เพื่อไทยสลัด‘ชินวัตร’ไม่พ้น
ชู‘ลูกเขยแม้ว’
แคนดิเดตนายกฯคนต่อไป
เจ้าตัวแจงยังไม่คิดเรื่องนี้
ปชป.เลือกหน.ใหม่18ต.ค.
“อนุทิน”นำทีมเศรษฐกิจ ประชุมร่วมหอการค้าไทย ชี้โจทย์หลักรัฐบาลมุ่งแก้ปากท้อง เผย ทูลเกล้าฯ ครม.แล้ว ได้รับโปรดเกล้าฯ เมื่อไหร่ พร้อมลุยงานทันทีลั่นใจกว้างเดินหน้าต่อหมดถ้านโยบายดีนายกฯ สยบลือโผครม.สะดุด เหตุ‘รมต.’บางคนมีปัญหาคุณสมบัติ บอก‘ไม่มีอะไรนี่’‘ภูมิธรรม’แย้มอาจทาบ‘ณัฐพงศ์’สามีเอม ลูกเขยทักษิณ นั่งแคนดิเดตนายกฯ‘เพื่อไทย’คนต่อไป หากเสียงเชียร์เยอะ มั่นใจสส.ไม่ไหลออกหลัง‘หญิงอ้อ’เข้าพรรคให้กำลังใจ เชื่อ10ล้านเสียงยังหนุนพท.โวเลือกตั้งสมัยหน้าไม่ที่1ก็ที่2ด้าน ลูกเขยทักษิณ’ยิ้มตอบกระแสข่าวเป็นแคนดิเดตนายกฯ‘เพื่อไทย’คนต่อไป บอก ยังไม่ได้คิดด้าน‘ปชป’เคาะเฟ้นเลือก‘หัวหน้าพรรค-กก.บห’ชุดใหม่ 18 ต.ค.นี้ อุบชื่อแคนดิเดตชิงตำแหน่ง
เมื่อเวลา 09.33น.วันที่ 18กันยายน2568 ที่หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจระหว่างทีมงานเศรษฐกิจของคณะรัฐบาล คณะกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย
‘อนุทิน’นำทีมศก.ถกหอการค้าไทย
โดยมีนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ ว่าที่รองนายกฯ และรมว.คลัง นางศุภจี สุธรรมพันธุ์ ว่าที่รมว.พาณิชย์ นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ว่าที่รมว.พลังงาน และนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รมช.คลัง รวมถึงนายพจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการหอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรรมการหอการค้าไทยฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุม
โดย นายกฯ กล่าวเปิดการประชุมตอนหนึ่งว่า ทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าแปลกตา รู้จักกันมาเป็นเวลานานแล้ว และมีความสนิทสนมคุ้นเคยเคารพนับถือกันมาเป็นอย่างดี ตนมาในวันนี้เพื่อมาพบกับทุกท่านและนำคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจมาพบกับทุกท่านได้รู้จัก ซึ่งตนก็มั่นใจว่าท่านทั้งหลายรู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตนตั้งใจมาหารือและมารับข้อเสนอแนะจากหอการค้าไทย
โปรดเกล้าฯเมื่อไหร่ลุยงานทันที
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้น เป็นรัฐบาลที่เราเน้นเรื่องการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทยให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นภายในระยะเวลาที่เรามีอยู่ พร้อมกันนี้ ตนขออนุญาตแนะนำท่าน ผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในครม.ของตนที่ได้ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายรายชื่อไปแล้ว ถ้ามีการโปรดเกล้าฯ ลงมาจะเร่งแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เพื่อให้สามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ทันที
จากนั้น นายกฯ ได้แนะนำว่าที่ครม.เศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทินได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รมช.คลัง ว่าเป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส ว่าที่รองนายกฯ และรมว.คลัง เชื่อในฝีมือการทำงาน คัดเลือกมาเองกับมือ
ลั่นพยายามทำลายข้อจำกัดที่มีอยู่
นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังหารือกับสภาหอการค้าไทย กล่าวว่าวันนี้เรารับฟังปัญหาต่างๆเพื่อหามาตรการสร้างความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจ หาทางแก้ปัญหาให้กับผู้ประกอบการ แรงงาน ตัวสินค้า ภาษีและโลจิสติกส์ต่างๆ เราพยายามทำลายข้อจำกัดที่มีอยู่เพื่อไม่ปิดกั้นโอกาส ซึ่งในรายละเอียดว่าที่รมว.คลัง และว่าที่ รมว.พาณิชย์ จะนำสิ่งเหล่านี้ไปหาทางทำให้คล่องตัวขึ้นเพื่อแก้ไขปัญหาที่ค้างคาอยู่ และหลังจากนี้ตนจะเดินสายพูดคุยกับภาคเศรษฐกิจต่อไปอาทิสมาคมธนาคารไทย ซึ่งได้แจ้งกับนายผยง ศรีวณิช ประธารสมาคมธนาคารไทย ไปแล้ว โดยจะพูดคุยถึงสภาพคล่องทางการเงินค่าเงินบาทและดอกเบี้ย
พร้อมเข้าบริหารแผ่นดินอเต็มตัว
นายอนุทินกล่าวด้วยว่า4เดือนหลังการแถลงนโยบายจะยุบสภา การแถลงนโยบายจะเกิดขึ้นหลังจากคณะรัฐมนตรีถวายสัตย์ปฏิญาณแล้วซึ่งตั้งแต่สัปดาห์ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันเราเตรียมตัวร่างนโยบายที่จะแถลงต่อรัฐสภาไว้แล้วเกือบเสร็จแล้วมีปรับแก้นิดหน่อย อย่างวันนี้มาพบสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มีบางจุดที่เราคิดว่าอาจจะไปปรับแก้ให้สอดคล้องกับสิ่งที่ได้หารือกัน ขณะนี้เหลือเพียงกระบวนการตามขั้นตอนของรัฐธรรมนูญ รอให้ทุกอย่างเป็นไปตามนั้นแล้วดำเนินการเข้าราชการแผ่นดินอย่างเต็มตัว
ใจกว้างเดินหน้าต่อถ้านโยบายดี
เมื่อถามว่าในร่างนโยบายมีประเด็นเกี่ยวกับเศรษฐกิจกี่เปอร์เซ็นต์นายอนุทินกล่าวว่าร่างนโยบายที่แถลงต่อรัฐสภามีทุกมิติเพื่อความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นเราต้องพยายามอย่างเต็มที่ ทุกท่านคงเห็นว่าตนใจกว้าง ไม่คิดว่าหากผลักดันนโยบายที่ไม่ได้คิดเองออกไปอาจจะเป็นนโยบายของพรรคการเมืองอื่นแต่สำหรับตนคิดอย่างเดียวว่าถ้าเกิดประโยชน์กับประเทศประชาชนทำหมด เพราะเวลามีอยู่เท่านี้มัวแต่ไปคิดว่าถ้ากลัวใครดีเด่นไม่ได้ แต่ถือว่าวินวินทั้งคู่ ไม่ใช่คนหนึ่งชนะคนหนึ่งยอมแพ้ ถ้าเป็นแบบนั้นก็นำสู่ความขัดแย้ง ถ้าเราคิดว่าทุกอย่างถ้าประชาชนได้ตนบอกได้อย่างเดียวว่าตนเอาหมด มีรูมีหนู
สยบลือโผครม.สะดุด‘ไม่มีอะไรนี่’
เวลา 11.15 น.ที่สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีกระแสข่าวโผคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต้องปรับเปลี่ยน เพราะรัฐมนตรีบางคนมีปัญหาเรื่องคุณสมบัติ โดยระบุเพียงว่า วันนี้มาพูดคุยเรื่องการค้า เรื่องผู้ประกอบการเมื่อถามย้ำว่า จะปฏิเสธกระแสข่าวลือเมื่อคืน(17ก.ย.)ที่ออกมาหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า “ก็ไม่มีอะไรนี่”
ทำเนียบฯทำความสะอาดรับนายกฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศทำเนียบรัฐบาล ตั้งแต่ช่วงเช้ามีการเตรียมความพร้อมสถานที่สำหรับต้อนรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดใหม่ โดยในส่วนของตึกไทยคู่ฟ้า ซึ่งมีห้องทำงานของนายกรัฐมนตรี แม่บ้านได้ทำความสะอาดขัดล้างบริเวณระเบียงชั้น 2 บนตึกไทยฯ และมีการตัดแต่งต้นไม้โดยรอบตามปกติ
ในส่วนของห้องทํางานของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ซึ่งจากโผ ครม. ใหม่ มีรองนายกรัฐมนตรีถึง 5 คน และรัฐมนตรีประจําสํานักนายกรัฐมนตรี 4 คน ทำให้ห้องทำงานตึกบัญชาการ 1 ไม่เพียงพอ จึงจะมีการใช้ห้องทํางานที่ตึกบัญชาการ 2 เพิ่มเติม
ขณะเดียวกันมีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการเตรียมความพร้อมห้องประชุมครม.ที่ตึกบัญชาการ 1 ไว้สำหรับประชุม ครม.นัดพิเศษ ภายหลังการเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณด้วย
‘อิ๊งค์’เข้า’เพื่อไทย’ขึ้นห้องทำงาน
เวลา 10.45 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เดินทางเข้าที่ทำการพรรค ภายหลังเดินทางไปเยี่ยม นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เรือนจำกลางคลองเปรม โดยในวันนี้ น.ส.แพทองธาร ได้เดินเข้าทางประตูหน้าพรรค ไม่ได้เข้าทางด้านหลังที่ทำการพรรคเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา โดย น.ส.แพทองธาร ได้โบกมือ ส่งยิ้ม และยกมือไหว้ทักทายสื่อมวลชน ก่อนเดินขึ้นไปที่ห้องทำงาน ขณะที่แกนนำพรรคทยอยเดินทางเข้าพรรค อาทิ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย เป็นต้น
‘อ้วน’แย้มทาบ‘สามีเอม’ชิงนายกฯ
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษากการรองนายกฯและรมว.มหาดไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย ให้สัมภาษณ์กรณีที่มีกระแสข่าวว่าพรรคเพื่อไทยจะดึง น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ มาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคนั้น ในที่ประชุมได้มีพูดคุยกันอย่างไรบ้างว่าน.ส.พินทองทาท่านทำธุรกิจดีอยู่แล้วเมื่อถามถึงกระแสสังคมเชียร์ให้ทาบทาม นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามี น.ส.พินทองทามาเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคเพื่อไทยนั้น นายภูมิธรรมกล่าวว่า นายณัฐพงศ์เป็นคนสมาร์ท หล่ออยู่แล้วซึ่งก็ต้องถามเจ้าตัว หากกระแสสังคมเชียร์นายณัฐพงศ์เสียงดังๆ มากๆ ตนอาจจะไปเจรจาคุณแม่และภรรยาของนายณัฐพงศ์
ยก‘หญิงอ้อ’มีส่วนผลักดันมาตลอด
เมื่อถามถึงกรณีที่คุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์มารดาน.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าพรรคที่ได้เข้ามาที่ทำการพรรคและให้กำลังใจสส.ในการประชุมพรรคที่ผ่านมา นายภูมิธรรม กล่าวว่า คุณหญิงพจมานเป็นคนที่ใจแข็ง เพราะผลกระทบที่มีต่อครอบครัวท่านค่อนข้างรุนแรง การที่น.ส.แพทองธารมาเป็นนายกฯ คุณหญิงพจมานก็ไม่ได้อยากให้มาเป็นนายกฯอยู่แล้ว เพราะท่านกลัวการเมืองที่รุนแรง ขณะที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯเมื่อคุณหญิงพจมานเห็นท่านใส่ชุดสีฟ้าขึ้นรถลูกกรงไป สำหรับมหาเศรษฐีที่เคยเป็นอดีตนายกฯที่ดีคนหนึ่งของประเทศไทยและมีเงินมากมายมหาศาลขนาดนั้น ไม่ต้องเข้ามายุ่งเรื่องนี้ แต่เมื่อเจอนายทักษิณตัดผมสั้นเหมือนนักเรียนนายร้อย คุณหญิงพจมานท่านก็ยังแซวนายทักษิณว่าเหมือนนักเรียนนายร้อย พูดถึงความทรงจำเก่าแต่ความสะเทือนใจมันก็มี แต่ท่านเป็นผู้หญิงแข็งแกร่งไม่เสียน้ำตาง่ายๆ
“ทั้งนี้คุณหญิงพจมานเป็นคนที่ไม่ยุ่งการเมือง แต่สิ่งที่เป็นมรดกที่ครอบครัวเข้ามามีส่วนผลักดันและได้เห็นมาตลอด เพราะสิ่งที่ทำนั้นเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ท่านก็เข้ามาให้กำลังใจ ยิ้มและบอกว่าสู้ๆ นะคะ ขณะที่สส.ก็รู้สึกประทับใจในการวางตัวของท่านมาโดยตลอด เห็นใจในสิ่งที่พ่อและลูกถูกกระทำ ซึ่งท่านก็ทำให้ สส.ทุกคนรู้สึกดีมากๆ”
มั่นใจไม่ไหลออก‘หญิงอ้อ’ให้กำลังใจ
เมื่อถามว่าการที่คุณหญิงพจมานมาให้กำลังใจ ทำให้สส.ที่กำลังลังเลใจอยากย้ายพรรคยังอยากอยู่พรรคเพื่อไทยต่อหรือไม่ นายภูมิธรรม เชื่อว่าสส.ส่วนใหญ่ยังคงอยู่กับพรรค แต่ที่ผ่านมาอาจจะมีการบริหารจัดการพรรคที่บกพร่องไปบ้าง เป็นเรื่องธรรมดาของพรรคการเมือง บางคนอาจจะรู้สึกไม่สบายใจ แต่หลังจากแกนนำต่างๆ กลับมา และเห็นถึงชะตากรรมที่เกิดขึ้นต่อตระกูลชินวัตร ก็ทำความเข้าใจกันได้มากขึ้น ยิ่งเห็นนายทักษิณที่เปรียบเสมือนผู้นำทางจิตวิญญาณของพรรคเพื่อไทย เป็นคนที่ทุกคนเคารพรักและชื่นชมก็รู้สึกเห็นใจท่าน ดังนั้นความสะเทือนใจที่เกิดขึ้นและเห็นสิ่งที่ท่านต่อสู้เพื่อพี่น้องประชาชน นำพวกเรามาทำสิ่งดีๆ ได้เยอะ ดังนั้นตนเชื่อว่าคนที่จะออกจากพรรคนั้นมีไม่เยอะ ส่วนคนที่กังวลใจและได้พูดคุยกันก็ดีขึ้นเยอะ รู้สึกว่าเรามีพลังเพิ่มขึ้น
โว10ล้านเสียงยังหนุนฝันสมัยหน้าที่1ก็ที่2
“ยืนยันว่า 10 ล้านกว่าเสียงของพรรคเพื่อไทย เป็น 10 ล้านกว่าเสียงที่มั่นคง เราถูกกระทำถูกรัฐประหาร แต่ 10 ล้านเสียงนี้ไม่เคยแปรปรวน แต่จากสถานการณ์การเมืองที่ไร้เสถียรภาพและวุ่นวายขนาดนี้ ผมเชื่อว่า 10 ล้านเสียงยังคงมั่นคง และยังมีเสียงที่เคยสนับสนุนเราก็ตอบรับเรามากยิ่งขึ้น ผมเชื่อว่าครั้งหน้าพรรคเพื่อไทยไม่เป็นที่ 1 ก็เป็นที่ 2 ถ้าจะพลาดไปบ้างก็เป็นที่ 2 แต่จะทำออกมาให้ดีที่สุด” นายภูมิธรรม กล่าว
‘ลูกเขยทักษิณ’ยิ้มตอบยังไม่ได้คิด
ขณะที่ นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ สามีของ นางสาวพินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ บุตรสาวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธตอบคำถามถึงกระแสข่าวที่ตัวเองมีชื่อเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนต่อไปของพรรคเพื่อไทย โดยเพียงแค่ยิ้มให้สื่อเมื่อถามต่อว่า หลังจากนี้สนใจลงเล่นการเมืองหรือไม่นายณัฐพงศ์ กล่าวสั้น ๆว่า“ยังไม่ได้คิดเรื่องนี้ ”
‘ปชป’เลือก‘หน.-กก.บห’ชุดใหม่18 ต.ค.นี้
ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) รักษาการกรรมการบริหารพรรค เช่น นายประมวล พงศ์ถาวราเดช รักษาการหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ , นายชัยชนะ เดชเดโช รักษาการรองหัวหน้าพรรค , นายประกอบ รัตนพันธ์ รักษาการกรรมการบริหารพรรค, นายชนินทร์ รุ่งแสง รองเลขาพรรคฯ เข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อม พิจารณากำหนดวันจัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อให้มีการเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่ กรรมการบริหารพรรคไม่ได้เดินทางมาด้วยตัวเอง เนื่องจากใช้วิธีการประชุมผ่านระบบทางไกลจากในพื้นที่แทนอาทินายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการเลขาธิการพรรคที่ประชุมมาจากจังหวัดสงขลา
นายประมวลกล่าวภายหลังการประชุมว่าที่ประชุมมีมติให้วันที่ 18 ตุลาคม 2568 ให้มีการจัดประชุมใหญ่วิสามัญ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ที่โรงแรมมิราเคิลแกรนด์
อุบชื่อแคนดิเดตชิงเก้าอี้หัวหน้าฯ
ส่วนคนที่ยื่นแสดงตามจำนวนที่จะลงหัวหน้าพรรคนั้น นายประมวล กล่าวว่าวันนี้ไม่มีวาระเรื่องนี้ เป็นการประชุมเพื่อเตรียมพร้อมในการจัดทำประชุมใหญ่เพื่อให้เป็นไปตาม ข้อบังคับพรรคและพ.ร.บ.พรรคการเมือง สำหรับคนที่จะลงสมัครหัวหน้าพรรคสามารถยื่นสมัครในวันประชุมเพราะทุกคน คงรู้คุณสมบัติของตนเองว่าลงได้หรือลงไม่ได้ ถ้าลงได้ก็มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค หรือเป็นสมาชิกอยู่แล้ว
นายประมวล กล่าวว่า เรื่ององค์ประกอบการประชุมตนว่าไม่ได้มีปัญหา คิดว่าวันที่ 18 ตุลาคม ที่จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญราบรื่นดีและคิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เพราะทุกคนรักพรรค ต้องการให้พรรคเดินไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นถ้าเรามีปัญหาอีกประชาชนมองเราอยู่ ต้องเข้าใจว่าพรรคเป็นองค์กรต้องให้ความร่วมมือกับพรรค ไม่เห็นแก่ผลประโยชน์ส่วนตน เห็นแก่ผลประโยชน์ของพรรคและประชาชนเพื่อให้ประเทศชาติเดินไปข้างหน้าได้ในนามของพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อถามว่ารายชื่อของผู้สมัครหัวหน้าพรรคสามารถเปิดเผยได้หรือไม่ นายประมวล กล่าวว่าตนก็ทราบชื่อเท่าๆกับที่สื่อทราบ มีใครบ้างก็มีแค่นั้นแหละเมื่อถามต่อว่าในพรรคได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ว่า ใครจะมาเป็นหัวหน้าพรรค นายประมวล กล่าวว่า สส. ก็มีถามกันบ้างว่าใครจะมาเป็น แต่ตนขอเวลาอีกหน่อย 2-3 สัปดาห์ว่าผู้มาสมัครจะแสดงจำนงค์อย่างไร เพื่อให้สมาชิกพรรคที่เป็นโหวตเตอร์พิจารณา
มั่นใจไร้รอยร้าว พร้อมสู้ศึกลต.ครั้งหน้า
“นายเฉลิมชัย ศรีอ่อนหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้ฝากอะไรไว้ สิ่งที่ที่ตนต้องทำคือเป็นรักษาการหัวหน้าพรรค และจัดการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ให้จบ”นายประมวล กล่าว
เมื่อถามว่ากรรมการบริหารพรรคชุดใหม่จะไม่ทำให้พรรคแตกแยกไปมากกว่านี้ใช่หรือไม่ นายประมวล กล่าวว่า เรื่องความเห็นต่างทางการเมืองเป็นปกติของพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งอยู่ที่ผู้บริหารพรรคชุดใหม่จะเปิดกว้างหรือไม่ จะทำอย่างไรให้พรรคเดินหน้าต่อไปได้และพรรคอยู่ได้ให้ และเป็นที่พึ่งของประชาชน
เมื่อถามว่าจะประสานรอยร้าวในพรรคได้ใช่หรือไม่ นายประมวล กล่าวว่า รอบนี้ไม่มีรอยร้าว มีแต่จะช่วยสนับสนุนให้พรรคเดินไปข้างหน้าได้ เพราะเป็นบทเรียนของพรรคที่เกิดขึ้นมาแล้ว ซึ่งบทเรียนหลายครั้ง ก็จะทำให้ดีขึ้น กว่า 10 ปีที่ผ่านมา พรรคประชาธิปัตย์เกิดเหตุการณ์เช่นนี้มาโดยตลอด แต่พรรคเป็นองค์กรเชื่อว่าจะสามารถดำเนินการต่อไปได้
เมื่อถามถึงความพร้อมในการเลือกตั้งที่อาจจะเกิดขึ้นเร็วๆ นี้ นายประมวล กล่าวว่า ตนคิดว่าผู้บริหารชุดใหม่ก็คงดำเนินการ เราคิดไว้บางส่วนแล้ว ไม่ว่านโยบายพรรค หรือส่วนอื่นๆก็คิดไว้แล้วเพื่อให้ผู้บริหารพรรคชุดใหม่เข้ามาดำเนินการ เพราะนายเฉลิมชัยก็ได้มีการตั้งคณะทำงานเตรียมพร้อมในเรื่องนี้อยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี