ธปท.ปรับมาตรการช่วยคนบริสุทธิ์
เร่งปลดระงับบช.
ภายใน3-4ชม.ไม่ต้องรอ72ชั่วโมง
ศปอท.โต้โทร.1441ติดยาก
พี่ศรีฯยื่นปปช.สอบดีอี-ธปท.
อายัดมั่วทำคนเดือดร้อนทั้งปท.
ธปท.แถลงพร้อมปลดล็อกให้ผู้บริสุทธิ์ เน้นบัญชีจำนวนเงินไม่มาก 100-500 บาท พร้อมลดระยะเวลาปลดระงับให้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอให้ถึง 72 ชั่วโมง หรือ 7 วัน แจงไทม์ไลน์ตรวจสอบข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับจาก ศปอท. เร็วที่สุด ไม่เกินกว่า 2 ชั่วโมง วันละ 3 รอบ เพื่อส่งกลับให้ ศปอท. ประมวลผล (ไม่เกิน 2 ชั่วโมง) และส่งกลับมาแจ้ง ธพ. เพื่อปลดล็อกธุรกรรมได้ภายใน 3-4 ชั่วโมง อีกทั้ง จับมือทุกหน่วยงานวางเงื่อนไขปลดล็อกบช.ภายในสิ้นก.ย. ด้านศปอท. เผยได้รับอำนาจสั่งถอนอายัดบัญชีได้โดยตรง กรณีระงับโอนชั่วคราว โต้โทรสายด่วน AOC 1441 ไม่ติด ยันเพิ่มจนท.-คู่สายรับเรื่องเกิน 100 คู่สาย ขณะที่»ศรีสุวรรณ»ร้อง ป.ป.ช. สอบกระทรวงดีอี-ตำรวจไซเบอร์-ธปท.-ปปง. อายัดบัญชีมั่ว ทำประชาชนเดือดร้อนทั้งประเทศโดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อย พ่อค้าแม่ค้า คนส่งของ แต่ไม่มีหน่วยงานใดออกมาแสดงความรับผิดชอบ
ความคืบหน้ากรณีมีประชาชนจำนวนมากได้รับผลกระทบจากการระงับบัญชีธนาคารชั่วคราว ซึ่งเป็นมาตรการตรวจสอบและปิดกั้นบัญชีม้าของมิจฉาชีพ เพื่อติดตามเส้นทางการเงิน และนำเงินจากการก่ออาชญากรรมออนไลน์ของมิจฉาชีพกลับคืนมาให้ผู้เสียหาย เป็นกลไกตามพระราชกำหนด (พ.ร.ก.) มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 ตามมาตรา 6 และมาตรา 7 ซึ่งธนาคารมีหน้าที่ในการระงับการทำธุรกรรมทางการเงินเป็นการชั่วคราวนั้น
ธปท.เร่งวางเงื่อนไขปลดล็อกบช.ม้า
เมื่อวันที่ 15 กันยายน นางสาวดารณี แซ่จู ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับระบบชำระเงินฯ ธนาคารแห่งประเทศไทยกล่าวว่า จากปัญหาชาวบ้านถูกระงับธุรกรรมและระงับวงเงิน แต่ไม่ได้ระงับเงินในบัญชีช่วงเดือนกันยายน ตรวจพบบัญชีต้องสงสัยเฉลี่ย 10,000 บัญชี/สัปดาห์ ยอมรับว่าการคุมเข้มช่วงที่ผ่านมา เพื่อต้องการกวาดเอาเส้นทางบัญชีที่เกี่ยวข้องมาตรวจสอบ ทั้งโอนเงินผ่าน e-money และคริบโตฯ ทำให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ได้รับผลกระทบบางส่วน ในการทำธุรกรรมทางการเงิน ธปท. จึงเร่งหารือกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกำหนดเงื่อนไขให้เสร็จภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้
มุ่งปลดล็อกให้ผู้บริสุทธิ์-เงินในบช.ไม่มาก
“ธปท., ธนาคาร, ตำรวจ ศปอท. พร้อมปลดล็อกให้ผู้บริสุทธิ์ มุ่งเน้นบัญชีจำนวนไม่มาก เช่น วงเงิน 100-500 บาท หรือร้านค้าที่ซื้อของมาประกอบอาหารหรือสินค้าในร้านเป็นประจำในยอดเงินที่ไม่สูงมากนัก กลุ่มเหล่านี้จะเร่งตรวจสอบ เพื่อแจ้งข้อมูลให้ลูกค้าบัญชีรับทราบ พร้อมทำอย่างรวดเร็ว และมุ่งทำความเข้าใจกับร้านค้าให้เกิดความเชื่อมั่น และรับเงินโอนจากลูกค้า เพราะที่ผ่านมายอดปฏิเสธรับโอนเงินไม่สูงมากนัก หากตรวจสอบเสร็จแล้วคาดว่าใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง-1 วัน”นางสาวดารณีกล่าว
ใครบริสุทธิ์โทรแจ้ง1441ให้ปลดระงับบช.ได้
