‘อนุทิน’ตรวจคุณสมบัติรมต.เข้ม
ทูลเกล้าฯครม.แล้ว
มั่นใจทำถูกต้องตามรธน.
ย้ำไม่หวั่นถูกยื่นร้องเรียน
‘ปชป.’ฝุ่นตลบชิงหัวหน้า
‘มาร์ค’แรงสุดลุ้นคัมแบ๊ก
“อนุทิน”เข้าทำเนียบฯประชุม สลค.-หน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจคุณสมบัติรมต.ใหม่รอบสุดท้าย ตรวจก่อนนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯ วันนี้ รับชื่อครม.เรียบร้อย จากนั้นเดินทางสักการะ “ศาลหลักเมือง-วัดพระแก้ว” บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปลาะ ยันรายชื่อไม่มีปัญหา มั่นใจทำถูกต้องตามรธน. “สมชาย”โพสต์บอก เสียดาย“ครม.หนู 1”? อาจอายุสั้น!ถ้ารายชื่อรมต.ตรงตามโผสื่อ ขณะที่“ปชป.”ยังฝุ่นตลบ 3 กระแส ชิงหัวหน้า“มาร์ค” มาแรงสุด แต่ติดที่ว่า จะกลับมาหรือไม่“บัญญัติ”ออกตัวไม่ขาเชียร์’อภิสิทธิ์’รับได้เปรียบสุดกลับฟื้นฟูพรรค ‘ศิริโชค’เชื่อ’อภิสิทธิ์’ยังไม่กลับปชป.ชี้’เดชอิศม์’ยังกุมอำนาจในพรรค
เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการทูลเกล้าฯรายชื่อคณะรัฐมนตรี ‘อนุทิน 1’ จะมีความชัดเจนเร็วสุดในเย็นวันนี้(16 ก.ย.)ต้องรอความชัดเจนจากสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี บรรยากาศพรรคภูมิใจไทยในช่วงเช้า ยังคงเงียบเหงา มีแกนนำพรรคเดินทางเข้าที่ทำการพรรคอาทิ นายทรงศักดิ์ ทองศรี ว่าที่ รมช.มหาดไทย นายศุภชัย ใจสมุทร ประธานคณะทำงานฝ่ายกฎหมายพรรคภูมิใจไทย ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เบื้องต้นยังไม่มีกำหนดการเดินทางเข้าพรรคในวันนี้
นายกฯ’เข้าทำเนียบฯตรวจก่อนทูลเกล้าฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 12.30น.น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล นายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย (ภท.)ได้เดินทางมายังตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.) เพื่อทยอยนำรายชื่อบุคคลที่ได้รับการเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรี มาส่งให้ น.ส.ณัฐฎ์จารี อนันตศิลป์ เลขาธิการคณะรัฐมนตรี ตรวจสอบคุณสมบัติ
เวลา 12.55 น.หัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบคุณสมบัติรัฐมนตรีได้เดินทางมาที่ตึก สลค.คาดว่ามาช่วยเลขาธิการคณะรัฐมนตรีตรวจคุณสมบัติ อาทิ นายปกรณ์ นิลประพันธ์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ รวมถึงตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตััง (กกต.)
จากนั้น เวลา 13.08 น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ได้นั่งรถยนต์ส่วนตัว โรลส์รอยส์ ทะเบียน วอ 3333 เข้ามายังตึก สลค.
‘อนุทิน’รับชื่อครม.เรียบร้อยทูลเกล้าฯวันนี้
เวลา 14.15น.นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางออกจากตึกสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.)ทำเนียบรัฐบาล โดยใช้เวลาหารือเกือบ 1 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวถามว่ารายชื่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยหรือไม่นายอนุทิน พยักหน้า เมื่อถามอีกว่าจะนำรายชื่อขึ้นทูลเกล้าฯได้วันนี้หรือไม่ นายอนุทิน ยิ้มและพยักหน้า พร้อมกล่าวว่า”วันนี้ๆ”
ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยหลังการหารือว่าไม่มีอะไร นายกฯกำชับให้ทำงานเต็มที่ เดี๋ยวเรื่องนโยบายค่อยว่ากันเมื่อถามว่า มาเรื่องของคุณสมบัติที่เกี่ยวกับประวัติอาชญากรรมหรือไม่ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ไม่มีอะไร
สักการะศาลหลักเมือง-วัดพระแก้ว
จากนั้น เวลา14.25 น. นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เดินทางมายังศาลหลักเมือง หลังตรวจสอบรายชื่อคณะรัฐมนตรีที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสร็จสิ้นแล้ว โดยมีพล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม รอต้อนรับ โดยจุดแรก นายกรัฐมนตรีได้สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์บริเวณหอพระ
ระหว่างทางที่จะเดินขึ้นไปยังหอพระ พล.อ.ณัฐพลที่เดินตามข้างหลังได้ลื่นล้มทั้งตัวหน้าบริเวณหน้าบันไดทางขึ้นหอพระ คาดว่าเป็นเพราะถุงเท้าทำให้ลื่น แต่พล.อ.ณัฐพลได้ลุกอย่างรวดเร็วและไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร ขณะที่ผู้เห็นเหตุการณ์ได้ร้องอุทานด้วยความตกใจ ต่อมานายอนุทิน ได้ผูกผ้าแพร 3 สี จากนั้นได้ถวายพวงมาลัยศาลหลักเมือง และสักการะศาลเทพารักษ์ทั้ง 5 พร้อมเติมน้ำมันตะเกียงพระประจำวันเกิด
ขณะที่ประชาชนที่มาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ศาลหลักเมืองต่างตะโกนให้กำลังใจนายอนุทิน “นายกฯสู้ๆ” ก่อนที่นายอนุทินจะหันไปยกมือไหว้ขอบคุณ
ก่อนที่จะเดินข้ามถนนจากศาลหลักเมืองมายังวัดพระแก้ว และเดินเข้าทางประตูสวัสดิโสภา เพื่อสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในพระบรมมหาราชวัง ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที ก่อนเดินทางออกมา พร้อมบอกผู้สื่อข่าวว่า “นำบุญมาฝาก” ผู้สื่อข่าวจึงสาธุพร้อมกัน
บอกเสร็จสิ้นภารกิจไปอีกเปราะ
เมื่อถามว่า เสร็จภารกิจจากวัดพระแก้วจะเดินทางไปที่ไหนต่อนั้น นายอนุทินระบุว่า ต้องรอลงนามรายชื่อคณะรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯ ส่วนสถานที่จะใช่ทำเนียบรัฐบาลหรือไม่ ต้องรอให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งอีกครั้ง พร้อมกับปล่อยมุก และพูดติดตลก “ไปร้านลาบมั้ง”
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า วันนี้รู้สึกสดชื่นหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ก็วันนี้เสร็จภารกิจ ที่เกี่ยวกับการทูลเกล้าฯ คณะรัฐมนตรีแล้ว ก็ถือว่าผ่านไปอีกเปราะ แต่ก็ยังมีอื่นๆอีกมากมายที่ยังต้องทำ
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ระหว่างที่นายอนุทิน จะขึ้นรถออกจากบริเวณหน้าวัดพระแก้ว มีนักท่องเที่ยวชาวตุรกีซึ่งพอทราบว่านายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เข้ามาขอถ่ายรูป เมื่อรถเคลื่อนออกไปจากบริเวณหน้าวัดพระแก้ว นักท่องเที่ยวกลุ่มดังกล่าวได้โบกมือให้ด้วย
เช็ครอบสุดท้าย ก่อนทูลเกล้าฯ
ต่อมา เวลา 14.32น.ที่ศาลหลักเมือง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเดินทางมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี(สลค.)ทำเนียบรัฐบาลเพื่อตรวจสอบรายชื่อบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีจะสามารถทูลเกล้าฯ ภายในวันนี้ได้เลยหรือไม่ว่า วันนี้มาประชุมกับหน่วยงานต่างๆที่ทาง สลค.ส่งชื่อไปตรวจสอบให้เป็นที่เรียบร้อย โดยเป็นการประชุมรอบสุดท้าย และคาดว่าเมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว เลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะทำเอกสาร เพื่อกราบบังคมทูลฯเพื่อขอพระกรุณา ให้ทรงมีพระบรมราชวินิจฉัยในเรื่องการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งครม.คิดว่าเย็นนี้น่าจะทำเสร็จ
ยันรายชื่อรมต.ไม่มีปัญหา
เมื่อถามว่ารายชื่อรัฐมนตรีที่เสนอมีปัญหาหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า” ตอนนี้ไม่มี” เมื่อถามต่อว่านายกฯลงนามไปแล้วใช่หรือไม่ นายอนุทินกล่าวว่า“ยังครับ ตอนนี้รายชื่อครบหมดแล้ว แต่ต้องมีการกรอกแบบฟอร์มให้ตรงกับการนำเสนอเพื่อทูลเกล้าฯ“ เมื่อถามอีกว่าเมื่อโปรดเกล้าฯรัฐมนตรีแล้วจะพามาสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์อีกหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าเดี๋ยวค่อยว่ากัน อันนี้แล้วแต่ความศรัทธาของแต่ละท่านไม่ได้บังคับกันอยู่แล้ว
มั่นใจทำถูกต้องตามรธน.
เมื่อถามต่อว่ามีกระแสข่าวว่าบุคคลที่ถูกเสนอชื่อเป็นรัฐมนตรีมีความสุ่มเสี่ยงเรื่องคุณสมบัติ นายกฯกล่าวว่า ยืนยันได้เลยว่าได้ตรวจสอบทุกอย่าง คนที่ถูกนำรายชื่อทูลเกล้าฯให้ทรงมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ต้องอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญ
เมื่อถามย้ำว่าจะไม่มีข้อร้องเรียนตามมาทีหลังใช่หรือไม่ นายกฯกล่าวว่า เราไปห้ามตรงนั้นไม่ได้ แต่เรามั่นใจว่าเราได้ทำสิ่งที่ถูกต้อง ทำตามกฏหมายและทำตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามว่ามีการตั้งข้อสังเกตว่าที่รายชื่อรัฐมนตรีล่าช้า เพราะมีการตรวจสอบกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจำนวนมาก นายกฯ กล่าวว่า “อย่าไปตั้งข้อสังเกตเลย ทำไมบอกว่าล่าช้าละ ผมก็ไปนั่งเทียบอยู่ทุกวันกับครม.ชุดเดิมๆ นั่งเช็คกับเลขาครม. มันมีขั้นตอนของมัน ของเรายังเร็วกว่าคนอื่นอยู่”
เสียดาย‘ครม.หนู1’? อาจอายุสั้น!
วันเดียวกัน นายสมชาย แสวงการ อดีตสมาชิกวุฒิสภา (อดีต สว.) ได้โพสต์ข้อความลงบนเฟซบุ๊ก ระบุว่า “#เสียดาย ครม.หนู1 อาจอายุสั้น ถ้ารายชื่อรมต.ตรงตามโผสื่อ คงถูกยื่นร้องขาดจริยธรรมตาม รธน 160(5) อาจจบด้วย#ยุบสภา หนีคำวินิจฉัยศาลรธน ปิดเกมส์ MOA ก่อนกำหนด 4 เดือน”
ปชป.ยังฝุ่นตลบ 3 กระแสชิงหน.
มีรายงานข่าวจากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)แจ้งว่าสำหรับการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ แทนนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ที่ลาออกไปนั้น ขณะนี้มีความเคลื่อนไหวใน 3 กระแส คือ 1.กระแสว่ามีหนึ่งในกรรมการบริหาร (กก.บหห.) พรรคชุุดรักษาการ อาจลงชิงหัวหน้าพรรคด้วย แต่เป็นกระแสที่มีการสนับสนุนเบาบาง 2.กระแสขนาดกลาง พวกที่อยากได้คนที่เป็นคนรุ่นใหม่ คนหนุ่มสาวเข้ามาบริหารพรรค และ3.กระแสแรงสุดตอนนี้ คือนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรค ซึ่งถือว่ามาแรงมากสุด แม้นายอภิสิทธิ์จะลาออกจากสมาชิกพรรคไปแล้ว แต่หากตัดสินใจกลับพรรคก็สามารถมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค และมีข้อบังคับพรรคงดเว้นให้อยู่แล้ว สำหรับอดีตหัวหน้าพรรค แต่ปัญหาคือนายอภิสิทธิ์จะมาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมานายอภิสิทธิ์ เคยบอกว่าไม่ต้องไปเชิญ ถ้าจะมาก็มาเอง คนที่สนับสนุนก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนา
‘มาร์ค’กระแสมาแรงมากสุด
ทั้งนี้ ยังเห็นว่าหากพรรคประชาธิปัตย์จะสู้ศึกเลือกตั้งคราวหน้า มีคนเดียวที่มองเห็นโอกาสคือนายอภิสิทธิ์ แต่ก็กังวลว่ากลัวจะเหมือนการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคที่ผ่านมา ขนาด นายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ อดีตหัวหน้าพรรค พูดเชียร์ นายอภิสิทธิ์ แทบจะเรียกว่าบังคับกันก็ยังไม่ได้ ดังนั้น จึงไม่ก็รูู้ว่าตอนนี้จะตัดสินใจอย่างไร แต่เห็นว่าถ้าพรรคจะเดินหน้าต่อ และสู้ศึกเลือกตั้ง ก็ต้องเป็นนายอภิสิทธิ์ที่มานำทัพ
‘บัญญัติ’ชมสปิริต’เฉลิมชัย’ไขก๊อก
ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.)นายบัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์กล่าวถึงการเลือกหัวหน้าพรรคคนใหม่ภายหลังจาก นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่า ขอแสดงความชื่นชมนายเฉลิมชัย เมื่อรู้ว่าสุขภาพไม่ดีท่ามกลางการขับเคี่ยวต่อสู้ทางการเมือง ก็ได้ตัดสินใจเสียสละลาออกจากหัวหน้าพรรค ส่วนตัวขอเอาใจช่วยให้สุขภาพดีขึ้นโดยเร็ววัน เพื่อจะได้กลับมาทำงานช่วยพรรคกันต่อไป
ออกตัว’อภิสิทธิ์’ได้เปรียบสุด
เมื่อถามว่า จะโน้มน้าวให้ สส.กลับมาสนับสนุน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับมารับตำแหน่งนี้หรือไม่ นายบัญญัติ กล่าวว่า ตนไม่ใช่ขาเชียร์นายอภิสิทธิ์ แต่ต้องยอมรับความจริงว่าท่ามกลางปัญหาของประเทศที่หนักหน่วงอย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ ท่ามกลางการแข่งขันอย่างจริงจังและเข้มข้นของแต่ละพรรคการเมือง คิดว่าหัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรคที่จะเข้ามาทำหน้าที่ดูแลพรรคท่ามกลางภาวะเช่นนี้ ก็ควรจะเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ทันต่อการเปลี่ยนแปลงมากด้วยประสบการณ์ ซึ่งในส่วนนี้ต้องยอมรับความจริงเหมือนกันว่า นายอภิสิทธิ์อยู่ในฐานะค่อนข้างที่จะได้เปรียบ
เมื่อถามว่า แบรนด์นายอภิสิทธิ์จะสามารถจะกลับมากู้วิกฤตให้กับพรรคได้ใช่หรือไม่ นายบัญญัติ กล่าวว่า ตนเองคิดว่านายอภิสิทธิ์อยู่ในเกณฑ์ที่น่าได้เปรียบ ถือว่ามีความเหมาะสมกับสถานการณ์ที่เป็นอยู่ในวันนี้พอสมควร แต่ลำพังตัวนายอภิสิทธิ์คนเดียวก็คงจะยังไม่พอ ทีมงานกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ควรจะมีลักษณะคล้ายคลึงอย่างที่ว่านี้ คือวิสัยทัศน์ทางการเมืองใช้ได้ เท่าทันการเปลี่ยนแปลง และมีประสบการณ์มากพอสมควร จึงน่าจะเป็นความเหมาะสม
‘ศิริโชค’เชื่อ’อภิสิทธิ์’ยังไม่กลับปชป
นายศิริโชค โสภา อดีตส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยในรายกา ร “สีสันการเมืองแบบเด้งเด้ง” ถึงกระแสเรียกร้องให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กลับไปฟื้นฟูพรรค หลังนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ลาออกจากหัวหน้าพรรคว่า แม้นายเฉลิมชัย ลาออกไป แต่สิ่งที่กลุ่มเดิมคือนายเฉลิมชัย และนายเดชอิศม์ ขาวทอง คิดซึ่งย้อนแย้งกับอุดมการเดิมของพรรคประชาธิปัตย์ยังอยู่เหมือนเดิม และฐานเสียงในพรรคก็ยังเหมือนเดิม ดังนั้นตนเชื่อว่านายอภิสิทธิ์ ไม่น่าจะกลับไป
“นายอภิสิทธิ์พูดเสมอว่าไม่ต้องเชิญกลับไปหรอก เขาจะกลับเมื่ออุดมการณ์ของพรรคกลับมาเหมือนเดิม เพราะฉะนั้นต้องวิเคราะห์คำพูดของคุณอภิสิทธิ์ ก็ต้องถามว่าวันนี้อุดมการณ์ของพรรคกลับมาเหมือนเดิมหรือไม่ ผมคิดว่ายังไม่ ถ้าถามผม ผมคิดว่าถ้าอุดมการณ์ยังเป็นแบบนี้ องคาพยพเดิม ผมไม่คิดว่าคุณอภิสิทธิ์ จะกลับไป”นายศิริโชค กล่าว
ชี้’เดชอิศม์’ยังกุมอำนาจในพรรค
นายศิริโชคกล่าวว่านอกจากนี้สัดส่วนของการเลือกหัวหน้าพรรค ที่ป็นแบบ 40:40:20 ส.ส.จะมีน้ำหนักเยอะกว่าประชาชนทั่วไป โดยลักษณะของโครงสร้างการเลือกตั้ง ยากที่พรรคประชาธิปัตย์จะกลับไปอุดมการณ์เดิม
“ผมวิเคราะห์นายเดชอิศม์คงไม่คลายอำนาจให้ใคร คงรักษาดุลอำนาจนี้ไว้อยู่ แต่จะสถาปนาตัวเองเป็นหัวหน้าพรรคหรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เขาคงไม่เอาอำนาจนี้ไปให้คนอื่น ผมว่าถ้านายอภิสิทธิ์ กลับไปวันนี้ก็ไม่สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ ผมจึงคิดว่านายอภิสิทธิ์ไม่น่ากลับไปวันนี้”นายศิริโชคกล่าว
นายศิริโชคกล่าวด้วยว่า ดูจากการที่นายเดชอิศม์ไปจัดประชุมสาขาพรรคเขตเลือกตั้งที่ 6 เมื่อวันสองวันที่ผ่านมาก็มีการพูดเชิงหยอกล้อว่าน่าจะได้คนสงขลา ลูกสงขลาเป็นหัวหน้าพรรค ดูจากตรงนี้ก็เป็นไปได้ว่าคุณเดชอิศม์ จะชิงหน้าพรรค แต่ก็ต้องดูสถานการณ์อีกที
นายศิริโชคย้ำว่าไม่เชื่อสาเหตุที่นายเฉลิมชัย ลาออก มีความขัดแย้งกับนายเดชอิศม์ แต่อาจมีความเห็นไม่ตรงกันบ้าง ซึ่งสาเหตุจริงน่าจะเกิดจากการมองว่า “ พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่หุ้นที่น่าลงทุนสำหรับเขาอีกต่อไป” ส่วนนายเฉลิมชัยจะไปตั้งพรรคใหม่หรือไม่ ตนก็ไม่ทราบ
รทสช.แตกกันยับเยิน 3 กลุ่ม
ผู้สื่อข่าวรายงานข่าวจากพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ภายหลังการโหวตเลือก นายอนุทิน ชาญวีรกูล ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ทำให้พรรค รทสช.แบ่งเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรค รทสช.โหวตงดออกเสียง กลุ่มของนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรค รทสช.โหวตสนับสนุนนายอนุทินเพื่อรักษาจุดยืนอนุรักษนิยมเอาไว้ โดยไม่ต่อรองตำแหน่งรัฐมนตรี และ กลุ่ม ายสุชาติ ชมกลิ่น อดีต สส.บัญชีรายชื่อ โหวตสนับสนุนนายอนุทิน โดยเปิดตัวร่วมรัฐบาล
พีระพันธุ์กอดแน่นไม่ปรับโครงสร้าง
ทั้งนี้ ภายในพรรครทสช.มีการหารือทิศทางการทำงานและเตรียมตัวเลือกตั้ง โดยมีการเสนอให้ปรับเปลี่ยนกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้ทำงานคล่องตัวขึ้นโดยมีการพูดคุยกันหลายครั้ง แต่สัดส่วน กก.บห.ซึ่งเป็นกลุ่มของนายพีระพันธุ์ ที่มีมากกว่ากลุ่มของนายเอกนัฏไม่ยอมให้มีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างพรรค และยืนยันจะทำงานพรรคในทิศทางเดิม เพราะเชื่อว่าพรรคมีคะแนนนิยมเหลืออยู่
‘กลุ่มชุมพร’ก๊วนลูกหมีจ่อซบภท.
ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาเริ่มมีความเคลื่อนไหวของ สส.และสมาชิกพรรค ออกมาแสดงความไม่พอใจท่าทีของนายพีระพันธุ์มากขึ้น โดยมีกระแสข่าวว่า”กลุ่มชุมพร”ซึ่งนำโดย นายชุมพล จุลใส หรือ ลูกหมี ได้ลาออกจากพรรค รทสช.และจะย้ายไปเปิดตัวสมัครสมาชิกพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ในวันที่ 17 ก.ย.นี้ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตาท่าทีนายเอกนัฏ แม้จะยังไม่มีความชัดเจนว่าจะอยู่ต่อกับพรรครทสช.หรือไม่ แต่ความเคลื่อนไหวของกลุ่มชุมพรของนายชุมพลซึ่งมีความสนิทสนมกับนายเอกนัฏ อาจจะส่งสัญญาณในทางการเมืองระดับหนึ่ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี