่อย อาจทำให้เกิดความสับสนได้


“ผมคิดว่าความไม่พึงพอใจสส.ในพรรคเกี่ยวกับการบริหารจัดการที่ผ่านมามีปัญหาอยู่จริง เดี๋ยวพวกเราจะเข้ามาช่วยดู และจะช่วยกันแก้ไข เพราะที่ผ่านมาทีมที่เป็นอดีตผู้บริหารพรรค หรือคนทำงานให้พรรค ไปเป็นคณะรัฐมนตรี (ครม.) ฝ่ายบริหาร บางทีขาดความเชื่อมโยง ประสาน และมีปัญหาอยู่บ้าง ตรงนั้นคงใช้เวลาไม่นาน ขณะนี้ได้มีการพูดคุยกับกลุ่มแกนแต่ละส่วนอยู่บ้างแล้ว” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามถึงกรณีที่แม้ผลการเลือกตั้งพรรคเพื่อไทยจะชนะ แต่มีผลการสำรวจว่าคะแนนของพรรคเพื่อไทยเป็นรองพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ทำให้หลายฝ่ายมองว่าถึงจุดวิกฤตของพรรคเพื่อไทย เลือกตั้งครั้งหน้า อาจจะไม่ได้สส.เท่าแบบเดิม นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนมองว่าเมื่อวานผลที่ออกมาพรรคเพื่อไทย ทิ้งห่างพรรคประชาชนเป็นเท่าตัว ซึ่งการทำโพลช่วงก่อนการเลือกตั้งตนมองว่าไม่ค่อยเหมาะสมเท่าไหร่ ตามกฎหมายไม่ควรทำ เป็นการชี้นำแต่ผลความเป็นจริงของคะแนนออกมาให้เห็นเป็นอย่างไร เชื่อว่าคะแนนที่เป็นแฟนคลับเพื่อไทย ไม่ได้ห่างหายไปไหน เขาก็ยังรักและศรัทธาพรรคเพื่อไทย ปัญหาอยู่ที่พรรคเพื่อไทยจะเดินไปในจุดยืนในเป้าหมายหรือทิศทางที่สมาชิกพรรคยังเข้าใจยังศรัทธาอยู่หรือไม่ ตนเชื่อว่าสิ่งนี้ยังมีอยู่เต็มเปี่ยม 

“เราต้องปรับปรุง เพื่อเข้าไปสู่จุดที่เราคิดว่าเราจะกลับมาอย่างยิ่งใหญ่ เป็นพรรคที่ได้รับการยอมรับ และเป็นความเชื่อมั่นของประชาชน ที่มีต่อพรรคในการเข้ามาแก้ไขปัญหาต่างๆให้มากขึ้น ที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีการกล่าววิพากษ์วิจารณ์บ้างว่าเรามีปัญหา ไม่สามารถทำตามนโยบายต่างๆได้ ก็ต้องยอมรับว่าที่ผ่านมาเราพยายามทำหลายเรื่องมากตั้งแต่เข้ามา นโยบายของเราเกือบทุกส่วน ได้พยายามผลักดันแต่พบว่ามีอะไรหลายอย่าง ที่ไม่ไปสู่เป้าหมายมีอุปสรรคและกลไกที่ขัดขวางอยู่ แม้กระทั่งมุมมองพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกัน” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าสถานการณ์ของพรรคเพื่อไทยตอนนี้มองว่าเป็นช่วงขาลง หลังจากนี้ก่อนมีการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะมีการเรียกศรัทธากลับมาเหมือนเดิมได้อย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ต้องบอกว่าเรื่องขาขึ้นขาลง เราไม่ได้กังวลใจตรงนี้เท่าไหร่ การวิพากษ์วิจารณ์ว่าเรามีปัญหาต่างหาก เป็นเรื่องที่เราสนใจ และเราเก็บรวบรวมทั้งสส. และสมาชิกพรรค ทุกส่วนทั้งเรื่องการวิพากษ์วิจารณ์ที่มีอยู่ในโซเชียลมีเดียทั้งหมด วันนี้เราหันกลับมาดูตัวเองและแข่งกับตัวเอง เรายังหวงแหนความรักและความศรัทธาพี่น้องประชาชนและสมาชิกพรรคให้กับเรา ฉะนั้น สิ่งที่อาจจะมีปัญหาบ้าง ความไม่เข้าใจบ้าง การชี้แจงน้อยเกินไปบ้าง หรือการดำเนินการที่อาจจะละเลยบางสิ่งบางอย่างไปบ้าง สิ่งเหล่านี้จะได้รับการแก้ไข