และว่า ธปท. มุ่งเน้นมาตรการจัดการบัญชีม้า โดยหารือกับหน่วยงานต่างๆ และเร่งแก้ไขในส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อลดผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์ แนวคิดของมาตรการแก้ปัญหาบัญชีม้าที่ต้องตามอายัดหรือระงับธุรกรรมทุจริต ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในกระบวนการทั้งหมดต้องรักษาสมดุลระหว่างการช่วยเหลือเหยื่อให้สูญเสียให้น้อยที่สุด กับความสะดวกในการใช้บริการ Mobile banking ของประชาชนทั่วไป หากรู้ตัวเองว่าสุจริตให้โทรแจ้ง 1441 ให้แจ้งเลขบัญชี ธนาคารเจ้าของบัญชี และบัตรประชาชน เพื่อให้พิจารณาปลดออกจากการระงับ ยอมรับที่ผ่านมา แจ้งเข้ามา 100 สาย พิจารณาปลดให้ได้เพียง 11 รายเท่านั้น
แฉบช.ม้าฉวยโอกาสขอแบงก์ปลดล็อก
นางสาวดารณีกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมามาตรการแก้ไขบัญชีม้ามีออกมาต่อเนื่อง แต่ยังมีผู้เสียหายจำนวนมาก ดังนั้น ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) และ ธพ. ได้เพิ่มประสิทธิภาพแก้ปัญหาบัญชีม้า ด้วยการขยายขอบเขตการติดตามเส้นเงินในการทำทุจริต เพื่อกักเงินมาคืนเหยื่อ/ผู้เสียหายให้ได้มากที่สุด ทำให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ในเส้นเงินมากขึ้น ยอมรับมีบัญชีม้าโทรแจ้งไปยังหลายแบงก์พร้อมกัน เพื่อขอให้ปลดด้วยเช่นกัน แต่ทางการมีข้อมูล จึงปลดให้ไม่ได้
ลดเวลาปลดระงับบช.เร็วขึ้นไม่ต้องรอ72ชม.
ธปท. จึงได้หารือกับ ศปอท. สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) และ ธพ. เห็นชอบร่วมกัน เพื่อปรับแนวทางการระงับธุรกรรมและกระบวนการปลดการระงับ เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์ โดยลดระยะเวลาการปลดการระงับให้เร็วขึ้น ไม่ต้องรอให้ถึง 72 ชั่วโมง หรือ 7 วันแล้วแต่กรณี ตามที่กำหนดใน พ.ร.ก. โดย ธพ. จะตรวจสอบข้อมูลของผู้ได้รับผลกระทบที่ได้รับจาก ศปอท. เร็วที่สุด ไม่เกินกว่า 2 ชั่วโมง (วันละ 3 รอบ) เพื่อส่งกลับให้ ศปอท. ประมวลผล (ไม่เกิน 2 ชั่วโมง) และส่งกลับมาแจ้งกลับมาที่ธนาคารพาณิชย์ เพื่อปลดล็อกธุรกรรมเร่งปรับการแจ้งผู้ถูกระงับธุรกรรมให้ชัดเจน ถึงลักษณะการถูกระงับและสิ่งที่ผู้ได้รับผลกระทบนั้นต้องทำต่อ และให้เป็นมาตรฐานยิ่งขึ้น โดยเร็วที่สุดภายใน 1 วัน หรือไม่เกิน 3-4 ชั่วโมงต่อรอบ
“โดยการถูกอายัดบัญชีกรณีทำทุจริตทางการเงิน ต้องเป็นผู้ที่มีหมายอายัดจากตำรวจ และ ปปง. ได้พิสูจน์ความผิดแล้ว โดยการปลดอายัดกรณีนี้จะมีกระบวนการที่ต่างออกไปจากการถูกระงับธุรกรรมข้างต้นสำหรับการพิจารณาระงับธุรกรรมในเส้นเงิน หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังเร่งปรับกระบวนการ ลดผลกระทบต่อผู้บริสุทธิ์โดยเร็ว ขณะที่ยังต้องดูแลเหยื่อให้ยังได้รับความช่วยเหลือที่เหมาะสม”นางสาวดารณีกล่าว
ติดดาบศปอท.ถอนอายัดบช.ที่ระงับชั่วคราว
ด้านนายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ศปอท.) หรือ ศูนย์ AOC 1441 กล่าวถึงสถานการณ์ล่าสุดเกี่ยวกับปัญหาการอายัดบัญชีประชาชนว่า ศูนย์ฯหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหาทางออกประเด็นการอายัดบัญชีธนาคาร ได้ข้อสรุปคือ ให้ AOC 1441 มีอำนาจถอนการอายัดบัญชีในกรณีที่เป็นเพียงการระงับชั่วคราว
แจงขั้นตอนโทรสายด่วน1441กด2ปลดบช.
