'กัณวีร์’ปูดมีขรก.  รีดส่วยคนต่างด้าว  แลกได้สัญชาติไทย  บี้‘อนุทิน’แก้ปัญหา

'กัณวีร์’ปูดมีขรก. รีดส่วยคนต่างด้าว แลกได้สัญชาติไทย บี้‘อนุทิน’แก้ปัญหา

วันศุกร์ ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2568, 06.00 น.

“กัณวีร์”แฉเจ้าหน้าที่รัฐ รับส่วยคนต่างด้าว 3,000-40,000 บาท แลกได้รับสัญชาติไทย คาดมีความเสียหาย 2,500 ล้านบาท ไม่รู้เส้นเงินโยงถึงใคร บี้ ‘อนุทิน’ เร่งจัดการปัญหา ด้าน ‘วิโรจน์’ ยื่นเรื่องกรมการปกครอง ตรวจสอบ ด้านอธิบดีฯ ยันดำเนินการโดยเร็ว หากพบกระทำผิดมีบทลงโทษ ไม่มีการปราณี

เมื่อวันที่ 18กันยายน นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม แถลงถึงกรณีส่วยสัญชาติ ว่าจากที่ได้ลงพื้นที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ได้รับฟังประชาชนสะท้อนถึงกรณีคณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเมื่อวันที่29ตุลาคม 2567 ให้คนต่างด้าวที่พำนักอาศัยในประเทศไทยถาวรจะได้รับสัญชาติ แต่พบว่ามีการเรียกเก็บเงิน 3,000-4,000 บาท คิดดูว่าใน 483,626 คน ที่เข้าเกณฑ์ จะเป็นเงินเท่าไหร่ หากทุกคนจ่ายเงิน 5,000 บาท จะเป็นเงิน 2,500 ล้านบาท ที่ไม่เข้าระบบ อยู่ใต้พรม เราไม่สามารถมีสุญญากาศตรงนี้ รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ ตนจึงมี 5 ข้อเสนอถึงรัฐบาล


สำหรับ 5 ข้อเสนอ มีดังนี้ 1.ต้องเร่งปราบคอร์รัปชั่นให้ชัดเจนรวดเร็ว มิฉะนั้นประชาชนกลุ่มชาติพันธุ์ในพื้นที่ดังกล่าว รวมถึงพื้นที่อื่นๆในประเทศไทย จะต้องเสียเงินเท่าไหร่กับเหลือบไรพวกนี้ 2.จะต้องมีมาตรการจากส่วนกลาง แต่ละจังหวัดและแต่ละอำเภอ จะให้คนไร้สัญชาติเข้าถึงขั้นตอนได้อย่างไร เนื่องจากขณะนี้แต่ละพื้นที่ใช้มาตรการไม่เหมือนกัน จึงมีช่องว่างให้เจ้าหน้าที่รัฐตั้งแต่ระดับสูงถึงล่าง เรียกรับเงินจากประชาชน 3.อำเภอและจังหวัดจะต้องเคลื่อนที่ไปหาประชาชน ไม่ใช่ให้ประชาชนเข้าหา 4.ต้องใช้งบประมาณ กำลังพล และอุปกรณ์ โดยกระทรวงมหาดไทยต้องจัดสรรงบประมาณให้กับท้องถิ่น และ 5.จำเป็นต้องมีกรอบเวลาในการให้สัญชาติกับคน 4 แสนกว่าคน

“ผมมีโอกาสพูดคุยกับนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ท่านถามว่าเรื่องส่วยสัญชาติคืออะไร พอเรียนให้ทราบ ท่านบอกว่ายังไม่มีอำนาจเต็ม จึงบอกว่า ท่านต้องจัดการเรื่องนี้เร่งด่วน” นายกัณวีร์ กล่าว

นายกัณวีร์ กล่าวต่อว่า ทาง ผวจ.เชียงใหม่ ระบุว่าได้จัดทำมาตรการต่างๆ และยืนยันว่าจะไม่มีการคอร์รัปชั่นเรียกรับสินบน แต่ที่ อ.ฝาง ยังมีการเรียกรับเงิน จึงแจ้งไปยัง ผวจ.เชียงใหม่ แต่ก็ไม่สามารถจัดการอะไรได้ จึงตั้งคำถามว่าเหตุใดถึงทำไม่ได้ รู้ทั้งรู้ว่ามีการรับสินบน แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ทำให้รู้สึกว่ายังมีช่องว่างมากมาย แค่อำเภอเดียวของ 1 จังหวัด แต่คนไร้สัญชาติอยู่ในหลายจังหวัดของไทย จึงขอเรียกร้องให้แก้ปัญหานี้โดยด่วน ส่วนราชการอย่างเดียวไม่พอ ต้องมีเจตจำนงทางการเมืองด้วย

“ส่วยสัญชาติยังมีอยู่ ประเทศไทยอยู่ในคอรัปชั่นมาอย่างยาวนาน เชื่อว่าจะนำคนผิดมาลงโทษได้ หากจัดการเร่งด่วนก็สามารถแก้ปัญหานี้ได้ อย่างไรก็ตาม กังวลว่าภาคการเมือง จะมีเจตจำนงในเรื่องนี้อย่างไร เพราะการปราบคอร์รัปชั่นเป็นสิ่งสำคัญ และจะต้องออกมาจากฝ่ายบริหาร คือนายกฯ ย้ำว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ เพราะมีมูลค่าความเสียหาย 2,500 ล้านบาท ยังไม่รู้ว่าเส้นทางการเงินไปถึงไหนบ้าง หากนายกฯ บอกชัดเจนว่าจัดการได้ ก็แก้ปัญหาได้” นายกัณวีร์ กล่าว

ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีมีชาวบ้านพื้นที่ ต.แม่คะ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ออกมาร้องเรียนว่าเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองเรียกรับเงินเพื่อแลกกับการได้รับสัญชาติของบุคคลต่างด้าว ว่าต้องไม่มี หากเข้าดำรงตำแหน่ง รมว.มหาดไทย เรื่องพวกนี้จะต้องไม่มีในสมัยของตน จะดำเนินการโดยเด็ดขาด

ที่กรมการปกครอง นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคประชาชน พร้อมด้วย นายสมดุลย์อุตเจริญ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคประชาชน ยื่นหนังสือร้องเรียนต่อนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวร อธิบดีกรมการปกครอง กรณีมีการเรียกรับผลประโยชน์หลักหมื่นบาทจากชาวบ้าน ที่ประสงค์จะได้รับสถานะคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยชอบด้วยกฎหมาย หรือมีถิ่นที่อยู่ถาวร

นายสมดุลย์ กล่าวว่า ได้พบว่ามีการเรียกรับเงินประชาชนตั้งแต่ 5,000-20,000 บาท สำหรับดำเนินการออกใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ถาวรให้ผู้ที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน จึงอยากให้พิสูจน์สถานะบุคคล และประกาศอย่างชัดเจนว่าจะไม่มีการเรียกเก็บเงิน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอย และประชาชนคลายความกังวลมากยิ่งขึ้น

ขณะที่นายวิโรจน์ กล่าวว่า ทางอธิบดีกรมการปกครอง ระบุว่ามีคณะทำงานที่จะเข้าไปสืบสวนสอบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงเรื่องนี้ ส่วนประชาชนที่กังวลว่าจะขออนุญาตออกใบถิ่นที่อยู่ถาวรไม่ทัน เบื้องต้นอธิบดีฯแจ้งว่ามีกระบวนการติดตามอยู่ เพราะรายชื่อบุคคลที่อพยพเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นเวลานาน และบุตรของผู้ที่อพยพที่เกิดในราชอาณาจักร รวมกว่า 4 แสนคน มีรายชื่อที่ได้สำรวจและขึ้นทะเบียนไว้แล้ว อย่างไรก็ตาม หากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการต่อเนื่องก็เป็นหน้าที่ของกรมการปกครองที่จะเสนอให้ รมว.มหาดไทย และขอมติครม.ขยายระยะเวลาต่อได้

ส่วนนายนิรัตน์ กล่าวว่า เรื่องการแอบอ้างหาผลประโยชน์กรณีการขอสัญชาติ เป็นสิ่งที่ได้เฝ้าระวังเพราะตามจังหวัดที่อยู่ติดชายแดนเคยเกิดขึ้น มีการสั่งห้ามการกระทำดังกล่าว จนมีข้าราชการถูกจับกุม ไล่ออก และปลดออกทุกปี เช่นเดียวกับผู้นำท้องถิ่น ก็ถูกดำเนินคดีอาญา ฉะนั้นขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อว่าจะหมดเขตในการยื่นขอวันที่ 30 กันยายน 2568 หรือต้องจ่ายเงินค่าดำเนินการ เพราะตามมติครม.สามารถยื่นขอใบอนุญาตถิ่นที่อยู่ถาวรถึงเดือนมิถุนายน 2569

สำหรับกรณีการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่มีเจ้าหน้าที่รัฐรับส่วย นายนิรัตน์ กล่าวว่า กรมการปกครองได้ส่งเรื่องไปยังส่วนปราบปรามการทุจริต สำนักทะเบียนแล้ว จึงขอยืนยันว่ามีการทำงานร่วมกับท้องถิ่นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นหากตรวจสอบพบว่ามีการรับส่วยจริง โดยหากินกับพี่น้องประชาชนและความมั่นคงของชาติ ก็พร้อมดำเนินการทันทีอย่างไม่ปราณี และจะดำเนินการให้เร็วที่สุด แต่หากมีทั้งพยานหลักฐานและเกิดการข่มขู่ สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้ทันที

โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น

1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์

2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี

3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to Top