“ผมคิดว่าอยากให้ติดตามเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของพรรคเพื่อไทย หลังจากที่เรากลับมาเป็นฝ่ายค้าน คงไม่นานเกินไป เพราะตอนนี้ยังมีเวลาเหลือ ถ้ารัฐบาลนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกฯ และพรรคประชาชน รักษาสัญญาที่จะยุบสภาฯ ภายใน 4 เดือน ซึ่งมีเวลาไม่มากแล้ว เรื่องนี้ผมคิดว่าการกลับมาสนใจปรับปรุงพรรคและเตรียมการเลือกตั้ง เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด และอยากให้ติดตามดู” นายภูมิธรรม กล่าว

เมื่อถามว่าหลังจากนี้จะมีการระดมสรรพกำลังเพื่อเรียกศรัทธาพรรคเพื่อไทยกลับมาใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ตนคิดว่าเรากลับมาเต็มรูปแบบของเราที่เคยทำ เพราะแกนนำทั้งหมดกลับมาหมดแล้ว และขณะนี้กำลังพูดคุยกันในแต่ละส่วนเพื่อเตรียมวางแผนในการทำหน้าที่ฝ่ายค้าน อย่างเต็มภาคภูมิ และทำหน้าที่ในการเตรียมการเลือกตั้ง เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจ หากสัญญาในการตั้งรัฐบาล ครั้งนี้ไม่มีการเปลี่ยน

เมื่อถามว่าการที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ยอมเข้าเรือนจำ เพื่อให้พรรคเดินหน้าต่อไปได้ สิ่งนี้จะทำให้เรียกศรัทธาแฟนคลับพรรคเพื่อไทยกลับมาได้มากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรม กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน ที่จริงนายทักษิณไม่ได้เริ่มต้นจากการยอมติดคุกหรือยอมเข้าสู่กระบวนการเพื่อให้พรรคเพื่อไทยเดินต่อได้ เพราะอย่างไรพรรคเพื่อไทยก็เดินต่อได้อยู่แล้ว ส่วนการที่นายทักษิณตัดสินใจเพราะท่านอายุมากแล้ว และสู้เพื่อความบริสุทธิ์ของท่าน ทำให้ตัดสินใจเข้าสู่กระบวนการ แต่เมื่อผลออกมาแบบนี้ท่านก็ยอมรับ และเป็นการเข้าไปเพื่อให้จบเรื่องนี้ เนื่องจากเป็นเงาที่ติดตัวนายทักษิณมาตลอด

เมื่อถามว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าพรรคเพื่อไทยจะได้คะแนนสงสารจากการที่นายทักษิณเข้าเรือนจำมองอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ปฏิเสธไม่ได้ว่ามีคนที่รักนายทักษิณและเห็นใจพรรคเพื่อไทย เพราะตลอดการต่อสู้ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยมาจนถึงพรรคเพื่อไทย เราเป็นพรรคการเมืองที่นายกฯถูกศาลและกระบวนการยุติธรรม ตัดสิทธิ์หรือทำให้พ้นจากตำแหน่งมากที่สุด และอีกอย่างพรรคเพื่อไทยเป็นพรรคพรรคที่ต่อสู้เรื่องประชาธิปไตยมาอย่างยาวนาน ทำให้เห็นว่าพรรคถูกกระทำมาโดยตลอด ซึ่งสิ่งที่ผู้นำจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทยถูกตัดสินในครั้งนี้ น่าจะเป็นความเห็นอกเห็นใจ และความเห็นอกเห็นใจนี้จะแปลเปลี่ยนเป็นอะไรก็ขอให้ติดตาม แต่ต้องยอมรับว่านายทักษิณ เป็นนายกรัฐมนตรีที่ดีคนหนึ่งที่ประเทศไทยเคยมี และทำสิ่งต่างๆให้กับประเทศไทยซึ่งก็ใช้มาจนถึงทุกวันนี้ อย่างโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค

“ความเป็นพรรคเพื่อไทยที่ต่อเนื่องมาจากพรรคไทยรักไทย ยังอยู่ในความทรงจำของประชาชน และเชื่อว่าศรัทธาตรงนี้คงไม่หายไปไหนง่ายๆ เราจะฟื้นฟูและคิดต่อสิ่งต่างๆที่ทำมา” นายภูมิธรรม กล่าว

-005

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top