ทั้งนี้ ประชาชนที่ได้รับผลกระทบสามารถโทรสายด่วน 1441 กด 2 เพื่อเข้ากระบวนการตรวจสอบ หากผลตรวจสอบชี้ชัดว่าไม่เกี่ยวกับคดีหรือไม่มีเหตุอันควรสงสัย ศูนย์ฯจะปลดล็อกบัญชีทันที ภายใต้อำนาจของหัวหน้าศูนย์ AOC 1441 แต่หากเป็นการอายัดตามหมายศาลภายใต้ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ป.วิอาญา) จะเป็นหน้าที่ของตำรวจดำเนินการต่อไป ในส่วนธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งเตรียมกำหนดมาตรการที่สอดคล้องกับการทำงานของ AOC 1441 เพื่อให้การดำเนินงานต่อเนื่องและลดผลกระทบกับประชาชนผู้ใช้บริการ
โต้โทรติดยาก-เพิ่มคู่สายด่วน/จนท.
สำหรับปัญหาที่ประชาชนร้องเรียนว่า โทรเข้าศูนย์ฯติดยากนั้น นายเอกพงษ์ยืนยันว่า ปัจจุบันศูนย์มี คู่สายมากกว่า 100 สาย และตลอดสองปีที่ผ่านมา สถิติการโทรติดอยู่ในระดับสูงกว่า 90% มาโดยตลอด อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคมที่ผ่านมา ศูนย์ได้รองรับการโอนสายตรงจากธนาคาร เพื่อให้ประชาชนแจ้งอายัดบัญชีได้โดยเร็ว ส่งผลให้จำนวนสายเพิ่มขึ้นอย่างมาก และทำให้บางช่วงเวลาเกิดภาวะคอขวด
“เพื่อแก้ปัญหานี้ เราเร่งเพิ่มทั้งคู่สายและจำนวนเจ้าหน้าที่ให้มากขึ้น เพื่อให้การตรวจสอบรวดเร็วและไม่สะดุด” ผอ.ศปอท.กล่าว และย้ำไปยังพ่อค้าแม่ค้าและผู้ประกอบการที่เริ่มกังวล จนไม่ยอมรับการโอนเงินว่า ไม่ควรตื่นตระหนก เนื่องจากกระบวนการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่และธนาคารมุ่งเน้นเฉพาะธุรกรรมที่ผิดปกติ เช่น บัญชีที่รับ–โอนเงินจากบัญชีม้าวันละหลายร้อยครั้ง ซึ่งเข้าข่ายต้องสงสัยตามพระราชกำหนดที่เกี่ยวข้อง
นายเอกพงษ์ยังยืนยันว่า จำนวนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจริงมีเพียงส่วนน้อย และทุกกรณีจะเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและปลดล็อกได้เร็วที่สุด ทั้งนี้ เรื่องการอายัดบัญชีถือเป็นประเด็นใหม่ที่ทุกหน่วยงานยังต้องปรับวิธีการทำงาน แต่ศูนย์ AOC 1441 พร้อมเร่งบูรณาการกับธนาคารและหน่วยงานด้านกฎหมาย เพื่อหาทางแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบและยั่งยืน
สว.แนะปชช.ถูกอายัดฟ้องจนท.ผิดม.157
ที่รัฐสภา นายอลงกต วรกี สมาชิกวุฒิสภา (สว.) ในฐานะประธานกมธ.ติดตามงบประมาณ วุฒิสภา แถลงถึงกรณีตำรวจไซเบอร์ใช้อำนาจรอายัดบัญชีถือว่าขัดต่อสิทธิและเสรีภาพของประชาชนตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ว่า การอายัดบัญชี แม้จะเป็นอำนาจตำรวจไซเบอร์ แต่การอายัดปฏิบัติตามวิธีปกครองหรือไม่ เพราะก่อนอายัดตำรวจ พนักงานสอบสวน หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องเรียกเจ้าของบัญชีมาชี้แจงก่อน ถ้าชี้แจงไม่ได้ จึงค่อยอายัดบัญชีและการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่จะเข้าข่ายปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ หากผู้ที่ได้รับผลกระทบได้รับความเสียหาย สามารถแจ้งความเอาผิดเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 157 ได้ แต่ถ้าต้องการเรียกค่าเสียหายต้องฟ้องเรียกค่าเสียหาย อย่างไรก็ตาม สัปดาห์หน้าจะเชิญสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ตำรวจไซเบอร์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอื่นๆเข้าชี้แจงต่อกมธ.ฯถึงปัญหาที่เกิดขึ้น
พี่ศรีร้องปปช.สอบ4หน่วยงานอายัดบช.มั่ว
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปราบการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)นนทบุรี นายศรีสุวรรณ จรรยา ผู้นำองค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน ยื่นคำร้องขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยผู้รับผิดชอบในกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และปปง. กรณีมีประชาชนจำนวนมากเดือดร้อนและเสียหาย เนื่องจากถูกอายัดเงินในบัญชีธนาคาร เพราะถูกกล่าวหาเป็นเครือข่ายพวกบัญชีม้า โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่เตรียมการล่วงหน้าในการป้องกันแก้ปัญหาให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์ที่ได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้ พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 2566 แต่อย่างใด
ทั้งนี้ สืบเนื่องจากพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เปลี่ยนวิธีการนำเงินที่หลอกลวงผู้เสียหายออกจากระบบโดยอาศัย “บัญชีม้า”กระจายเงิน แทนการโอนตรงเข้าบัญชีหลักของขบวนการ ซึ่งมีการจ่ายค่าตอบแทนให้เจ้าของบัญชีม้า หรือใช้ร้านค้าบางแห่ง ไม่ว่าผู้ประกอบการรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวในการทำธุรกรรมปลอมในการโอนเงินเข้าแล้วนำเงินสดหรือสินค้าออกมาเพื่อปกปิดเส้นทางการเงินก็ตาม
ฉะตร.-แบงก์ระงับบช.ทำเดือดร้อนทั้งปท.
“แต่ปรากฏว่าตำรวจไซเบอร์กลับร่วมมือกับธนาคาร ใช้มาตรการระงับบัญชีที่ต้องสงสัยว่าถูกนำมาใช้เพื่อป้องกันการฟอกเงินและปิดกั้นเงินผิดกฎหมาย แต่กลับทำให้บัญชีของประชาชนผู้สุจริตเป็นจำนวนมากถูกผลกระทบโดนระงับบัญชีไปด้วย โดยเฉพาะคนตัวเล็กตัวน้อย คนหาเช้ากินค่ำ อาทิ แม่ค้าออนไลน์ ร้านค้า ที่ใช้ระบบโอนเงินผ่านการสแกนรหัส คนรับส่งของแมสเซ็นเจอร์ ไลน์แมน เป็นต้น แต่กลุ่มบริษัทใหญ่ๆ ที่ต้องสแกนจ่ายสินค้า เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านสะดวกซื้อ กลับไม่มีข่าวว่าถูกอายัดบัญชีด้วย เป็นการเลือกปฏิบัติหรือไม่” นายศรีสุวรรณกล่าว
และว่า ปัญหาดังกล่าวแม้ ธปท. กระทรวงดีอี ตำรวจไซเบอร์ สถาบันการเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะได้หารือกันว่า จะเร่งปรับแนวทางอายัดบัญชีและกระบวนการปลดอายัด เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนสุจริตโดยเร็ว ให้ประชาชนที่ถูกอายัดบัญชี โทรไปที่เบอร์ 1441 แต่ปรากฎว่าสายแทบไม่ว่าง หรือต่างก็โยนเผือกร้อนกันไปกันมา บางรายต้องเสียเวลาหอบเอกสารไปชี้แจงหน่วยงานโน้น นี่ นั่นมากมาย ใช้เวลาหลายเดือนกว่าจะปลดอายัดได้ เสียเงินเสียค่าใช้จ่ายไปเท่าไร แต่ไม่มีใคร หน่วยงานใด ออกมาแสดงความรับผิดชอบ สะท้อนว่า แม้จะมีประกาศใช้ พรก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2566 หน่วยงานเหล่านี้กลับละเลยเพิกเฉยไม่เตรียมการป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนผู้บริสุทธิ์
ด้วยเหตุดังกล่าว องค์กรรักชาติ รักแผ่นดิน จึงนำความมาร้องเรียนต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการททุจริตแห่งชาติ เพื่อให้ไต่สวนและวินิจฉัยว่าผู้บริหารหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ใช้อำนาจไม่เป็นธรรมและขาดความรับผิดชอบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์เข้าข่ายการทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือการยุติธรรมหรือไม่ เพื่อให้ดำเนินการชี้มูลความผิดลงโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องตามอำนาจของ ป.ป.ช.ต่อไป
‘อี้’พาผู้เสียหายร้องผบ.ตร.ถูกอายัด7เดือน
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ประธานชมรมสันติประชาธรรม พร้อม ต้นอ้อ ประธานมูลนิธิเป็นหนึ่ง นำประชาชนผู้เสียหาย จากการถูกอายัดบัญชีธนาคาร เนื่องจากมีเส้นเงินเกี่ยวโยงกับบัญชีม้า ทั้งที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฉ้อโกงหรือหลอกลวง แต่กลับถูกอายัดเงินในบัญชีธนาคาร นาน 7 เดือน ยังไม่ได้รับการปลดล็อกบัญชี ทำให้เกิดความเสียหายต่อการทำธุรกรรมทางการเงิน
ขณะเดียวกัน นายแทนคุณและต้นอ้อ เป็นหนึ่ง ยังได้ยื่นหนังสือถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องขอให้ทบทวนมาตรการอายัดบัญชีและจัดการบัญชีม้า โดยสนับสนุนอายัดในส่วนที่เป็นเฉพาะยอดเงินโอนของบัญชีต้องสงสัยเป็นบัญชีม้าเท่านั้น เพื่อแยกบัญชีของผู้บริสุทธิ์ที่ทำงานโดยซื่อสัตย์สุจริต ไม่ได้รับผลกระทบ และขอให้มีความละเอียดมากขึ้นหรืออาจกำหนดวงเงินขั้นต่ำในการเริ่มต้นอายัด เช่น เกินกว่า 50,000 บาทขึ้นไปจึงจะอายัดเป็นต้น
ผู้เสียหายหญิงรายหนึ่ง ซึ่งประกอบอาชีพธุรกิจร้านเสริมสวย ระบุว่าเมื่อ 7 เดือนก่อนได้รับโอนเงินจากลูกค้า 1,200 บาท หลังจากนั้นกลับถูกธนาคารอายัดเงินในบัญชีกว่า 100,000 บาท ซึ่งมารู้ตัวคือวันที่ต้องไปจ่ายค่าเทอมให้ลูก เมื่อสอบถามไปที่ธนาคารจึงทราบว่าถูกอายัดบัญชีเพราะมีส่วนเชื่อมโยงกับการรับเงินจากบัญชีม้า ซึ่งตนเองยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องและที่ผ่านมา มีการติดตามเรื่องมาตลอด 7 เดือนแต่ยังไม่ได้รับการถอนอายัดบัญชี ทำให้ได้รับความเดือดร้อน ไม่สามารถทำธุรกรรมทางการเงินได้
ส่วนผู้เสียหายหญิงอีกรายที่เป็นไรเดอร์ ให้ข้อมูลว่ารับงานจากลูกค้าคนหนึ่งเป็นประจำ ซึ่งลูกค้าจะโอนเงินเข้าบัญชีตนเองเพื่อให้ถอน แล้วนำไปจ่ายเป็นค่าสินค้า และมีอยู่ครั้งหนึ่งได้รับการโอนเงิน 100,000 บาท ซึ่งลูกค้าคนดังกล่าวแจ้งว่าให้นำไปจ่ายเป็นค่าสินค้าและบริการตามปกติ ซึ่งตอนนั้นก็ไม่ได้คิดอะไรเพราะรับงานกันมาตลอด และบางครั้งยอดโอนเงินมากกว่า 100,000 บาทด้วยซ้ำ กระทั่ง 4-5 เดือน หลังจากรับการโอนเงินยอดดังกล่าว ทำให้ตัวเองถูกอายัดบัญชีและไม่สามารถใช้บัญชีธนาคารได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องไว้ เพื่อนำเสนอผู้บังคับบัญชาพิจารณาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี